วันที่ 23 ม.ค.65 มีรายงานว่า เมื่อช่วง 22.00.ของวันที่ 22 ม.ค.65 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.พล.ต.ต.เอกราช ลื้มสังกาศ ผบก.ทล.พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2.บก.ป. พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2.บก.ทล.
ตรวจสอบสกัดก้ัน รถกระบะ โตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน บบ 4245 ลพบุรี แต่งล้อแม็ค ฝากระโปรงหน้า ติดสติ๊กเกอร์สีดำ กระจกหน้าติดสติ๊กเกอร์ ระบุข้อความ “หัวกะทิ”
มีนายสราวุธ อายุ 29 ปี ก่อเหตุขโมยปืน เอ็ม 16 จากค่าย ร.31 จ.ลพบุรี ขับหนีออกจากค่ายมุ่งหน้าเข้า กทม.เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกันเกรงจะไปก่อเหตุอันตรายกับประชาชน
จากข้อมูลที่ได้จากตำรวจพื้นที่ลพบุรีทราบว่า นายสราวุธ เป็นอดีตพลทหารเกณฑ์เคยประจำอยู่ในค่ายดังกล่าว ตั้งใจขโมยปืนไปยิงนายจ้าง ที่สำนักงานรับเหมาก่อสร้าง ใกล้แยกประชาอุทิศ (แยกเหม่งจ๋าย) กรุงเทพฯ
ทั้งนี้นายทหารค่ายลพบุรี เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองลพบุรี พนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลจังหวัดลพบุรี ออกหมายจับ ข้อหาลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน พบว่า นายสราวุธ ขับรถคันดังกล่าวมาถึง อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ได้สั่งตำรวจในพื้นที่คาดว่าคนร้ายจะขับผ่านมาให้เฝ้าสังเกตการณ์ รถกระบะต้องสงสัย หากพบให้สกัดจับและแจ้งผู้บังคับบัญชา
กระทั่งเวลา 18.35 น. มีรายงานว่า นายสราวุธ ขับรถกระคันดังกล่าว ผ่านบริเวณมหาชัย ขาเข้า ทล.35 ถนนพระราม 2 กิโลเมตรที่ 49 ต.นาโคก อ.เมืองสมุทรสาคร
พ.ต.ต.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เปิดเผยว่า หลังทราบว่าคนร้ายกำลังจะเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ ส.ทล.1กก.2.บก.ทล. จัดกำลังเตรียมความพร้อมตรวจสอบตามเส้นทางเพื่อสกัดจับ โดยเฉพาะปั๊มน้ำมันตามเส้นทางถนนพระราม 2 ที่คาดว่าคนร้ายจะเข้าไปใช้บริการ
จนพบว่านายสราวุธ ได้ขับรถเข้าปั้มน้ำมันปตท.ถนนพระราม 2 ขาออก อ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.ต.กฤตย์ จึงได้ประสานตำรวจลพบุรี ที่ขับติดตามมา ก่อนนำกำลังชาร์จจับกุมไว้ได้ขณะกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มภายในปั๊ม ตรวจค้นในรถพบของกลาง ปืนเอ็ม16 วางอยู่ที่เบาะหลัง นำตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจทางหลวงนครปฐม
เบื้องต้นนายสราวุธรับสารภาพ ต้องการโขมยปืน ไปขู่ผู้รับเหมาที่ภาคใต้ แต่ไม่ยอมบอกว่าที่ไหน ส่วนการโขมยปืนในค่ายทหารนั้นเพราะเคยอยู่มาก่อน ทำให้รู้ช่องทางหลบเลี่ยงเป็นอย่างดี ก่อนนำตัวส่งให้ตำรวจสภ.เมืองลพบุรี นำกลับไปสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
