ด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ ตำรวจภูธรภาค 3 นำโดย พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ. 3 , พล.ต.ต.สายเพชร ศรีสังข์ รอง ผบช.ภ.3 ,พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.3 ,พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3 , พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง ผบก.สส.ภ.3 , พล.ต.ต.ประสงค์ เรืองเดช ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี , พ.ต.อ.สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานีสืบสวนขยายผลจับกุมขบวนการที่ลักลอบนำคนต่างด้าวสัญชาติจีน หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย
จากกรณีเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง, ตม.และ สภ.พิบูลมังสา หาร จว.อุบลราชธานี จับกุมผู้ต้องหาคนไทย 1 คนที่ลักลอบนำพาคนต่างด้าวสัญชาติจีน 3 คน เข้ามาในราชอาณาจักรไทย ตามที่เป็นข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ น่าเชื่อว่ากลุ่มคนสัญชาติจีนที่หลบหนีเข้ามาดังกล่าวนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ อาทิเช่นแก๊ง callcenter และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่กำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับ คนไทยในปัจจุบัน
ต่อมาวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 ชุดสืบสวนขยายผล โดย พ.ต.อ.ทศพร เพียรปรุ ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.3 , พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผกก.สส.ภ.จว.อุบลราชธานี พร้อมกำลังชุดสืบสวนได้สืบสวนขยายผลกรณีดังกล่าว
จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิดที่ลักลอบนำคนต่างด้าวสัญชาติจีนกลุ่มดังกล่าวเข้ามาในราชอาณาจักร เพิ่มเติมได้อีก 2 คน คือ นายเบนซ์ อายุ 31 ปี ชาวอ.เขมราฐ จว.อุบลราชธานี จับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ จ.97/2566 ลงวันที่ 19 เม.ย.2566 และ นายจุ๋น อายุ 35 ปี ชาวอ.นาตาล จว.อุบลราชธานี จับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ จ.98/2566 ลงวันที่ 19 เม.ย.2566
ในความผิดฐาน “ร่วมกันรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง ให้เข้าอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆเพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.3 และ กก.สส.ภ.จว.อุบลราชธานี ได้สืบสวนขยายผลต่อเนื่องจนทราบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำในแต่ละขั้นตอน
เริ่มจากขั้นตอนการติดต่อกับนายหน้าชาวลาวเพื่อจัดหาชาวจีนที่ต้องการลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาในไทยตามช่องทางธรรมชาติ โดยเฉพาะพื้นที่ตะเข็บชายแดนไทย – สปป.ลาว , การจัดหารถยนต์เพื่อลักลอบนำคนจีนไปส่งยังพื้นที่ทางตอนเหนือของไทยโดยเฉพาะอ.แม่สอด จ.ตาก และลักลอบข้ามชายแดนไทยออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านต่อไป
ในการเดินทางแต่ละครั้ง จะมีการใช้รถยนต์อย่างน้อย 2-3 คัน ทำหน้าที่เป็นรถยนต์ส่วนล่วงหน้า รถยนต์ขนคนจีน และคันปิดท้าย เพื่อส่งความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ให้ทุกคันทราบตลอดระยะเวลาในการเดินทางไปส่งคนจีนยังจุดหมายปลายทาง ซึ่งผู้ร่วมกระทำความผิดดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเครือญาติ และคนในหมู่บ้านเดียวกัน
มีการแบ่งเงินค่าจ้างขนคนจีนในแต่ละครั้งเป็นเงินจำนวนหลายหมื่นบาทต่อคัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้รวบรวมข้อมูลขบวนการขนคนต่างด้าวสัญชาติจีน เข้ามาในราชอาณาจักรแล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น เพื่อวางแผนในการสืบสวนจับกุมให้ได้ทั้งขบวนการต่อไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ออกสืบสวนติดตามอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งพบว่า กลุ่มขบวนการดังกล่าวเริ่มมีความเคลื่อนไหวในการเตรียมขนคนต่างด้าวสัญชาติจีนเข้ามาในราชอาณาจักรอยู่ที่บริเวณอ.เขมราฐ จว.อุบลราชธานี และคาดว่าจะนำคนต่างด้าวสัญชาติจีนไปส่งยังพื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศไทย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและวางแผนในการติดตามจับกุม
สะกดรอยและติดตามรถยนต์ของกลุ่มขบวนการดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อไปถึงหน้าจุดบริการประชาชนตำรวจทางหลวงทรัพย์ไพรวัลย์ อ.วังทอง จว.พิษณุโลก ได้ประสานงานตำรวจทางหลวงในการสกัดรถยนต์
ตรวจสอบพบบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน 4 คน นั่งอยู่ภายในรถยนต์โตโยต้า วีโก้ สีเทา ทะเบียน อุบลราชธานี มีนายวันชนะ เป็นคนขับ โดยมีรถยนต์โตโยต้า วีโก้สีเทา หมายเลขทะเบียนชลบุรี เป็นรถนำทางซึ่งมี นายสมพงษ์ เป็นผู้ขับ และมี นายธงชัย , นางมณีวัล และนายอัคณี นั่งมาในรถยนต์คันดังกล่าว
จากนั้นได้ประสาน ตม. และนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบสวนเพิ่มเติมโดย นาย ธงชัย, นางมณีวัล , นายวันชนะ และ นายอัคณี รับสารภาพ ในข้อหา “ร่วมกัน รู้ว่าเป็นคนต่างด้าว คนใด เข้ามาในราชอาญาจักร โดยฝ่าฝืน พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง ให้เข้าอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้น พ้นจากการจับกุม”
และได้จับกุม MR.Zhang jian qiu สัญชาติจีน , MR.Li hai ping สัญชาติจีน , MR.Yang jin yi สัญชาติ จีน และ MS.Aigerim kalzhanova สัญชาติ คาซักสถาน ในข้อหา “ เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับ-อนุญาต” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาคนไทยทั้ง 5 คนมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหาคนไทยทั้ง 3 คนที่ถูกจบกุมก่อนหน้านี้ ส่วนบุคคลสัญชาติจีน 3 คนและคาซักสถาน 1 คน นั้นได้ข้อมูลว่าจะถูกพาไปยังพื้นที่ทางภาคเหนือแถวบริเวณ จว.ตาก เช่นเดียวกับกลุ่มบุคคลสัญชาติจีน 3 คนที่เคยจับกุมก่อนหน้านี้ และจะมีกลุ่มขบวนการนี้มารับต่อเพื่อเดินทางข้ามชายแดนไทยไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
จากข้อมูลทางการสืบสวนพบว่าบริเวณฝั่งชายแดนประเทศเพื่อนบ้านที่กลุ่มบุคคลสัญชาติจีนเดินทางไปนั้นเป็นแหล่งที่ทำการของกลุ่มแก๊ง callcenter และอาชญากรรมข้ามชาติที่กลุ่มคนจีนเกี่ยวข้อง ซึ่งชุดสืบสวนจะได้ประสานข้อมูลกับหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมกระทำความผิดในขบวนการนี้มาดำเนินคดีทางกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป