วันที่17กพ.68มีรายงานว่า ตำรวจภูธรภาค 3 โดย พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3/ผอ.ศอ.ปส.ภ.3 พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ รอง ผบช.ภ.3/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด
พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายมานพ แสงโสทร ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 3
โดยการอำนวยการของ พล.ต.ต.สนธยา แต่แดงเพชร ผบก. สส.ภ.3 พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา พ.ต.อ.ธรรมนูญ ฉิมวงษ์ รอง.ผบก.สส.ภ.3 พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา พ.ต.อ.ทศพร เพียรปรุ ผกก.สืบสวน 2บก.สส.ภ.3 พ.ต.อ.พรเทพ ทุ้ยแป ผกก.สส. ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง พ.ต.อ.อิทธิพัทน์ ศรีมั่น ผกก.สภ.พระทองคำ, พ.ต.อ. ศิวภาคย์ พวงจันทร์ ผกก.สภ.บ้านปรางค์ บูรณการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จับกุมนายอภิชาติ หรือรักอายุ 41 ปี ชาวจว.กาฬสินธุ์พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 599 กิโลกรัม โทรศัพท์ 1 เครื่องรถยนต์กระบะ 1 คัน
โดยกล่าวหาว่า “จำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนชนิดเกล็ดหรือสารไอซ์)โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย”
หลังสืบทราบว่ามีเครือข่ายยาเสพติดชาว สปป.ลาว จะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน จว.บึงกาฬ ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่พื้นที่ภาคกลางตอนในของประเทศไทย ผ่านพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 และภาค 4 ใช้ รถยนต์กระบะ ในการขนลำเลียง
จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะต้องสงสัย เคลื่อนตัวออกจากพื้นที่ชายแดน จว.บึงกาฬ เชื่อว่าจะลำเลียงนำยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนเข้าไปยังพื้นที่ภาคกลางตอนในของประเทศไทย จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางกำลังตามเส้นทาง
ก่อนพบว่ารถยนต์กระบะดังกล่าวบรรทุกสิ่งของบริเวณท้ายกระบะใช้ผ้าใบปกคลุมปิดบัง จนกระทั่งมาถึง ต.สระพระ อ.พระทองคำ จว.นครราชสีมา จึงเข้าสกัดกั้นตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง
สอบสวนขยายผลนายอภิชาติ ฯ รับว่าได้รับการว่าจ้างจากนายเปี๊ยก ไม่ทราบชื่อและสกุลจริง โดยติดต่อผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ โดยให้นายเปี๊ยก ให้ตนขับรถยนต์กระบะไปรอรับยาเสพติดที่ อ.บุ่งคล้า จว.บึงกาฬ
จากนั้นให้จอดรถทิ้งไว้จะมีคนนำรถของตนไป ให้รออยู่ประมาณ1 ชั่วโมง 30 นาที ก็มีโทรศัพท์แจ้งให้ตนเองไปเอารถกลับมา และเชิญตนเข้ากลุ่มแอปพลิเคชั่นไลน์ และแชร์โลเคชั่นตลอดเส้นทางตนจะใช้เส้นทางตามโลเคชั่นที่ส่งมาในกลุ่มจนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับได้
สำหรับเครือข่ายดังกล่าว คือ เครือข่าย“มังกรบิน” เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสืบสวนติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป