Friday, February 21, 2025
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันปปส.ร่วมตำรวจน้ำแถลงจับไอซ์ครึ่งตันผู้ต้องหา3คนยึดทรัพย์ร่วม10ล.

    ปปส.ร่วมตำรวจน้ำแถลงจับไอซ์ครึ่งตันผู้ต้องหา3คนยึดทรัพย์ร่วม10ล.

    สำนักงาน ป.ป.ส.เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ก.พ.68 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส.   พล.ต.ต. เศรษฐสิริ นิพภยะ ผบก.รน. พ.อ.อภิชัย ทองธรรมชาติ รอง ผบช.หน่วยข่าวกรองทางทหารหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ขกท.) นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

    ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดส่งต่างประเทศ จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมไอซ์ 500 กิโลกรัม ลักลอบลำเลียงมาจากชายแดนพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านเตรียมลำเลียงไปยังประเทศที่สาม

    เหตุเกิดที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ต่อเนื่อง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และ จ.เชียงใหม่ ขยายผลตรวจค้น 5 จุด ในพื้นที่ จ.เชียงราย และ กทม.พร้อมตรวจยึดทรัพย์สิน อาทิ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ยานพาหนะ ทองรูปพรรณ เงินสด รวมมูลค่าประมาณ 9 ล้านบาท

    พล.ต.ท.ภาณุรัตน์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา รับรายงานจากนายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. กรณีพบรถบรรทุกต้องสงสัยที่เป็นเครือข่ายลำเลียงยาเสพติด ขับมุ่งหน้าเข้าพื้นที่ภาคกลาง จึงสั่งการให้ติดตามพฤติการณ์อย่างใกล้ชิด

    กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น.ขับเข้าเขตพื้นที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่แสดงตัวขอตรวจค้น พบ ไอซ์ 500 กิโลกรัม บรรจุ 20 กระสอบ มีน้ำหนักกระสอบละ 25 กิโลกรัม พร้อมจับกุมคนขับรถบรรทุก โดยให้การว่าเตรียมนำยาเสพติดไปส่งบริเวณพื้นที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่จึงขยายผลเพื่อจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้อง

    กระทั่งวันที่ 16 ก.พ. เวลาประมาณ 05.00 น. สามารถจับกุมบุคคลที่มารับยาเสพติด 1 ราย พร้อมรถกระบะตู้ทึบ ที่เตรียมมาขนถ่ายยาเสพติด มีบุคคลที่หลบหนี 2 ราย เหตุเกิดที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

    จากการสอบปากคำคนขับรถบรรทุก ให้การว่า ตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.จนถึงปัจจุบัน ได้รับจ้างลำเลียงยาเสพติดมาแล้วทั้งหมด 4 ครั้ง ได้ค่าจ้างเป็นเงินสดครั้งละ 100,000 บาท ส่วนพื้นที่ส่งมอบยาเสพติด ได้แก่ จ.สุพรรณบุรี และ จ.นนทบุรี โดยรับว่าไปลำเลียงยาเสพติดมาจากโกดังในพื้นที่ จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่จึงเร่งตรวจสอบข้อมูล

    ต่อมาเวลาประมาณ 13.00 น. สามารถติดตามจับกุมบุคคลที่นำยาเสพติดมาส่งมอบให้คนขับรถบรรทุกที่โกดังได้ที่ จ.เชียงใหม่

    ที่มาของการสืบสวนจับกุมเริ่มจากสำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคี ได้ดำเนินการสืบสวนเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติมาอย่างต่อเนื่องโดยตั้งแต่เดือน ก.ค.67-ปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 7 เดือน ได้สืบสวนจับกุมเครือข่ายดังกล่าวรวม 3 คดีตรวจยึดยาเสพติด ไอซ์และเฮโรอีน ปริมาณเกือบ 1 ตัน ยึดทรัพย์กว่า 18 ล้านบาท ปลายทางของยาเสพติด ได้แก่ มาเลเซีย ฮ่องกง ออสเตรเลีย

    พล.ต.ท.ภาณุรัตน์กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้มักมีคำถามเยอะว่าทำไมเราจับได้เฉพาะแรงงานหรือคนขนลำเลียง จึงต้องเรียนว่านายทุนใหญ่มักจะอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ถือว่าเราก็ได้จับในผู้ต้องหาระดับเป็นผู้สั่งการขึ้นมา ถือว่าเป็นการหยุดความเคลื่อนไหวได้ ซึ่งหากคนไทยถูกออกหมายจับก็จะหลบไปอยู่ที่ประเทศเมียนมา หรือ สปป.ลาว

    ดังนั้น เรื่องความร่วมมือถือเป็นเรื่องสำคัญมาก และไทยเองก็มีความร่วมมือระหว่างไทย-เมียนมา และไทย-สปป.ลาว ซึ่งทราบว่าภายในปลายเดือน ก.พ.นี้ จะมีการประชุมร่วมกันของ 3 ฝ่าย และจะมีการเปิดปฏิบัติการร่วมกัน เช่น หากมีการตรวจค้นในฝั่งไทย ในฝั่งเมียนมา และ สปป.ลาว ก็จะเป็นการเปิดปฏิบัติการร่วมกัน

    อย่างไรก็ตาม เท่าที่มีการสืบสวนส่วนใหญ่ นายทุนจะเป็นกลุ่มทุนจีน แต่ก็ต้องอาศัยความเข้มแข็งของประเทศนั้น ๆ ด้วย อย่างกรณีของเมียนมา เข้าใจได้ว่าบางพื้นที่ก็เข้าไม่ถึงเพราะมีชนกลุ่มน้อย อันนี้ได้นำเรียนผู้ใหญ่ไปแล้วว่าจะต้องมีการขอความร่วมมือไปยังแหล่งผลิตยาเสพติด ซึ่งก็คือที่รัฐฉาน อยู่ติดกับมณฑลยูนนาน ประเทศจีน

    พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับ Drug Profile การตรวจคุณสมบัติของยาเสพติด อย่างไอซ์ คือ เพียวเมทแอมเฟตามีน แต่ถ้ายาบ้าจะมีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีน ประมาณ 17-21 เปอร์เซ็นต์

    เมทแอมเฟตามีนที่ผสมในยาบ้า จะมีสารตั้งต้นที่เรียกว่า อีเฟดรีน (Ephedrine) ส่วนซูโดอีเฟดรีน เป็นภาษาละติน แปลว่าของปลอมของเทียม จึงเป็นสารสังเคราะห์ อย่างไรก็ตาม ที่เราเคยจับได้ ถ้าเป็นซูโดอีเฟดรีนในยาบ้าหรือไอซ์ จะมาจากประเทศอินเดีย

    แต่ถ้าเป็นอีเฟดรีนในยาบ้าหรือไอซ์ จะมาจากพืช ซึ่งพืชตัวนี้ปลูกที่ประเทศจีนอย่างเดียว นี่จึงเป็นส่วนที่เราจะขอความร่วมมือจากจีนให้ช่วยสกัดกั้นสารตั้งต้นจากมณฑลยูนนานที่จะเข้าไปยังแหล่งผลิตยาเสพติดสำคัญในรัฐฉาน

    พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์เรื่องบุหรี่ไฟฟ้าที่เข้าถึงเด็กและเยาวชนอย่างมากในปัจจุบันนี้ ว่า ต้องเรียนว่าอำนาจของเราจะเข้าไปคาบเกี่ยวก็ต่อเมื่อมีการใช้สารเสพติดผสมในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า  ตามประมวลกฎหมาย ป.วิอาญา จะเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะจับกุมเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า

    ดังนั้น หาก ป.ป.ส. เจอแล้วจะไปจับบุหรี่ไฟฟ้าจึงยังไม่สามารถทำได้ แต่ถ้าหากบุหรี่ไฟฟ้ามีการผสมยาเสพติดจะเป็นอำนาจของ ป.ป.ส. โดยตรง แต่เข้าใจว่าจะมีการประชุมของคณะกรรมการติดตาม เร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด (ครส.) ในวันที่ 20 ก.พ.นี้ โดยจะมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม จะยกเรื่องนี้เป็นวาระ

    จะมีหลายหน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อที่จะได้มีการมอบหมายให้แต่ละหน่วยงานไปดำเนินการ เพราะเห็นว่าเด็กและเยาวชนเข้ามายุ่งเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าเยอะมาก จึงขอฝากเตือนไปยังผู้ปกครองว่าบุหรี่ไฟฟ้าทำลายสุขภาพ และหากมีการนำยาเสพติดไปผสมด้วยนั้น แม้ทำให้เกิดความเคลิบเคลิ้มแต่เมื่อเด็กไม่รู้เมื่อสูบเข้าไปทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและสติสัมปชัญญะ อาจนำไปสู่การถูกล่วงละเมิดได้ ฝากผู้ปกครองช่วยเป็นหูเป็นตาป้องกันการแพร่ระบาดของเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าด้วย

    นอกจากสำนักงาน ป.ป.ส. จะมุ่งเน้นการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตกอย่างเข้มข้นแล้ว สำนักงาน ป.ป.ส. ยังมีมาตรการขยายผลการสืบสวนเพื่อตรวจยึดทรัพย์สิน และผู้เกี่ยวข้อง นายทุนผู้สั่งการ มาดำเนินคดีตามกฎหมายควบคู่กันไป โดยมีเป้าหมายเพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดอย่างเป็นระบบ

    ยิ่งในปัจจุบันปัญหาการค้ายาเสพติดในลักษณะเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติกระจายตัวอยู่ทั่วทุกภูมิภาค การบูรณาการทางการข่าวระหว่างหน่วยงานภายในประเทศ และ หน่วยงานระหว่างประเทศ ก็เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมากในปัจจุบัน ซึ่ง สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวเกี่ยวกับเครือข่ายการค้ายาเสพติด ร่วมกับหน่วยงานภาคีภายในประเทศ และหน่วยงานระหว่างประเทศ จนนำมาซึ่งผลสัมฤทธิ์ในการสืบสวนขยายผลเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติได้อย่างเป็นรูปธรรม

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments