พ.ต.ต.ธนวัฒน์ สุวรรณเวโช ผู้บังคับกองร้อย กองกำกับการ4 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
เริ่มปีใหม่ 2566 รอบนี้มีโอกาสสัมภาษณ์ ทิว-พ.ต.ต.ธนวัฒน์ สุวรรณเวโช ตำรวจที่เรียกได้ว่า หนักแน่นด้วยอุดมการณ์ ยืนหยัดบนความถูกต้องมากกว่าถูกใจ ถือเป็นแบบอย่างชั้นดีที่อยากให้เด็ก ๆ หรือ คนรุ่นใหม่ที่จะเติบโตในอนาคตเห็นเป็นแบบอย่าง
การจะเดินบนเส้นทางตำรวจจะเรียกว่า ไม่ใช่เรื่องไกลตัวแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใกล้ตัวเสียทีเดียว จากการที่คุณพ่อรับราชการตำรวจมาตลอด ทำงานหนักจนเป็นที่นับถือของพี่ ๆ น้อง ๆ ในสายงานทำให้ทิวเกิดมุมมองที่ดีต่ออาชีพตำรวจ
ถึงแม้ในครอบครัวที่พี่ ๆ แต่ละคนต่างเลือกเดินสายแพทย์ อาจทำให้เหมือนจะไม่ใช่หนทางที่จะมาบรรจบกับอาชีพตำรวจได้เลย เพราะทราบดีว่าการเดินในเส้นทางนี่ หากยึดเพียงแต่อุดมการณ์คงเจอแรงเสียดทานและเติบโตได้ยากในอนาคต
แม้จะขัดแย้งในใจทิวไม่น้อย แต่ด้วยภาพความขยันของคุณพ่อที่สร้างทุกอย่างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ก็พอจะเห็นถึงความเป็นไปได้ตามคุณพ่อที่เป็นแบบอย่าง เป็นผลให้ตัดสินใจมุ่งหน้าสู่หนทางแห่งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เส้นทางนี้
พอขึ้นช่วงมัธยมต้นเพื่อน ๆ ในวัยนั้นก็ชวนกันไปสอบ ทำให้ทิวรู้ว่า การจะเป็นตำรวจนั้น มีการแข่งขันที่สูง ทุกคนต่างเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบ
ทิวเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เมื่อเบนเข็มชัดเจนแล้วว่าจะมุ่งหน้าไปเป็นตำรวจ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่หนุ่มทิวจะสอบผ่านตั้งแต่ครั้งแรกเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่น 52
แรกเริ่มก็พบอุปสรรคไม่น้อยด้วยสภาพร่างกายจากการประสบอุบัติเหตุมาก่อนที่จะเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเตรียมทหาร ทำให้การใช้ชีวิตของทิวในโรงเรียนแห่งลูกผู้ชายไม่ได้ง่ายเหมือนปกติ
ทิวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากทั้งแรงกดดันจากสภาพร่างกายที่เป็นอยู่ ทำให้ฝึกฝนไม่ทันเพื่อน ๆ เพราะต้องลาไปรักษาตัวกับหมออยู่บ่อยครั้ง
ส่วนสูตรสำเร็จของวิธีแก้ปัญหา ทิวแอบบอกกับเราว่า ช่วงนั้นคิดแต่ว่า “ทำยังไงก็ได้ ให้ตัวเองได้มีโอกาสฝึกให้บ่อย ตัวเองจะได้ไม่ถูกทิ้งทายแล้วจะพิสูจน์ให้เพื่อน ๆ เห็นเอง” เลยเลือกที่จะอยู่โรงเรียนในวันหยุดเพื่อสร้างชั่วโมงการฝึกเพิ่มขึ้น
เรียกได้ว่า เพราะความขยันบวกกับมุมมองที่ไม่หยุดผลักดันตัวเอง
เมื่อเข้าสู่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (รุ่น 68) ความพยายามที่สร้างมาทำให้ทิวได้รับเลือกเป็น หัวหน้านักเรียนนายร้อยตำรวจ คอยทำหน้าที่ประสานงานภายในโรงเรียน สร้างระบบการทำงานให้ตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ
นอกจากนี้ ทิวยังเข้าชมรมยุทธวิธีตำรวจ เพราะมองไปถึงอนาคตการทำงาน ที่ตัวเองต้องการเพิ่มพูนทักษะให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และความชำนาญ เมื่อจบไปแล้วต้องไปปฏิบัติหน้าที่เราก็สามารถนำมาใช้ได้จริง
คุยกันมาถึงตรงนี้ ถึงกับทักทิวเลยว่า ต้องเป็นคนที่มีการวางแผนการใช้ชีวิตตลอด เห็นได้จากสมัยเรียน การจะทำอะไรของหนุ่มทิวแต่ละงานล้วนมีเหตุผลเกี่ยวกับงานในอนาคตเสมอ ไม่แปลกใจเลยว่า เมื่อจบออกมาทิวจึงมีอนาคตในเส้นทางการงานที่ดีขนาดนี้
อนาคตที่ดีคือยังไง เราจะท้าวความไปหลังจบจากโรงเรียนนายร้อย ทิวเข้ารับตำแหน่ง ผู้บังคับหมวด กองกำกับการ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ของค่ายนเรศวร หรือ เรียกง่าย ๆ หน่วยปฏิบัติการพิเศษนเรศวร 261 ทำภารกิจหลักการต่อต้านการร้ายสากล
แรกเริ่มได้รับมอบหมายให้ตามสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ตามโรงเรียนชายแดนภาคใต้ ยิ่งได้เห็นการทำงานอย่างหนักของพระองค์ที่ใส่ใจชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนตามชายแดนแล้ว ทิวยิ่งเกิดแรงบันดาลใจ
เพราะท่านให้ความสำคัญกับคุณภาพความเป็นอยู่ สร้างภูมิคุ้มกันให้คนบริเวณนั้นสามารถลืมตาอ้าปากสร้างที่อยู่ สร้างอาชีพโดยที่ไม่ต้องข้องเกี่ยวกับการทำงานที่ไม่สุจริต สิ่งเหล่าทิวได้สัมผัสจากประสบการณ์ทั้งสิ้น ถือเป็นหนึ่งในเกียรติของชีวิตการทำงาน
ทั้งการติดตามพระองค์ขณะทรงงานที่สามจังหวัดชายแดน ไหนจะเหตุการณ์สำคัญอย่าง กราดยิงโคราชที่ทิวได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง ในการร่วมกันยุติเหตุแห่งความรุนแรงร่วมกับเพื่อน ๆ จากหน่วยงานอื่น การลงประจำการในพื้นที่ 3 จว. ชายแดนภาคใต้ การได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าฝึกโครงการพัฒนาศักยภาพ ครูฝึกหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
เป็นตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขัน หน่วยปฏิบัติการพิเศษโลก(UAE S.W.A.T. Challenge) ที่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์
ทีมตำรวจไทยก็ไม่น้อยหน้าคว้าอันดับที่ 9 จากทีมร่วมแข่งขันกว่า 40 ทีม ความเข้มข้นของการทำงานแสดงให้เห็นถึงความเก่ง และยังการันตีถึงฝีมือของตำรวจทิวไม่น้อย
ภารกิจล่าสุด ที่เรียกได้ว่าเป็น ภารกิจชาติประจำปี 2565 อย่าง การประชุม APEC 2022 ที่ได้จบไป
ทิวได้มีโอกาสเป็น Personal Security Officer ( P.S.O.) อารักขาเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในฐานะแขกพิเศษของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค
เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวแทนที่ต้องคอยดูแลความปลอดภัย ซึ่งจะบอกว่า ภารกิจครั้งนี้มีการเตรียมตัวที่เข้มข้นมาก รายละเอียดที่ต้องจดจำเพื่อให้การทำงานครั้งนี้ลุล่วงไปได้ด้วยดี
ทิวยอมรับว่า การทำงานครั้งนี้ค่อนข้างกดดันไม่น้อยด้วยเป็นงานใหญ่และเป็นแขกของรัฐบาลที่เป็นเชื้อพระวงศ์ จึงคิดเสมอว่าจะทำยังไงให้การทำงานระหว่างนั้นมีความปลอดภัยและสำเร็จไปได้ดี
ผลงานทั้งหมดที่ได้รับมอบหมาย จะบอกว่าเป็นโอกาสก็ดูจะถ่อมตัวไปกับตำรวจมากฝีมืออย่างทิว ต้องบอกว่า เพราะการพัฒนาและให้ความสำคัญกับหน้าที่อย่างสม่ำเสมอเลยทำให้ทิวมีผลงานโดดเด่นได้ขนาดนี้
สิ่งเหล่านี้ได้ผ่านมุมมองที่เราถามทิวว่า เวลาเราโดนโจมตีอาจด้วยกระแสสังคมที่มองตำรวจต่างออกไป ทิวมีความเห็นอย่างไร
ทิวบอกว่า ประชาชนไม่ผิดที่จะกล่าว สิ่งที่เขาคิดล้วนมาจากการได้รับการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่
ต้องเข้าใจก่อนว่า หน้าที่ตำรวจคืออะไร บ่อยครั้งคนเรามักหลงลืมในหน้าที่เพื่อให้เติบโตในสายงาน
แต่ทิวไม่ใช่แบบนั้น เขารู้ว่าการเป็นตำรวจ คือ การยืนหยัดในความยุติธรรม ประชาชนก็เหมือนกระจกสะท้อนถึงการทำงานของเรา เราไม่มีหน้าที่ไปต่อว่ากลับ
แต่สิ่งที่ควรทำ เราต้องทำให้เห็น เราต้องทำให้เขาเชื่อมั่นว่าเราคือตำรวจที่ผดุงความยุติธรรม ยิ่งเขาว่า เรายิ่งต้องทำให้ดี ทำยังไงให้เค้าเรียกหาเราเมื่อมีภัย ให้เกิดความอุ่นใจเมื่อพบเจอ
คงต้องยกความดีความชอบให้กับครอบครัวสุวรรณเวโช โดยเฉพาะคุณพ่อ (พล.ต.อ.สุวรรณ สุวรรณเวโช)ที่เป็นต้นแบบให้ทิวเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ แม้การทำงานจะเจอแรงเสียดทานไม่มากก็น้อย แต่การยึดอยู่บนความถูกต้อง อันนี้คือสิ่งสำคัญ
คุยกันเรื่องงานและแนวคิดพอหอมปากหอมคอแล้ว กิจกรรมยามว่าง หนุ่มทิวก็ชอบออกกำลังกาย ยิงปืน โดดร่ม โดยให้เห็นผลว่า เพราะเขามีความสุขกับการทำงาน เพราะงั้นถ้าว่างเมื่อไหร่เป็นต้องหากิจกรรมที่จะสนับสนุนต่อสายงาน
เราเป็นตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ เราต้องไว แข็งแรง เราจึงยิ่งต้องออกกำลังกาย พอเราทำด้วยใจรัก ไม่ว่าจะทำงานหรือเวลาว่างเราจะรู้สึกสนุก มีความสุขเสมอที่เราได้เพิ่มพูนมัน
ก่อนจะทิ้งท้ายซักหน่อย สิ่งที่ทิวเล่าให้เราฟังขณะสัมภาษณ์ เราสัมผัสได้ถึงมุมมองและทัศนคติต่อการทำงาน ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรหรือสายงานไหน ถ้าคุณมีมุมมองที่ดีและถูกต้องในการทำงาน ในอนาคตข้างหน้าเมื่อคุณเติบโต คุณจะกลับมาภาคภูมิใจกับมันได้เสมอ
ฮีโร่กับวายร้ายมักมีสิ่งหนึ่งที่คลายกัน คือพวกเค้านั้นมักมีพลังพิเศษกว่าคนอื่น แต่สิ่งที่ต่างกันออกไปคือ ฮีโร่มักจะใช้พลังที่มีเพื่อส่วนร่วม เพื่อผู้อื่น เพื่อปกป้องผู้คน
ส่วนวายร้ายนั้นมักจะใช้พลังนั้นเพื่อตนเอง
ตำรวจก็ใกล้เคียงกับตัวอย่างที่ยกมา เราถือกฎหมายในมือ มีพลังมากกว่าคนอื่น แต่การกระทำเท่านั้นที่บ่งบอกว่า คุณคือฮีโร่หรือวายร้าย ปลายทางที่เลือกขึ้นอยู่ว่าอยากได้รับคำชื่นชมหรือคำด่าทอ
สุดท้ายแล้ว ทิวจะเติบโตไปเป็นแบบอย่างที่ดีไม่ได้ หากขาดการอบรมวินัย ความรู้จาก โรงเรียนเตรียมทหารโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และผู้ใหญ่อย่าง พล.ต.ท.อารีย์ อ่อนชิต พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร 2อดีตครูใหญ่แห่งรั้วสามพราน คณะนายตำรวจปกครองผู้ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่มีผลอย่างมากต่อแนวทางการรับราชการ
ครูอุปัชฌายาจารย์ พระศรีวัชรวิสุทธิ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา และ พระครูศรีวิสุทธิศาสก์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม ครูทางธรรม ผู้สอนสั่งชี้แนะแนวทางอันถูกต้องเสมอ
– พ.ต.อ.สิริชัย มาสิลีรังสี รองผู้บังคับการศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจกลาง ผู้ก่อตั้งชมรมยุทธวิธี โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
– พ.ต.ท.พิชัย ศรีโพธิ์อ่อน รองผู้กำกับการ1 กองบังคับการตำรวจสันติบาล3 ครูผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้ อารักขาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ครูใหญ่ แห่งกองบัญชาการตำรวจสันติบาล
ผู้บังคับบัญชาและพี่น้องตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ นเรศวร261สหายศึกเคียงบ่า ที่ออกปฏิบัติกันในทุกภารกิจ
พี่น้องหน่วยปฏิบัติการพิเศษ อรินทราช26 สหายศึกหน่วยเคียงข้าง ในทุกภารกิจที่ปฏิบัติร่วมกัน
และที่สำคัญยิ่ง คือครอบครัวที่ได้สนับสนุน เสียสละให้ทิวได้ทำตามความต้องการแก่หน่วยงาน และในทุกภารกิจที่เสี่ยงอันตราย โดยยังพร้อมเคียงข้างและเดินร่วมทางกับทิวเสมอมา
ศุพิต พ.” บันทึก 15/1/66