ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 ส.ค. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (รองผอ.ศปจร.น.)
พร้อมด้วย พ.ต.ต.นพรัตน์ บุญถนอม สว.กก.ดส. บช.น. ร.ต.อ.วัฒนา สวัสดิ์มงคล รองสว.กก.ดส. บช.น.
แถลงผลจับกุมนายลี ลิน เฮง อายุ 29 ปี ชาวสิงคโปร์ ข้อหาปลอมแปลงเอกสารราชการ พร้อมของกลาง รถยนต์สวมทะเบียนรถผู้อื่น 11 คัน เอกสารราชการปลอม เล่มทะเบียนรถ และเอกสารอื่นๆ จำนวนหลายรายการ
โดยจับกุมได้ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งภายในซอยลาดพร้าว 41 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม.
พ.ต.ต.นพรัตน์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายอภิวัฒน์ เรียนจบป.ตรีคณะวิศวะคอมพิวเตอร์ ผู้ต้องหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการ รายสำคัญในพื้นที่ จ.ลำปาง
ต่อมาชุดจับกุมได้ขยายผลไปถึงผู้ที่รับซื้อเอกสารปลอมจากนายอภิวัฒน์ คือนายลี ลิน เฮง ชาวสิงคโปร์ ได้พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อเอ็มจี สีเหลือง ทะเบียน 6 กย 6176 กทม. และรถยนต์ยี่ห้อ เอ็มจี สีขาวทะเบียน 5 กส 9013 กทม.
จากแนวทางการสืบสวนทราบว่านายลี ลิน เฮง เป็นนายหน้า รับทำเอกสารปลอมให้ลูกค้าชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และเทศบาลเมืองพัทยา
สั่งสินค้าจากนายอภิวัฒน์ ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ใช้ชื่อ “CHRIS LEE” ประเภทแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์,แผ่นป้ายภาษีรถยนต์,สมุดคู่มือประจำรถ,พาสปอร์ต,ทะเบียนสมรส,ใบอนุญาตขับขี่,แผ่นภาษีรถยนต์,บัตรประชาชน ฯลฯ โดยจะรับส่งสินค้าทางไปรษณีย์และทางเคอรี่เอ็กซ์เพลส
ส่วนราคาสั่งทำบัตรประชาชนอยู่ที่ 5,000-30,000 บาท อ้างว่าหากทำเอกสารกับตนเองจะได้สัญชาติ 2 สัญชาติ สามารถนำไปจดทะเบียนรับรองบุตร หรือแจ้งเกิดบุตรได้ รวมถึงปลอมทะเบียนสมรสให้ชาวต่างชาติว่าจดทะเบียนกับคนไทยแล้ว ทั้งนี้เอกสารปลอมต่างๆ มีความเหมือนเพียง 60 เปอร์เซ็นต์
จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาทำในลักษณะนี้มานานกว่า 2 ปี เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี 59 และอยู่เกินกำหนด
ด้าน น.ส.นัขกัญญา จิตต์ อารีทิตย์ อายุ 31 ปี ผู้เสียหาย อดีตเซลล์ขายสารเคมีบริษัทแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้เจอรถ เนื่องจากตนเป็นเจ้าของรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นแจ๊ส สีเทา ศม 588 กรุงเทพมหานคร ที่ได้ไปแจ้งความรถหายไว้ที่สน.บางพลัดเมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา
ก่อนเกิดเหตุได้ขายรถให้กับพี่ที่ร่วมงานกัน ก่อนจะถูกใบแจ้งชำระค่างวดรถตามทวงเงินค่าผ่อนรถ สอบถามไปให้พี่ที่ร่วมงานบอกว่าเอารถไปจำนำแล้วรถหายไปจากเต๊นท์ที่จำนำจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมรถสวมทะเบียนได้และพบว่ารถดังกล่าวเป็นตนเอง 
