ผู้การพังงาแถลงตำรวจตั้งด่านค้นพบปืนสงคราม 4 กระบอก คุมตัว4ผู้ต้องหาภูมิลำเนาชายแดนใต้สอบเข้มขยายผลต้นทางไปยังปลายทาง เผยพบแค่ประวัติยาเสพติด อ้างมีผู้ให้นำไปส่งภูเก็ตได้ค่าจ้าง7หมื่น
เมื่อวันที่ 23 มี.ค.68 พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ. จว.พังงา พ.ต.อ.วีระพงษ์ รักขิโต ผกก.สภ.เมืองพังงา พร้อมชุดสอบสวน สืบสวน แถลงผลจับกุมขบวนการขนอาวุธสงครามส่งเข้าพื้นที่จังหวัดภูเก็ต แต่ถูกด่านตรวจความมั่นคงวังหม้อแกง อ.เมือง จ.พังงา ตรวจค้นจับกุมได้ก่อน
โดยเมื่อคืนช่วง 03.00 น. วันที่ 21 มีนาคม 2568 ตร.ชุดจับกุมตั้งจุดสกัดบริเวณที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่นไททัน สีเทา ทะเบียน บน 6463 ปัตตานี มีนายอับดุลรอแม อายุ 49 ปี เป็นคนขับและนายไฟซ๊อล อายุ 28 ปี นั่งข้างคนขับ
และมีรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน งน 870 สงขลา พบนายซูลอัฟฟัล อายุ 28 ปี เป็นคนขับและนายเสาวรุส อายุ 27 ปี นั่งข้างคนขับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตทั้ง2คันท่าทางมีพิรุธ จึงขอตรวจค้นและขอตรวจค้นภายในรถยนต์
พบอาวุธปืนเล็กยาวจู่โจม AK-47 หรือปืนอาก้า 4 กระบอก และเครื่องกระสุน AK-47 ขนาด 7.62 มม. 9 นัด บรรจุในซองกระสุน 1 อัน รวมเครื่องกระสุนปืนทั้งสิ้น54 นัดทั้งหมดอยู่ในถุงกระสอบสีขาว ซุกซ่อนอยู่ด้านหลังเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 4 คนรับสารภาพกำลังจะไปที่ จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 พร้อมด้วยของกลางส่ง พงส.สภ.เมืองพังงา ดำเนินคดี
พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.พังงา จากขยายผล ทั้ง 4 คน ยังไม่พบว่ามีประวัติทางคดีความมั่นคง แต่มีประวัติคดียาเสพติด
ผู้ต้องหารับว่าได้รับการติดต่อขอให้ส่งอาวุธปืน โดยได้ค่าจ้าง 70,000 บาท จึงเช่ารถฟอร์จูนเนอร์ราคาวันละ 2,500 บาท 3 วัน รวมค่ามัดจำโดยจ่ายไปแล้ว 12,500 บาท ซึ่งวันที่ 21 มี.ค.68 จึงได้นำอาวุธปืนมาส่งที่ปลายทางจังหวัดภูเก็ต แต่ถูกตำรวจพังงาจับกุมได้ก่อน
ทั้งนี้ตำรวจพังงาจะได้ร่วมประสานชุดสืบสวนและหน่วยงานความมั่นคงทั้งจังหวัดต้นทางและปลายทางถึงการนำอาวุธปืนสงครามเหล่านี้เพื่อขยายผลถึงการนำสงครามและเครื่องกระสุนเหล่านี้หาความเชื่อมโยงกับประเด็นอื่นด้วยหรือไม่ต่อไป
จึงนับว่าเป็นผลการปฎิบัติงานยอดเยี่ยมของตำรวจพังงาที่มีไหวพริบปฎิภาณในการทำงานจนสามารถสกัดจับกุมอาวุธสงครามได้ในครั้งนี้
