ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 สั่งตรึงเข้มตลอดแนวตะเข็บชายแดนกาญจนบุรี สกัดจับรายวัน 94 แรงงานด้าวทะลัก ทิ้งถิ่นฐาน บ้านเกิดเพราะพิษสงคราม
วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ.2567 ที่ตำรวจภูธรภาค 7 จว.นครปฐม พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 , พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวานิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.มนตรี แตงโต ผกก.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.อ.สุรชัจ สีมุเทศ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.7 เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า และ เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอทองผาภูมิ
ร่วมกันแถลงจับกุมผู้ต้องหา 94 ราย เป็นชาย 58 คน เป็นหญิง 31 คนเด็ก 5 คนพร้อมของกลางรถบรรทุกหกล้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 70 – 9437 ราชบุรี รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม๊ค 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กฉ 9301 ลำพูน 1 คัน จับได้ที่ถนนสาธารณะ ริมแม่น้ำแควน้อย หมู่ 7 นามกุย ต.ลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
กล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 – 89 ว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดด่านตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ พบรถบรรทุกหกล้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 70-9437 ราชบุรี บรรทุกสิ่งของ มีผ้าใบปกปิดมิดชิด ขับมาจากทางด้าน อ.สังขละบุรี – มุ่งหน้าเข้าด่านที่ อ.ทองผาภูมิ ลักษณะคล้ายรถบรรทุกผัก เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อขอตรวจสอบแต่รถบรรทุกคันดังกล่าวไม่ยอมหยุดกลับพยามขับผ่านด่านไป
เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจได้นำกำลังขับรถสายตรวจเปิดสัญญาณไฟไล่ติดตามไป และมีรถกระบะ อีซูซุ สีดำ ทะเบียน กฉ 9301 ลำพูน เร่งเครื่องแซงขึ้นมาพยายามเข้าขัดขวางการไล่ติดตามรถหกล้อ ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา โดยพยายามขับแซงปาดหน้า บังรถเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้เข้าใกล้รถหกล้อเหมือนมีเจตนาจะให้รถหกล้อ พ้นจากการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อมาถึงบริเวณ บ้านกุยแหย่ รถกระบะคันดังกล่าว ได้ขับปาดหน้ารถเจ้าหน้าที่ตำรวจเฉี่ยวชนกับรถยนต์สายตรวจ มี ร.ต.ต.รุ่งโรจน์ สูงใจวงษ์ รอง สว.(ป.) และ ด.ต.อชิรวัตติ์ เพชรพิทักโยธิน พลขับ จนรถกระบะอีซูซุ สีดำ ทะเบียน กฉ 9301 ลำพูน เสียหลักพลิกคว่ำ แต่ผู้ขับขี่รถกระบะคันดังกล่าวได้เปิดประตูรถวิ่งหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไล่ติดตามอีกชุด จึงได้จอดรถลงตรวจสอบพร้อมตรวจยึดรถมาทำการเพื่อทำการสืบสวนต่อไป
ส่วนรถหกล้อเมื่อเห็นรถเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมาเห็นจวนตัว และไม่สามารถขับหลบหนีไปได้ จึงได้ขับเลี้ยวเข้าไปบริเวณถนนสาธารณะริมแม่น้ำแควน้อย หมู่ 7 นามกุย ต. ลิ่นถิ่น อ. ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นทางตันไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ จึงเปิดประตูรถรีบวิ่งหลบหนีไปที่แม่น้ำแล้วกระโดดน้ำ ว่ายหลบหนีการติดตามของเจ้าหน้าที่ไปได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไล่ติดตามไป ได้ตรวจสอบรถบรรทุกคันดังกล่าวเปิดผ้าใบที่คลุมด้านหลังรถออกดู พบกลุ่มบุคคลต่างด้าวจำนวนมากอัดแน่นอยู่ภายในรถ ได้เรียกให้ลงจากรถ พร้อมตรวจสอบเอกสารแต่ละบุคคลที่มากับรถ ไม่พบเอกสารหลักฐานใดๆติดตัว เป็นบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมารวมทั้งสิ้น 94 คน ทุกคนไม่มีเอกสารหลักฐานการอนุญาตให้เข้าเมืองทั้งสิ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดต่อ น.ส.ไข่มอ มาเป็นล่ามแปล
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 เปิดเผยอีกว่าจากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1 – 89 ได้ให้การรับสารภาพว่า หลบหนีมาจากประเทศเมียนมาเข้าเมืองมาตามช่องทางธรรมชาติ ด้านบ้านพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จว.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2567 ช่วงเช้า มีนายหน้าเป็นคนจัดการเรื่องการเดินทางให้ โดยใช้วิธีการเดินเท้า นั่งรถมา เมื่อเข้ามาถึงพื้นที่เขตประเทศไทยแล้วให้ไปรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณชายป่า
เมื่อถึงเวลานัดหมายช่วงเย็น มีรถบรรทุกหกล้อรับมาต่อ โดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 7,000 บาท เพื่อที่จะไปทำงานในเขตจ.สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสาครและ กรุงเทพมหานคร โดยพวกตนจะจ่ายเงินก็ต่อเมื่อเดินทางถึงที่หมาย แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดังกล่าว
ผบช.ภ. 7 กล่าวว่า จากการสอบถามแรงงานชายชาวเมียนมาผ่านล่ามว่า ที่พวกตนต้องทิ้งครอบครัว ทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดมา เนื่องจากสถานการณ์ไม่สงบภายในประเทศ จึงตัดสินใจข้ามแดนมาประเทศไทยเพื่อหางานทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งให้ทุกคนทราบว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิด
แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาที่ 1 – 89 ว่า “ เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ” และได้ควบคุมตัวทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุมพร้อมทั้งทำการตรวจ ATK หาเชื้อโควิด 19 เบื้องตนไม่พบเชื้อแต่อย่างใด ส่งตัวพร้อมของกลาง ให้พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ สอบสวนขยายผลจับกุมกลุ่มขบวนการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป