ตำรวจทางหลวงสกัดจับรถพ่วงขนยาบ้ากว่า 13 ล้านเม็ดมูลค่ากว่า 1,000 ล้าน มุ่งหน้าลงใต้ ก่อนส่งออกประเทศที่สาม
วันที่ 1 ต.ค.67 ที่ ห้องประชุมขั้น 2 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. พล.ต.ต.มน ตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ช่วยราชการ บก.ทล. พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. และ พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.พุทธางกูร เรืองธรรม สว.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล.
แถลงผลจับกุมนายอมร หรือบ่าว อายุ 51 ปี และนายวีระพงศ์ หรือบอล อายุ 39 ปี พร้อมยาบ้า 13,130,000 เม็ด ห่อเป็นมัดบรรจุอยู่ในตะกร้าพลาสติก 65 ตะกร้า ซุกอยู่ในรถบรรทุกพ่วงเทรลเลอร์ 22 ล้อ ทะเบียน จ.สงขลา 1 คัน และโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง
พล.ต.ต.คงกฤช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.กำชับให้ตำรวจทางหลวงกวดขันจับกุมขบวนการขนยาเสพติดโดยใช้ถนนหลวงหลังกลุ่มขบวนการดังกล่าวอาศัยช่วงที่กำลังเจ้าหน้าที่ระดมไปช่วยน้ำท่วมที่ภาคเหนือ
กระทั่งวันที่ 30 ก.ย.ขณะตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ตั้งด่านบนถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ กม.378 อ.บางสะพาน พบรถบรรทุกพ่วงเทรลเลอร์ ทะเบียน จ.สงขลา ด้านหลังบรรทุกลังพลาสติก ลักษณะวางเรียงเป็นแนวยาวตามตัวรถคลุมผ้าใบสีดำ ขับเข้ามาในด่าน
ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ารถพ่วงคันดังกล่าวไม่มีบังโคลนและยังติดตั้งแตรลม ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่งฯ อยู่แล้ว
พ.ต.อ.บุญลือ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงเรียกให้หยุดและขอตรวจสอบใบขับขี่จากผู้ขับทราบชื่อนายอมร เจ้าตัวมีอาการพิรุธเหงื่อแตก มือสั่น เสียงสั่น เจ้าหน้าที่ได้เรียกให้ ลงจากรถ เพื่อขอตรวจสอบ
เมื่อเปิดผ้าใบคลุมรถพบยาบ้าห่อเป็นมัดวางในตะกร้าพลาสติก สำหรับใส่ผักผลไม้ จึงควบคุมตัวนายอมรทันที แต่ระหว่างนั้น นายวีระพงศ์ ที่แอบอยู่ในรถได้เปิดประตูวิ่งหนี เจ้าหน้าที่จึงวิ่งตามจับตัวได้
สอบสวนทั้งคู่รับสารภาพ รับจ้างขนยาเสพติดล็อตดังกล่าว มาจาก อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จะนำไปส่งในพื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ส่งต่อไปยังประเทศที่สาม จากนั้นจะมีคนมาคอยรับต่อไปอีกช่วงหนึ่ง ได้รับจ้างเที่ยวละ 200,000 บาท ทำมาเป็นเป็นครั้งที่ 2 ที่รับจ้างขนยาเสพติดล็อตใหญ่ลักษณะนี้
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ,ขับรถในขณะมีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ”
จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมยาเสพติดของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินคดีพร้อมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.คงกฤช กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ต.ค.66 – ส.ค.67 ตำรวจทางหลวงสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดไปแล้ว 1,569 คน ยึดยาเสพติดของกลาง เป็นยาบ้า 119,266,779 เม็ด, เคตามีน 568 กิโลกรัม, ยาไอซ์ 471 กิโลกรัม และ เฮโรอีนอีก 127 กิโลกรัม