ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งยกระดับปฏิบัติการรับมือ “น้ำท่วมภาคใต้” ระดมกำลังตำรวจจราจรช่วยผู้ประสบภัยเต็มที่
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) โดย พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการ ศจร.ตร.
ได้สั่งระดมกำลังตำรวจจราจรเข้าช่วยเหลือประชาชนและจัดการสภาพการจราจรในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ หลังหลายจังหวัดเผชิญฝนตกหนักและน้ำท่วมขัง ส่งผลให้ถนนหลายสายได้รับผลกระทบและประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ข้อสั่งการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ที่ให้ความสำคัญกับการบูรณาการกำลังเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นการเร่งด่วน
พล.ต.อ.สำราญ สั่งกำชับให้ตำรวจจราจรทุกหน่วยปรับแผนปฏิบัติการเต็มรูปแบบ พร้อมจัดเตรียมกำลังพล ยานพาหนะ รถยก และอุปกรณ์ช่วยเหลือ เพื่อรองรับสถานการณ์ในทุกพื้นที่เสี่ยง
สำหรับพื้นที่ที่ยังสามารถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจะเข้าดูแล อำนวยความสะดวก และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำ พร้อมติดตั้งป้ายแจ้งเตือนในจุดที่มีน้ำท่วมเป็นประจำ
ส่วนเส้นทางที่มีน้ำท่วมสูงจนใช้การไม่ได้ หรือมีเหตุดินสไลด์ปิดถนน จะจัดกำลังประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนผู้ขับขี่และให้ข้อมูลเส้นทางเลี่ยงผ่านทุกช่องทางสื่อ โดยเฉพาะจังหวัดขนาดใหญ่และพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก ได้รับการเน้นย้ำให้วางแผนจราจรรองรับสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัด ชุดเคลื่อนที่เร็ว เข้าพื้นที่ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศจร.ตร. กล่าวว่า ตำรวจจราจรทั่วประเทศพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังตามนโยบาย ผบ.ตร. และ ผอ.ศจร.ตร. เพื่อดูแลความปลอดภัยและลดผลกระทบด้านการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ประสบภัยภาคใต้ โดยถือเป็นภารกิจด่วนที่สุดในขณะนี้
พร้อมขอให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบระมัดระวังในการสัญจร หลีกเลี่ยงจุดน้ำลึก และดูแลสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศแปรปรวน ศจร.ตร.ห่วงใยและพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมติดตามประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ หากพบเหตุฉุกเฉินสามารถโทรแจ้งได้ที่ 1193 (ตำรวจทางหลวง), 1197 (ตำรวจจราจร) หรือ 191 / 1599 (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ตลอด 24 ชั่วโมง
