เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 15 พ.ย.67สำนักงาน ป.ป.ส.
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า เนื่องด้วยในวันนี้ เป็นวันครบรอบสถาปนาสำนักงาน ป.ป.ส. ครบ 48 ปี ตน และ ป.ป.ส. ยังคงมีความมุ่งมั่นและตั้งใจดังเดิม ส่วนเรื่องของแผนปฏิบัติในปี 2568 แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1.แผนการป้องกันและปราบปรามการแก้ไขปัญหายาเสพติด เราได้ถอดบทเรียนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในปี 2567 โดยเฉพาะการเน้นในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งในสมัยที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด 25 จังหวัด
ได้มอบหมายให้สำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการเขียนแผนการปฏิบัติ หรือเรียกว่าเป็นการตัดชุด เขียนแผนปฏิบัติแก้ไขปัญหายาเสพติดใน 25 จังหวัดให้สอดคล้องกับปัญหาจริงสำหรับพื้นที่นั้น ๆ รวมทั้งยังได้มีการกำหนดตัวชี้วัดอย่างชัดเจน
มีการติดตามรายงาน และประเมินผล พบว่าใน 25 จังหวัด สิ่งที่ถอดบทเรียนได้ คือ เห็นว่าจังหวัดไหนที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด ทำหน้าที่เป็นนักบริหารอย่างเเท้จริง มีการทำงานสอดประสานกับผู้บังคับการภูธรจังหวัด หรือสาธารณสุขจังหวัด หรือท้องถิ่น อาทิ นายก อบจ. นายก อบต. หรือนายกเทศมนตรีต่าง ๆ
ทั้งนี้ ที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ว่าฯ ท่านใดมีการลงพื้นที่แล้วทำให้ชาวบ้านและชุมชนเห็นว่าปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาร่วมกันกับภาครัฐ เมื่อไปสำรวจจะเห็นว่าจังหวัดนั้นสถานการณ์ยาเสพติดลดลง ประชาชนมีความพึงพอใจและมั่นใจ
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า จากผลการประเมินที่เกิดขึ้นในการแก้ไขปัญหายาเสพติดใน 25 จังหวัด จึงได้นำเอาโมเดลดังกล่าวมาประกอบกับนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้นำเอา ‘ธวัชบุรีโมเดล‘ มาเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภาพรวมของปี 2568
ดังนั้น ในปี 2568 ก็จะนำเอาต้นแบบการแก้ไขปัญหายาเสพติดใน 25 จังหวัด และธวัชบุรีโมเดล มาเป็นต้นแบบในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติด 77 จังหวัด โดยกำหนดตัวชี้วัดให้ชัดเจนในแต่ละจังหวัด กำหนดปัญหา กำหนดแผนการปฏิบัติแก่ทุกจังหวัดอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ การติดตามและประเมินผลนั้น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้มอบหมายให้ตนติดตามและประเมินผลผ่านศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติดฯ
ตนจึงกำหนดกับทีมงานแล้วว่าจะทำการติดตามและประเมินผลใน 77 จังหวัดด้วยตัวเอง หรือเดือนละสองครั้ง จนกระทั่งถึงปลายเดือน ส.ค.68 จึงจะให้สำนักงานสถิติแห่งชาติประเมินอีกครั้งว่าสิ่งที่เราดำเนินการมา มิติด้านการปราบปรามนั้น ตำรวจจะต้องจับผู้ค้ารายย่อยได้กี่ราย ยึดทรัพย์กี่ล้านบาท แจ้งข้อกล่าวหาสมคบได้กี่ราย เป็นต้นสิ่งเหล่านี้ปรากฏในตัวชี้วัดทั้งสิ้นและลงลึกทุกอำเภอ ไม่ใช่แค่ตัวชี้วัดระดับจังหวัด
ส่วนมิติของงานบำบัด ก็ต้องดูว่ากระทรวงสาธารณสุข ได้นำผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดแล้วมีอาการหายกี่ราย
ขณะที่ในส่วนของฝ่ายปกครอง ได้ลงตรวจสถานบริการ มีการจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมครบถ้วนหรือไม่ และเมื่อผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดหายแล้ว พวกเขามีอาชีพการงานทำหรือไม่หลังจากนั้น นี่จึงเป็นภาพใหญ่ปี 2568
ตนมองว่าในปี 2567 ภูมิภาคโดยเฉพาะอาเซียนและประชาคมโลกโดดเดี่ยวประเทศไทย เพราะแหล่งผลิตฝิ่นรายใหญ่ที่สุดของโลกอยู่ที่สาทเหลี่ยมทองคำ และยาเสพติดที่ถูกผลิตที่สามเหลี่ยมทองคำก็ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน โดยเฉพาะเฮโรอีน ไอซ์ ที่มีปลายทางไปยังออสเตรเลีย ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ขณะที่ยาบ้าที่แพร่ระบาดในไทย สปป.ลาว และเมียนมา
ตนได้พบกับเลขาธิการอาเซียนและได้ร้องขอว่า อย่าโดดเดี่ยวประเทศไทย แต่อาเซียนต้องหันมาช่วยกัน เพราะรัฐบาลไทยได้ช่วยเงินบางส่วนในประเทศที่มีปัญหาเรื่องยาเสพติด แต่เงินก้อนนี้มันยังไม่เพียงพอ ตนได้คุยแล้ว ก็ขอให้เลขาธิการอาเซียนได้ไปพูดคุยกับประเทศที่ไทยได้ช่วยสกัดเฮโรอีนไม่ให้ไปสู่ประเทศที่สาม
ขอให้เลขาธิการอาเซียนช่วยสนับสนุนเงินทุน และโดยเฉพาะสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNODC ควรจะเข้ามาช่วยเหลือไทย เพราะการปลูกฝิ่นมาอยู่ที่สามเหลี่ยมทองคำแล้ว อย่าโดดเดี่ยวประเทศไทย
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า กรณีการยึดทรัพย์สินของนักค้ายาเสพติด การยึดทรัพย์ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง เราเอาตามที่ศาลมีคำสั่งให้ตกเป็นของกองทุน
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าววาา สำหรับการเตรียมเปิดปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติก่อนจบปี 2567 ตอนนี้ยังมีอีก 2-3 ราย แต่ต้องย้ำว่า ป.ป.ส. ต้องเน้นงานเชิงรุกมากขึ้น เพราะแหล่งผลิตยาเสพติดอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน
พ่อค้ายาเสพติดทั้งคนไทยและต่างชาติก็หลบอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ สปป.ลาว และบ้างไปอยู่กับชนชาติพันธุ์ที่ประเทศเมียนมา ทำให้ตนต้องตัดไฟแต่ต้นลม ออกหมายจับ พ.อ.จะลอโบ และได้ยึดทรัพย์สินเกี่ยวข้องกว่า 66 ล้านบาท
ดังนั้น การทำงานตรงนี้เกิดขึ้นภายใต้ พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 หรือ MLAT อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือน พ.ย.นี้ ป.ป.ส. จะมีการจับกุมและเเจ้งข้อหาพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ชาวเมียนมาและชาวไทยบางส่วน รวม 13 ราย พบพิกัดอยู่ใน 5 จังหวัดทางพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมจะตรวจยึดทรัพย์สินไม่น้อยกว่า 80 ล้านบาทแน่นอน
ทั้งนี้พฤติการณ์ของนักค้ายาเสพติดชาวเมียนมาร์รายนี้มีการเดินทางเข้า-ออกระหว่างไทยและเมียนมาร์ มีการข้องเกี่ยวกับยาเสพติดเกือบทุกประเภททั้งไอซ์ ยาบ้า คีตามีน เฮโรอีน
