เมื่อเวลา10.00น.วันที่13พ.ค.68 พนักงานสอบสวนสน.เพชรเกษม นำตัวน.ส.พอง อายุ18ปี ภรรยานายไสหาน อายุ23ปี ที่ถูกดำเนินคดี ลักลอบเข้าในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ไปส่งที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อกักตัวชั่วคราวในการสืบพยานจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ ก่อนจะผลักดันกลับประเทศต่อไป
ส่วนการสอบสวนนายไสหาน ผ่านล่าม ได้ความว่า คบหากับภรรยามาได้สักพัก จนภรรยาตั้งท้องได้5เดือน โดยตนมีอาชีพรับจ้างทาสีอยู่ที่จ.สมุทรปราการ ภรรยามาทำงานที่บ้านเกิดเหตุตั้งแต่วันที่28 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนเคยมาหาภรรยาเมื่อวันที่ 8พ.ค. เพื่อขอเงิน1พันบาท
แต่สังเกตเห็นนายยุทธโรจน์ สุวรรณสุเมธ นายจ้างพกกระเป๋าสะพาย ในกระเป๋ามีรีโมทประตูบ้าน กุญแจรถ และปืนพก ทางนายจ้างบอกให้ตนมาทำงานด้วยกัน จึงกลับไปลาออกจากงานเก่า
ต่อมาภรรยาไปพูดกับนายจ้างว่าตนเมาแล้วชอบทำร้างร่างกายภรรยา ทำให้นายจ้างปฏิเสธไม่รับเข้าทำงาน รู้สึกโกรธภรรยาที่ไปบอกกับนายจ้าง
ก่อนเกิดเหตุเหมารถแท็กซี่มาจากจ.สมุทรปราการ มาถึงที่เกิดเหตุในราคา700บาท เมื่อถึงหน้าประตูบ้าน ยืมโทรศัพท์โชเฟอร์โทรเข้าไปภรรยาให้ออกมาเปิดประตูรั้ว เพื่อจะขอเงินมาจ่ายค่ารถแท็กซี่ แต่ไม่มีใครมาเปิดประตูให้ จึงปีนประตูรั้วเข้าไป
เมื่อถึงหน้าเรือนไทยกลางน้ำ พบนายจ้างถือปืนออกมาห้ามไม่ให้เข้าไปหาภรรยา ตนยืนยันจะเข้าไป นายจ้างใช้ปืนยิงลงพื้นตรงหน้าขู่ตน2นัด ตนคิดว่าไม่มีอะไรจะเสีย กระโดดกอดตัวนายจ้างเพื่อป้องกันตัว เกิดการยื้อแย่งปืนจนลั่นใส่นายจ้าง1นัด จนแน่นิ่งไป
จากนั้นตนเดินเข้าไปตบภรรยาด้วยความโกรธ และคว้าปืน รวมทั้งกระเป๋านายจ้างออกมาด้วย ใช้กุญแจไขรถกดรีโมทเปิดประตู ก่อนจะขับรถออกไปแบบไม่รู้ทิศทาง จนเฉี่ยวชนรถจยย.บริเวณแยกบ้านแขก และย่านถนนข้าวสาร จนทะเบียนหน้าหลุด ถูกกลุ่มจยย.ล้อมพยายามเปิดประตูรถ แต่ก็หนีรอดมาได้
ขับรถไปถึงแฟลตตำรวจภูธรภาค1ถนนวิภาวดีฯ รถดับโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงขึ้นรถแท็กซี่ไปที่ตลาดรังสิต เปิดโรงแรมนอน1คืน จากนั้นนั่งรถเมล์ไปหางานทำย่านซอยอ่อนนุช65 เมื่อได้งาน จึงเอาโทรศัพท์คนตายไปให้ที่ร้านขายโทรศัพท์ใกล้บ้านนายจ้างปลดล็อก แต่เสียค่าใช้จ่าย500บาท ตนไม่มีเงินจึงทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่ร้านกระทั่งมาถูกจับกุมตัวดังกล่าว
ก่อนนี้เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 พ.ค. 68 พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บชน. พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บกน.9 พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พร้อมชุดสืบสวน เดินทางไปตลาดรังสิต จ.ปทุมธานี
ภายหลังได้เบาะแสพบว่านายไสหาน อายุ 23 ปี ชาวเมียนมา คนร้ายที่ฆ่านายยุทธโรจน์ สุวรรณสุเมธ อายุ 70 ปี เสี่ยเจ้าของฟิตเนสเสียชีวิตหายเข้าไปภายในตลาด โดยกระจายกันสืบหาแต่ยังไร้วี่แวว
ต่อมาชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีรถยนต์ต้องสงสัยถูกจอดทิ้งไว้ริมถนนวิภาวดีฯ ขาออก หน้าแฟลตตำรวจภูธรภาค 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพบรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีเทา-ดำ ทะเบียน ชท 7074 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตาย แล้วคนร้ายขับหลบหนี
สภาพด้านหน้ารถมีรอยเฉี่ยวชนหลายจุด จนทะเบียนด้านหน้าหลุดหายไป ประตูถูกปิดล็อกทั้ง 4 บาน กุญแจถูกเสียบคาไว้ น้ำมันยังมีเหลืออีกครึ่งถัง แต่รถไม่สามารถสตาร์ทได้ สอบถามชาวบ้านเห็นคนขับจอดรถทิ้งไว้ แล้วขึ้นรถไฟฟรีไปลงที่รังสิต จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจลายนิ้วมือแฝงในรถ ก่อนจะนำรถสไลด์มายกรถคันดังกล่าวกลับไปไว้ที่สน.เพชรเกษม
พ.ต.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าคนร้ายหลบไปอยู่ที่ใด แต่รู้ว่าหายเข้าไปในตลาดรังสิต หากใครทราบเบาะแสคนร้ายจนนำไปสู่การจับกุม มารับรางวัลจากตนเป็นเงินสด 2 หมื่นบาทได้เลย
ล่าสุด มีรายงานตำรวจสามารถจับกุมนายไสหานได้แล้วที่ซอยอ่อนนุช 65 ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำที่ สน.เพชรเกษม
