เป็นลูกชายคนที่6 และเป็นลูกชายคนเดียวใน 7 คน ของครอบครัวชาวสวนฝั่งธนบุรี จบชั้นมัธยมโรงเรียนวัดหนองแขม พ่อแม่อยากให้เป็นตำรวจ เลยสอบเข้าเตรียมทหาร ปีแรกพลาด แต่ไม่ยอมแพ้ สอบต่ออีกปี ติดเตรียมทหาร รุ่นที่26 นรต.รุ่น42
พ้นรั้วสามพรานปี 2532 บรรจุที่แรก ที่ สภ.อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ปี 2537 เป็นพนักงานสอบสวน บก.สอบสวน บช.ปส.1 ปี จากนั้นเป็นนายเวร พล.ต.อ.สมชาย มิลินทางกูร ผบช.ปส.ในขณะนั้น
สุระ1-พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 ย้อนอดีตให้ฟัง
เบ้าหลอมดีด้วย สมชาย มิลินทางกูร
เจอท่านตั้งแต่ท่านเป็น ผบก.ทล. สมัยอยู่ อ.กบินทร์บุรี ท่านมาตรวจคดีคนร้ายที่ถูกทางหลวงจับกุม ก็มารู้จักกัน แล้วท่านเลื่อนเป็น รอง ผบช.ภ.1 คุมผมโดยตรง เมื่อก่อน บช.ภ.1 คุม 24 จังหวัด สมัยนั้นยังมีแค่ 4 บช. ก็ไปมาหาสู่ท่าน
เวลาทำคดี ได้ตำรวจปราบปรามดีเด่น ไปรับรางวัลก็เจอท่าน แล้วท่านมีความเมตตา เก่ง ก็เข้าไปพูดไปคุย ไปศึกษาวิธีการทำงานของท่านๆ ปี 2537 ท่านเป็น ผบช.ปส.เลยไปอยู่ บก.สอบสวน บช.ปส. พอปี 2538 ท่านแต่งตั้งให้เป็นนายเวร อยู่ยาวจนท่านเกษียณ ปี 2543
ซึมซับความรู้100%
อยู่กับท่าน ซึมซับหลายเรื่อง ได้ความรู้จากท่าน 100% ไล่ตั้งแต่เรื่องสอบสวน เรื่องบริหารงาน เรื่องคอนเน็คชั่น ศิลปะการทำงาน เทคนิค วิธีการต่างๆท่านถ่ายทอดให้ เวลาท่านไปประชุมยาเสพติดโลก บางทีไปเป็นเดือน ไม่เอานายเวรไป เราก็ดีใจนายไม่อยู่ แต่ตรงกันข้าม สู้นายอยู่ดีกว่า เพราะก่อนไปนายหิ้วหนังสือมามัดหนึ่ง เอามา บอกว่า เฮ้ย ปัด ผมก็เอาไม้ขนไก่มาปัด เป็นหนังสือนิยาย ไม่รู้กี่เรื่อง 40-50 เรื่อง
อ่านหนังสือนิยายเป็นปึก
ท่านเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ความรู้ท่านเยอะมาก ท่านเลือกอ่านนิยาย ผมงงเลย ทำไมผมเป็นตำรวจต้องอ่านนิยาย ท่านสั่งว่าอ่านแล้วสรุปมาในแต่ละเรื่อง ใครเป็นพระเอก ใครเป็นพระรอง ใครเป็นคนร้าย แต่ละคนมีพฤติกรรมยังไง สั่งไว้แค่นี้ ให้สรุปทุกเรื่อง โอ้โห ไม่ต้องทำอะไร อ่านหนังสืออย่างเดียว จนท่านกลับมายังอ่านไม่หมด
เป็นหนังสือแปลด้วยหนังสือไทยด้วย เพชรพระอุมา ยังมี ผมยังจำได้หลายเรื่อง เพชรพระอุมา พนมไพร อย่างนี้ เอามาให้อ่าน พออ่านเสร็จอย่างน้อก็นั่งเขียนเป็นเล่ม สรุปสั้นๆ ตัวละครเป็นไง สภาพพื้นที่ ภูมิประเทศ เป็นไง ท่านสั่งไว้
พอท่านกลับมาจากต่างประเทศปั๊บนึกว่าท่านจะลืม ท่านบอก ชี้แจงมาแต่ละเรื่องเป็นยังไง แต่เราก็ทำการบ้าน ผมมีวินัยไง มีวินัยมาก ก็ชี้แจงนายไป เรื่องนี้เป็นอย่างนี้ เรื่องนี้เป็นอย่างนั้น เสร็จแล้ว ผมก็ถามว่า ทำไมผมต้องอ่านนิยาย
ดูคนออกเพราะอ่านหนังสือ
ท่านก็บอกว่า แต่ก่อนนิยายเขาเขียนมีประสิทธิภาพ คนเขียนมีประสบการณ์ เดินทางไปตรงโน้นที ตรงนี้ที เหมือนนิราศสุนทรภู่ ผ่านตรงไหนยังไง จะบรรยายบรรยากาศของบ้านเมืองให้เห็นภาพต่างๆ นิยายจากต่างประเทศ ก็จะบอกว่า ลอนดอน ฝรั่งเศส อิตาลี เป็นไง ก็ได้เห็น ได้รู้วัฒนธรรม แนวคิดคน เป็นสิ่งที่ทำให้ผมอ่านคนออกเยอะเลย
ได้หลายอย่างจากนิยาย
ในนิยาย การวางแผน การทำงาน ทำให้รู้ลักษณะนิสัยคนร้าย นิสัยโจร คิดอะไร ยังไง ทำอะไร พระเอกจะแก้ยังไง ใช้วิธีการยังไงจะมีบอก ได้เรียนรู้ได้ประสบการณ์เยอะ ที่สำคัญภาษาหนังสือจะได้ด้วย ได้คำที่สละสลวย พูดอะไรแล้วคนเข้าใจ ไม่ต้องแปล ก็ได้จากนิยาย เพราะคนเขียนเขาใช้ภาษาที่สละสลวย ชัดเจน แล้วพูดอะไร ก็ไม่ต้องแปล
เมื่อก่อนผมไม่ค่อยชอบการอ่าน แต่พอท่านสอนให้อ่าน จะชอบ พออ่านแล้วจะได้ความรู้ที่แตกฉาน จะรู้ว่าใจความสำคัญอยู่ตรงไหน เหมือนภาษาอังกฤษที่เขาบอกว่า ท็อปปิกพอยต์อยู่ตรงไหน ไม่ได้อยู่ที่พารากราฟแรกหรือพารากราฟสุดท้าย จะรู้ได้เร็ว เวลาร่างหนังสือ หรืออ่านหนังสือราชการจะรู้วิธีการอ่านหนังสือ ว่าเป็นยังไง
นายพลใหญ่อีสานใต้เล่าถึงเคล็ดความสำเร็จ
สอนวิธีเข้าถึงชาวบ้านดูแลชาวบ้าน
ท่านยังสอนเรื่องยุทธวิธีเรื่องการยิงปืน การจับกุมคนร้าย การเข้าระงับเหตุ การระวังป้องกันควรจะทำยังไง แล้วลูกน้องปลอดภัย จับกุมคนร้ายได้ สอนในเรื่องการออกตรวจ สอนการเข้าถึงประชาชน
ท่านบอกว่า สมัยท่านเป็น รอง สว. เวลาไฟดับท่านจะขึ้นรถจิ๊ป ออกตรวจดูแลชาวบ้าน เพราะ เวลาไฟดับ คนร้ายจะชอบไปลักขโมย ท่านจะขึ้นรถจิ๊ปเปิดสัญญาณไฟ วิ่งทั้งคืนจนกว่าไฟฟ้าจะมา ท่านจะสอนวิธีทำงานการคลุกคลีกับชาวบ้าน ก็ได้กลยุทธ์ วิธีการทำงานต่างๆ
เคารพรักเหมือนพ่ออีกคน
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการประสานสิบทิศ จะคุยยังไง ไม่ให้คนทะเลาะกัน ถ้าเราไม่มีความยุติธรรม เราจะไม่ได้ความรักจากประชาชน เขาจะไม่เชื่อถือ ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้ช่วยเหลือใคร แต่ต้องยืนด้วยความผิดหรือถูกก่อนแล้วต้องตรง ท่านไม่ได้สอนให้ขาวเป็นดำ
ผมเคารพรักท่านเหมือนพ่อคนหนึ่ง ยังไปหาท่านอยู่ หลายเรื่อง เรื่องการปกครอง บังคับบัญชาคน การเอาใจเขามาใส่ใจเรา การดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ท่านสอนเยอะมาก
นายเกษียณฯลงเป็นรองผกก.191
เป็นผู้ช่วยนายเวร จนท่านเกษียณ รอง ผบ. ผมก็ลงพื้นที่ ครั้งแรก ปี 2543 เป็น รอง ผกก.รถสายตรวจ 191 อยู่ตั้งแต่ปี 2543 ถึง 2548 ตอนนั้นก็มีผู้ใหญ่ใน ตร.เวลานี้หลายท่าน อาทิ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ที่ทำงานอยู่ด้วยกัน จนปี 2548 เลื่อนตำแหน่งเป็น ผกก. อยู่ที่ศูนย์รวมข่าว สมัยนี้คือศูนย์ผ่านฟ้า เป็นอยู่ 3 ปี ก็คุม รู้ความเคลื่อนไหวข้อมูลข่าวสารใน กทม.ทั้งหมด
อยู่ บช.ก. ภูธร นครบาลก่อนขึ้นผบช.ภ.3
สไลด์มาเป็น ผกก.สน.ลุมพินี แล้วได้ขึ้น รอง ผบก.อคฝ.หน่วยเปิดใหม่ จากนั้น เป็น รองผบก.น.9 แล้วโยกมาเป็น รอง ผบก.ใน บช.ก. เป็น รอง ผบก.อก.2 ปี รอง ผบก.ปทส.อีกปีหนึ่ง ติดยศนายพล ขึ้น ผบก.น.3 ปี 2557 ต่อด้วยผบก.น.5 ปี 2558 พอ ปี 2559 เป็น ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ปี 2561 ขึ้น รอง ผบช.ภ.2 ปี 2562-2563 กลับนครบาลเป็น รอง ผบช.น.คุมงานมั่นคง
ประสบเหตุสุดวิสัย มีม็อบไปล้อมขบวนเสด็จ มีการตั้งกรรมการ แล้วไปประจำ ศปก.ตร.4 เดือน พอสอบสวน ไม่ผิด กลับมาทำงาน อยู่งาน ป.ของนครบาล พอถึงวาระแต่งตั้งปี 2563-2564 เลื่อนตำแหน่ง เป็น ผบช.ภ.3 ก็ดำรงตำแหน่งจนถึงปัจจุบัน
สุระ 1เล่าถึงเส้นทางสีกากีที่ผ่านมา ก่อนสรุปผลปฏิบัติงานในตำแหน่ง ผบช.ภ.3
ใน 1 ปีที่ผ่านมา คือจริงๆ อีสานตอนใต้ ไม่เคยอยู่ แต่พอมาอยู่แล้วมีความสุข ตำรวจภาค 3 มีวินัย เป็นกันเอง สั่งอะไรแล้วเขาฟัง ขอให้เราทำตัวเป็นตัวอย่างกับเขานะ แล้วเขาทำตามเลย สั่งอะไรไปนะทำเลย ให้ดูแลพี่น้องประชาชนยังไง ทำยังไง เขาทำตามหมด ขอแค่เราทำเป็นตัวอย่างให้เขาเห็น หรือสามารถอธิบาย แนะนำ ให้เขาเห็นได้ เขาก็ทำ
ยาเสพติดปัญหาอันดับ1ในพื้นที่
ส่วนปัญหาทางอีสานคือมันใกล้ชิดกับเพื่อนบ้าน เรื่องแรกคือปัญหายาเสพติด ก็ดูว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องไหม ตามข้อสันนิษฐาน กับประชาชนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอะไรต่างๆ ทั้งขาย ทั้งเสพ ต้องแก้ไขปัญหา ทำมา 1 ปี เหมือนที่ ตร.เขารวบรวมข้อมูลไว้หลายๆด้าน แล้วจับกุม ทุกหน้างาน เรื่องยาเสพติดก็ได้อันดับหนึ่ง
ก่อนหน้านี้เขาทำมาได้อันดับหนึ่ง ผมแค่รักษาแชมป์เอาไว้ พูดง่ายๆ มารอดูปีนี้ว่าจะเป็นยังไง แนวโน้มก็ยังทำได้ดีอยู่
ชมบุรีรัมย์-ศรีสะเกษผลงานเยี่ยม
ส่วนจังหวัดที่จับตา คือส่วนใหญ่จะมาจากประเทศเพื่อนบ้านด้านบนมากกว่า ขอเราเป็นแค่เส้นทางลำเลียง เส้นทางผ่านจะมีที่เป็นห่วงก็คือ จ.อุบลราชธานี ที่จะข้ามมา ยาเสพติดจะข้ามมาในเมืองเรา ก็ช่วยกันจับซึ่งก็ยาก แตใช้นโยบายทลายแหล่งรายย่อย ทลายเครือข่ายต่างๆ
ที่ทำ ได้ดี จะมีศรีสะเกษ บุรีรัมย์ จับได้ทีละเยอะๆ แล้วผู้ค้ารายย่อย จับได้ต่อเนื่องได้รายใหญ่รายหนึ่งจะได้ต่อเนื่องรายย่อยทีละ 15-20 ราย ยึดทรัพย์สินด้วย ทำอยู่ ส่วนจังหวัดอื่นก็ทำได้เยอะ แต่ไม่โดดเด่นเท่า 2 จังหวัดนี้
ในภาพรวมก็จะดี ในเรื่องของการจำกัด หรือกดดันกลุ่มผู้ค้ารายย่อย เราต้องการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน โดยไม่ให้มียาเสพติดใช้ในพื้นที่
ห่วงเรื่องหลอนยาเผาบ้านฆ่าพ่อแม่
ตอนนี้มีออกคำสั่งให้ทุกคนลงไปดู ในเรื่องของคนที่เสพยาเสพติดจนวิกลจริต ที่ผ่านมามันแปลกอยู่เรื่อง คือพื้นที่ภาค 3 วิกลจริตแล้วเขาเครียด ฆ่าพ่อฆ่าแม่ เผาบ้าน ผมมาใหม่ๆ รับไม่ได้ แล้วพอมาเรียนรู้เข้า ก็สั่งตำรวจให้ตำรวจหาข้อมูล ลงไปให้เข้าถึงพี่น้องประชาชน เป็นนโยบายมีอยู่ด้วยข้อหนึ่ง ไปเปิดหาคำพูดต่างๆ นานา ก็ได้จากการอ่านนิยาย ได้จากการเรียนรู้ต่างๆ เข้าถึงประชาชน
ในพจนานุกรม เขียนไว้ชัดเจน ความหมายคือเข้าไปให้ถึงประชาชน ให้รู้ซึ้งถึงจิตใจว่าพี่น้องประชาชน ต้องการอะไร
กำชับควานหาตัวส่งบำบัด
ผมก็สั่งตำรวจให้เข้าถึงประชาชน แล้วไปควานหาพวกติดยาเสพติดถึงขั้นอาละวาดแล้ว ไป เอาออกมาก่อนที่จะฆ่าพ่อฆ่าแม่ เผาบ้าน เอาส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรักษา ตอนนี้ทำได้ผล ที่ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ไม่มีเหตุพวกนี้เกิดขึ้นเลย
ผมมาใหม่ๆนี่ เดือนหนึ่งมี 2-3 ครั้ง เอามีดแทงคอ ฆ่าพ่อแม่ เผาบ้าน เอาเงินมา ไม่ให้เงินมา มันเผาบ้าน เผาจริงเลยนะ เป็นข่าวอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ตอนนี้เงียบแล้ว
ขู่จัดหนักลูกน้องถ้าเกิดเหตุ
ผมขู่เลยนะ ไม่รู้ทำอะไร ก็ขู่ลูกน้องบอกว่า ถ้าไปหาแล้วเอาพวกนี้มาไม่ได้ จะเอาพวกนี้ไปประจาน แล้วพิจารณาทัณฑ์ว่าบกพร่องไหม ถ้าบกพร่อง จะมีโทษ ก็หายไปเลย ตำรวจไปลงพื้นที่กัน หาพวกนี้ ก็เอามาสู่ชุมชนยั่งยืน นโยบาย ตร. เอามาบำบัดรักษา ถ้ามันหนักเกินไปก็ส่ง รพ.ส่งเจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้รักษา ให้ยา ก็หาย จะสังเกตได้ว่า หายไปครึ่งปี เกือบปีได้แล้ว นี่แก้ปัญหาเลย
ผมคิดว่า ถ้ายาเสพติดแก้ไขปัญหาหมด คงยาก แต่ให้เบาบาง ผมว่าทำได้ เพราะฉะนั้นปัญหาลักวิ่งชิงปล้น ก็น้อยลงไปเลย ขโมยก็ลดลงไป เพราะผมเชื่อว่าเกี่ยวโยงกับยาเสพติด แต่ถ้ากดดันให้มีการเสพมีการใช้ยาน้อยลง ปัญหาจะลดลง แล้วมันก็ลดลงจริงๆ
ผลปราบยานรกอันดับ1ประเทศ
ส่วนปัญหาด้านอื่นๆ ก็ไม่ค่อยจะมีอะไร ความขัดแย้งทางสังคม ผู้มีอิทธิพล ไม่มี มือปืนรับจ้าง ไม่มี ปัญหาที่ว่า ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองที่ขัดแย้งกันถึงขั้นทะเลาะเบาะแว้ง ยิงกันฆ่ากัน ไม่มีเลย ดูตามข่าวได้ ใครทะเลาะจะยิงคนโน้น คนโน้นจะยิงคนนี้ ไม่มี เป็นเมืองที่สงบ อยู่สบาย ลูกหลานย่าโมสงบ มีแต่ท่านปกป้องคุ้มครองลูกหลานย่าโม ผมก็กราบไหว้ท่านตลอด ผลงานตลอด 1 ปี ที่โดดเด่นเห็นชัด ก็คือเรื่องยาเสพติด ได้อันดับหนึ่งของประเทศ
ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลจากที่2ขึ้นที่1
เรื่องที่ 2 คือเรื่องการลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาล มีเทศกาลปีใหม่ กับเทศกาลสงกรานต์ ก่อนผมมา และที่ผมมาวาระแรก อยู่อันดับ 2 ผมไปถอดบทเรียนว่าทำไมได้ที่ 2เหตุผลเพราะอะไร ที่ชมไม่ได้ว่าอยากได้ที่ 1 แต่ผมว่ารถขึ้นอีสานนี่มากที่สุดในประเทศ จะทางเหนือ ทางใต้ ก็สู้รถที่ขึ้นอีสานไม่ได้ จะขึ้นอีสานเหนือ ก็ต้องผ่านมิตรภาพ ทำไมทำยังไงถึงได้ที่ 2 ของประเทศ ผมชื่นชมนะ พอมาศึกษาก็ลงมาทำด้วย จากที่ 2 กลายเป็นที่ 1 เลย
เพิ่มการแสวงหาความร่วมมือ
พอรู้จุดบกพร่อง ว่าเขาทำอะไรแล้ว 1 2 3 ผมก็เพิ่มในบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องสำคัญที่ผมเห็นเด่นชัด ก็คือเรื่องการแสวงหาความร่วมมือ กับทุกภาคส่วน เพราะทำแล้วได้ผลเลย เชิญนายกสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เชิญผู้ว่าฯ ฝ่ายปกครอง ทหาร แขวงการทาง มาประชุม ร่วมงาน ทำกิจกรรม ขอความร่วมมือกัน
พบเหตุเกิดถี่ยิบบนถนนสายรอง
สรุปปัญหาได้ว่าที่ผ่านมา อุบัติเหตุที่เกิดมากที่สุด เกิดจากถนนสายรอง ไม่ใช่ถนนสายหลัก กลายเป็นในหมู่บ้าน ชุมชน กินเหล้าเมายา แล้วออกรถ เที่ยวเตร่กัน เกิดอุบัติเหตุ ปรับเรื่องเส้นทางสายรองก่อน ก็มานั่งคิด นั่งคุยกันตกผลึกตรงที่ว่า
มีทางเดียวคือต้องตั้งด่านสกัดกั้นไม่ให้คนเมาออกมาขี่รถ ไม่ใช่จะจ้องจะจับใคร หาเรื่อง ไม่ให้ประชาชนมีความสุข ไม่ใช่ ขอแค่อย่างเดียว เมาอย่าขับ ก็ทำมาก่อนแล้ว
ขอกำนัน-ผญบ.-อบต.ตั้งด่านช่วย
ผมก็ถามว่าเคยทำแล้วมันก็มีปัญหาว่า ตำรวจทำ ชาวบ้านก็มาท้าทายตำรวจ มายียวน มาหาเรื่อง บอกว่าทำไม สงกรานต์ที ปีใหม่จะขี่รถไม่ได้เหรอ เมาแล้วมาหาเรื่องตำรวจ ถ่ายคลิปลงอย่างนี้ ด่านถูกต้องไม่ถูกต้อง ก็มาปรับจนตกผลึกเอากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ.มาช่วยตั้งด่าน มีตำรวจคนเดียว ที่เหลือเป็นผู้ใหญ่ ในหมู่บ้านชุมชนนั้น ที่เด็กวัยรุ่น หรือใครต่อใคร ให้ความเคารพ เกรงใจ มาร่วมตั้ง ได้ผลเลย
พอมาถึงก็ไล่กลับบ้าน ใครมีปัญหานี่ ผู้ใหญ่บ้านตบหัวแล้วไล่กลับ มันกลับบ้านเลย แต่ถ้าตำรวจตบหัว ติดคุกเลย ตำรวจโดนเลย
ปรากฏว่าวิธีนี้ได้ผล ไม่มีคนเมาออกมาขับรถ เชิญสรรพสามิตมาช่วยตรวจร้านค้าขายของชำในชุมชน หมู่บ้าน ช่วยประชาสัมพันธ์ อย่าขายเหล้า สุราให้คนเมามาซื้อเด็กมาก็ไม่ให้ขาย คนจะมาซื้อขอให้เป็นคนยังไม่กินเหล้า แล้วมันจะไม่เกิดอุบิตเหตุ
ตำรวจเน้นเตือน-ขอความร่วมมือ
พอประชาสัมพันธ์แล้วเขาให้ความร่วมมือ แล้วทุกจังหวัดพอประชาสัมพันธ์แล้วทำพร้อมกัน ท่านผู้ว่าฯ ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง ก็ให้ความร่วมมือทำงานไปในทิศทางเดียวกัน แขวงการทาง อบต. อบจ.ให้ความร่วมมือ มันหยุดได้เลย อุบัติเหตุแทบจะไม่เกิด น้อยมาก มาเกิดนิดหน่อยจากสาเหตุหลับใน ฝืนขับ ไม่ได้หลับได้นอน แล้วขับ
แล้วตำรวจเราเน้นจับ ป้องปรามเฉพาะก่อนสงกรานต์ ช่วงที่ประชาชนมีความสุข เราไม่เน้นจับ เน้นเตือน เน้นขอความร่วมมือ ขอร้อง อย่าออกมาดีกว่าถ้ากินเหล้า ก็ควรเล่นอยู่ที่บ้าน เขาก็ให้ความร่วมมือ เหตุก็น้อยลง
ภูมิใจมีความสุขช่วยไม่ให้คนตาย
เป็นผลงานที่เราภาคภูมิใจนะ ช่วยไม่ให้พี่น้องประชาชนต้องประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เพราะ ฉะนั้นบางทีเยาวชนเสียชีวิต ลูกหลานที่เป็นอนาคตจะต้องดูแลประเทศชาติ หรือบางครั้งคนดีๆ ต้องมาตาย มันต้องช่วยกัน ได้ช่วยแล้วรู้สึกมีความสุข ช่วยให้คนไม่ตาย
เวลาประชุมยังแซวว่าเราสามารถฝืนยมบาลได้นะ ทุกทีตายเป็นหลักสิบ หลักร้อย แต่ปีนี้เหลือน้อย ในส่วนของภาคนี่น้อย ไม่กี่ศพ ยอดตายเหลือน้อย ลดเยอะมาก เป็นเปอร์เซ็นต์นี่เกินครึ่ง
อุบัติเหตุลดทั้งสงกรานต์-ปีใหม่
ภาพรวมได้ที่ 1 ของ ตร.เรื่องอุบัติเหตุลดน้อยลง ปีใหม่ ที่ 1 สงกรานต์ ที่ 1 แล้วสงกรานต์ ปีที่แล้วก็ได้ที่ 1 คือปีใหม่ผมมาทำครั้งแรก ได้ที่ 2 พอสงกรานต์ ได้ที่ 1 มาปีใหม่นี้กับสงกรานต์นี้ ยังรักษาแชมป์ ได้ที่ 1
ตรงนี้มันดำคดีไม่ได้ ทั้งอาสาสมัคร ทั้งสาธารณสุข เขาจะต้องลงเรคคอร์ดของเขา คือถ้าจะดำหรือไม่ดำ จะต้องมี 3 ส่วน หมอเขาทำไม่ได้ไง เขารักษาพยาบาลก็ต้องเบิกยา เขาก็ลง 100% พอลง 100% เขาก็จะคีย์ลงคอมพิวเตอร์ เข้ากระทรวงสาธารณสุข แล้วมันไปรวมอยู่ที่ศูนย์ฯ ถ้าตำรวจไม่คีย์ ไม่ใส่ข้อมูลไป แล้วหมอมีปุ๊บ มันฟ้องเลย ไม่ได้
เพราะฉะนั้นมันไม่มีดำ มัน 100% พิสูจน์ได้เลย ว่าเราสามารถดูแลพี่น้องประชาชนด้วยฝีมือ ด้วยการตั้งใจทำงานและได้รับความร่วมมือของทุกภาคส่วน ถนนหนทางมืดก็ไปติดไฟให้ แก้ปัญหาทุกอย่าง
ต่อยอดโครงการผู้บังคับบัญชา
โครงการของพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ผมมาทำต่อ ก็ตั้งแต่ชุมชนยั่งยืนสมัย ท่านเป็น ผบช.ภ.3
ผมนี่เป็นคนที่ไม่ได้คิดโครงการใหม่ๆ ผมชอบต่อยอด คือนายทำอะไรดีอยู่แล้ว ผมมาทำต่อให้มันดีขึ้นให้สัมฤทธิ์ผล ที่ผ่านๆมา ท่าน ผบ.ตร.ที่ทำไป โดยเฉพาะชุมชนยั่งยืน ผมก็ทำต่อ ท่านเน้นมากเรื่องยาเสพติด
ผมก็ทำต่อ รักษามาตรฐานที่ 1 ไม่ใช่ว่า มาใหม่ที ก็ทิ้งของเก่า จะไม่สร้างปัญหาให้ตำรวจปวดเศียรเวียนเกล้า ให้บอกว่า นายมาใหม่ที จะเอานโยบายใหม่ โครงการใหม่ ผมมองว่าตำรวจหลักๆ คือป้องกันอาชญากรรมไม่ให้เกิด หรือถ้าเกิดต้องจับให้ได้ แล้วผมทำต่อเนื่อง
ทำเพิ่มเติมให้ทะลุเป้า
เพราะฉะนั้นที่อดีตผู้บังคับบัญชาทำไว้ อันไหนดี ผมก็ทำต่อ ผมบอกเลย ผมทำตามนายเขา ไม่ได้บอกเลย ว่าอันนี้ผมคิดเอง ไม่รู้จะต้องไปพูดแบบนั้นทำไม ผมมองว่า เป้าก็คือประชา ชนมีความสุข ตำรวจมีความสุข ไม่ใช่มาสร้างว่านี่ของผมๆ ผมก็ต่อยอด ทำให้ทะลุเป้าดีกว่า ทำงานให้ได้มากที่สุด เกิดประโยชน์สูงสุด ประเทศชาติได้ประโยชน์ ประชาชนได้ประโยชน์ ก็คิดแค่นั้น
ลูกน้องเจ็บตายดูแลเต็มที่
ส่วนการดูแลสวัสดิการลูกน้อง อย่างแรก ใครบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ดูแลเต็มที่ ถ้าไปเองไม่ได้ จะส่งเงินให้ค่าดูแลรักษาพยาบาล แล้วให้ผู้การไปเยี่ยม ตำรวจบาดเจ็บ โดนยิง ล้มลุก เสื้อ กางเกงขาด จัดให้ใหม่หมด ฟรี ผมควักเงินเอง สมาคมแม่บ้าน ก็มีช่วยเหลือ รวมอยู่ในนี้ มีเงินไปช่วยเหลือจากหลายส่วน มูลนิธิต่างๆ ที่อดีตผู้บังคับบัญชาตั้งไว้ รวมทั้งสวัสดิการ ตร.กองทุน กบข.
รับหนี้สินตำรวจแก้ยาก
แต่เรื่องหนี้สินนี่แก้ยาก แก้ได้อย่างเดียวคือธนาคารไหนปล่อยถูก ที่เป็นหนี้อยู่ดอกแพงกว่า ก็ย้ายไปกู้ที่ดอกเบี้ยถูก แล้วมาเป็นหนี้ทางนี้แทน ได้แค่ลดดอกเบี้ย แก้หนี้จริงๆต้องเพิ่มรายได้ให้ ตำรวจไม่มีรายได้เพิ่ม แล้วหนี้สินจะหมดไปได้ยังไง
คือต้องหาอาชีพเสริมให้ แต่สมาคมแม่บ้าน เดิมก็แนะนำให้ลูก เมียตำรวจ มีอาชีพหน้าที่การงาน เย็บปักถักร้อย ปลูกผัก หรืออะไร ให้เป็นรายได้เสริมไปจุนเจือครอบครัวเขา
ส่วนใหญ่ส่งลูกเรียน-ปลูกบ้าน
คือส่วนใหญ่ที่เป็นหนี้ คือ 1.ลูกเรียนหนังสือ 2.ปลูกบ้านช่อง มันเป็นปัจจัย 4 ที่หนีไม่ออก แล้วเดี๋ยวนี้เด็กเรียนหนังสือ จะให้ลูกเรียนดีๆ ก็ต้องไปติว ใช้เงินทั้งนั้น ปริญญาตรี นี่กว่าลูกจะเรียนจบหมดเป็นล้านนะ ตำรวจกู้ได้แค่ 1-2 ล้าน ส่งลูกแค่คนเดียวนะ ตั้งแต่อนุบาล ยัน ป.ตรี หมดเป็นล้านแน่นอน ก็อยู่อย่างนี้ แต่มีตำรวจบางคนมีที่ทำไร่ไถ่นา มีครอบครัวช่วยแล้ว ก็ยังเป็นหนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นหนี้จากการศึกษา
อีกอย่างคือหนี้จากการปลูกบ้าน ตำรวจภาค 3 ส่วนใหญ่ เป็นคนในพื้นที่ส่วนใหญ่จึงลงหลักปักฐานมีถิ่นที่อยู่ ต้องยอมรับอย่างว่า ตำรวจทางอีสาน ทั้งภาค 4 หรือทางภาค 3 ก็แล้วแต่ รับราชการตำรวจมากที่สุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีกำลังพล 2 แสนกว่า เป็นตำรวจอีสานมาก ปลูกบ้านช่องก็เป็นหนี้ ก็ต้องรับไป
แต่บางทีบางเรื่อง ก็ฟุ้งเฟ้อ ก็มี แต่ไม่กี่ราย ที่ประเภทเงินไม่มีแล้วก็กู้ซื้อรถใช้ จำเป็นเพราะต้องพาครอบครัวไปไหน ไปท่องเที่ยวอย่างนี้ ก็ห้ามกันไม่ได้
ก็เป็นหนี้เป็นสินกันเยอะแยะ แต่ก็ยังไหวกันอยู่นะ ไม่ถึงขั้นถูกฟ้องล้มละลาย มีไม่กี่ราย เราก็เข้าไปช่วยแก้ปัญหาแล้วหลายราย ดังนั้นก็ยังมีศักยภาพในการผ่อนชำระกับสถาบันการเงินได้อยู่
นี่คือผลงานส่วนหนึ่งที่เป็นรูปธรรมในห้วงเวลา1ปี7เดือนที่พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม มาดำรงตำแหน่ง สุระ1-ผบช.ภ.3ครับ
กากีกลาย21/5/66