ปคบ.เปิดปฏิบัติการล้างบาง พระนรสีห์ พระดังเมืองอู่ทอง โอ้อวดวิชา ขายยาครอบจักรวาล รักษามะเร็งทิพย์
วันที่ 25 ต.ค.66 ที่ บก.ปคบ.พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญรองผบก.ปคบ. พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ร่วมแถลงผลปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 6 จุด ทลายขบวนการรักษามะเร็งทิพย์อวดอ้างพลังวิเศษ
จากปฏิบัติการตรวจค้นที่ สำนักกรรมฐานศากยราม วัดเขาพระครุฑ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี สถานที่รักษาผู้ป่วย และ เทวสถาน ศิวาลัยเทพมณเฑียรทอง ต.สามชุก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เป็นสถานที่ผลิต จัดเก็บ และจัดส่งแคปซูลบรรจุผงสีน้ำตาล
จับกุมผู้กระทำผิดได้ 6 ราย ประกอบด้วย อดีตพระนรสีห์ หรือ นายสิทธัตถ์ อายุ 41 ปี ผู้ก่อตั้งวัดเขาพระครุฑ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี น.ส.อรินดา อายุ 38 ปี นายเดชชรินทร์ อายุ 40 ปี น.ส.อารียา หรือมด อายุ 35 ปี นายรวีวัชร อายุ 41 ปี นางวชิรอักษรา อายุ 42 ปี
ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ, ร่วมกันโฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันโฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรในลักษณะโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง
ร่วมกันหลอกลวงโดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ” พร้อมตรวจยึดแคปซูลบรรจุผงสีน้ำตาล 16,436 แคปซูล, แคปซูลเปล่า 18,000 แคปซูล, ผงสีน้ำตาลสำหรับบรรจุแคปซูล จำนวน 10 กก., อุปกรณ์ส่วนควบในการผลิต ผลิตภัณฑ์สมุนไพร , อุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาโรค รวม 104 รายการ มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท
พล.ต.ต.อนันต์กล่าวว่า มีผู้เสียหายร้องเรียนกับ บก.ปคบ.ว่าพระนรสีห์กับพวกมีพฤติกรรมลักลอบใช้สถานที่ของวัดเปิดเป็นสถานที่รับรักษาโรคให้กับประชาชนทั่วไปโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ มีใบวิชาชีพเวชกรรม มีการเรียกเก็บค่ายาในราคาสูง รวมถึงยาที่ขายให้กับผู้ป่วยนั้นไม่มีฉลาก หรือได้รับการรับรองจากทาง อย.
รวมถึงยังโพสต์ข้อความ คลิปวิดีโอรูปภาพ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “สำนักพระกรรมฐานศากยาราม” ในลักษณะอวดอ้างว่า สามารถรักษาโรคมะเร็ง เบาหวาน หรือ โรคร้ายแรงอื่นๆ หายขาดได้ภายใน 1-3 เดือน และข้อความในเชิงโฆษณาขายผลิตภัณฑ์ “มหาโอสถหลวงพ่อนรสีห์” สรรพคุณรักษาโรคครอบจักรวาล
พล.ต.ต.อนันต์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาขบวนการดังกล่าวยังโพสต์ข้อความเชิงวิชาการอธิบายที่ไปที่มาของการค้นพบวิชาการรักษาโรคมะเร็งว่า ค้นพบจากการกรรมฐานรักษาสุนัขชื่อ ปีใหม่ ที่ป่วยเป็นมะเร็งจนหาย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่ามีพลังวิเศษในการรักษาโรค คล้ายกับการอาศัยความเชื่อ ความศรัทธา ทางศาสนา และนำความหวาดกลัวความทุกข์ของคนป่วยที่กำลังอยู่ในภาวะอ่อนไหวมาเป็นเครื่องมือหรือจุดอ่อนในการหลอกลวงเงิน ถือเป็นภัยอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง เพราะเมื่อมีผู้ป่วยหลงเชื่อก็จะทำให้พวกเขาเหล่านี้เสียโอกาสในการรักษาโรคที่แท้จริง จึงสั่งการให้ กก.4 บก.ปคบ. จัดกำลังลงพื้นที่สืบหาพยานหลักฐานเพื่อกวาดล้างขบวนการดังกล่าวให้สิ้นซากโดยด่วน
พ.ต.อ.สุพจน์ กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่า มีการกระทำผิดลักษณะดังกล่าวจริง ทำกันเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจน อาทิ พระนรสีห์ จะทำหน้าที่เป็นผู้รักษาโรค น.ส.อรินดา ทำหน้าที่จ่ายยา รับเงินค่ารักษา ประสานงานติดต่อผู้ป่วย นายเดชชรินทร์ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพระนรสีห์ คอยคัดกรองผู้ป่วย เช่นเดียวกับ น.ส.อารียา ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพระนรสีห์ และมีบางครั้งที่ทำหน้าที่รักษาแทนพระนรสีห์หากพระไม่ว่าง
อีกทั้ง น.ส.อารียา ยังเป็นผู้ที่พระนรสีห์ นำมาใช้กล่าวอ้างว่า เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้าย แต่ได้รับการรักษาจากตนจนหายขาดภายใน 2 เดือน ปัจจุบันได้บรรลุโสดาบันแล้ว ส่วนนายรวีวัชร ทำหน้าที่ในการบันทึกภาพเพื่อนำไปเผยแพร่ตามสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และ นางวชิรอักษรา ทำหน้าที่บรรจุยาสมุนไพรลงแคปซูล และเป็นผู้จัดส่งยาให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อทางออนไลน์
รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ จนนำสู่การเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 6 รายพร้อมของกลางแคปซูลสมุนไพรต่างๆจำนวนมากรวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาทดังกล่าว
พ.ต.อ.สุพจน์ กล่าวต่อว่า สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ให้การภาคเสธ โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่ามีการเปิดรับรักษาโรคหรือขายยาให้กับประชาชนทั่วไปจริง แต่อ้างว่าที่ทำไปนั้นไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงเงินผู้คน
พร้อมกันนี้ยังได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่พระนรสีห์ ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, บุกรุก ก่อสร้าง แผ้วถางครอบครองพื้นที่ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต,บุกรุกแผ้วถางป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับอดีตพระนรสีห์ เคยขายเกี่ยวกับเครื่องสำอาง ก่อนจะมาบวชเป็นพระเมื่อปี 2561 ครั้งแรกเคยรักษา สุนัขตัวที่ชื่อ เจ้าปีใหม่ อ้างว่า ป่วยเป็นมะเร็งแต่ได้รับการรักษาจากตนเองจนหายนั้น จากการสอบถามพยานต่างๆทราบว่าแท้จริงแล้ว สุนัขตัวดังกล่าวได้เสียชีวิตหลังจากพระนรสีห์รักษาได้เพียงแค่ 2-3 เดือน เท่านั้น
นอกจากนี้พระนรสีห์ ยังมักมีพฤติกรรมวินิจฉัยโรคให้กับผู้ที่มาติดต่อเข้ารับการรักษาอาการป่วยว่าเป็นมะเร็ง ระยะสุดท้าย ทั้งที่ในความเป็นจริงเป็นแค่โรคต่อมน้ำเหลืองอักเสบ และมีจำนวนมากที่ไม่ได้ป่วยเป็นมะเร็งแต่อย่างใด แต่กลุ่มผู้ต้องหาได้พูดจาหว่านล้อมจนเหยื่อหลงเชื่อ