งง เพราะไม่ใช้ภาษาคน
งงไปกันทั้งประเทศ งงกันตั้งแต่เริ่มแรกเกิดเหตุยันมาถึงตอนใกล้สรุปคดี กรณีนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่ที่ดิน จ.พังงา ผู้ต้องหาคดีทุจริตออกเอกสารโฉนดที่ดินหลายแปลงในจ.ภูเก็ตและพังงา ใช้ถุงเท้าผูกคอตายอย่างมีเงื่อนงำน่าสงสัย ในห้องควบคุมชั้น6 ของดีเอสไอ ทั้งๆที่ถูกจับกุมได้ไม่ถึงวัน เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 1 วันที่ 30 ส.ค.โดยประเด็นที่เริ่มฉงน เพราะแพทย์นิติเวช ตร.ผ่าชันสูตรพบว่านายธวัชชัย ตับแตก ผูกคอยังไงตับแตก สังคมสงสัย จะโดนซ้อมก่อนหรือเปล่า ยิ่งตอนหลัง คุณหญิงหมอ คุณหญิงแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ 1 ในคณะกรรมการสอบสวนที่กระทรวงยุติธรรมตั้งขึ้น เปิดเผยว่า จากการตรวจฟิลม์เอ็กซเรย์ผู้ตาย พบว่ากระดูกซี่โครงทั้ง 2 ข้างหักด้วย
ล่าสุด พ.ต.อ.ดร.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เปิดเผยถึงการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนในระยะเวลา 21-22 วันที่ผ่านมาว่า หลังจากสอบปากคำ พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ และทีมแพทย์ผ่าชันสูตรพลิกศพนายธวัชชัยโดยละเอียดในทุกประเด็นที่สงสัย ทั้งสาเหตุการเสียชีวิตคือประเด็นตับแตก เลือดออกในช่องท้องและขาดอากาศหายใจ ประเด็นเหล่านี้มีความสอดคล้องกับรายงานการตรวจชันสูตรพลิกศพ สามารถพิสูจน์หรือบ่งชี้ให้เห็นได้ว่านายธวัชชัยเสียชีวิต มีความเป็นไปได้ว่า “น่าจะมีผู้อื่นทำให้ตาย แต่ขอย้ำว่าไม่ใช่การฆาตกรรม” หลังจากนี้จะต้องสอบสวนคลี่คลายในประเด็นนี้ต่อไป
เท่านั้นก็เป็นเรื่อง สังคมฉงนงงงวยซ้ำซ้อน ” มีคนทำให้ตาย แต่ไม่ใช่ฆาตกรรม”มันหมายความว่ายังไง
คดีนี้เดิมที คนในสังคมต่างสงสัยอยู่แล้ว ผูกคอตายยังไง ทำไมถึงตับแตก ขณะที่ดีเอสไอออกมาแถลงโบ้ย การเสียชีวิตของนายธวัชชัย อาจจะเกิดจากการปั๊มหัวใจ ทำให้ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะออกมาโต้ การปั๊มหัวใจทำอย่างมีความรู้ และตับก็อยู่คนละส่วน การโต้กันไปมา ทำให้กระทรวงยุติธรรมต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน นอกจากการสอบสวนของพนักงานสอบสวนสน.ทุ่งสองห้องเจ้าของพื้นที่
ในส่วนของกล้องวงจรปิด ที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้ตรวจสอบ อ้ำอึ่งอยู่หลายวันกว่า ดีเอสไอ จะออกมาบอกว่า ในห้องควบคุมไม่ได้ติดกล้องวงจรปิด เป็นการทำตามหลักสากล ซึ่งก็น่าขำ เพราะห้องขังที่ไหนๆโรงพักไหนๆ ก็มีกล้องวงจรปิดติดไว้ดูความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาในห้องขังกันทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอ ยังพยายามแสดงความบริสุทธ์ ถึงไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ขณะเกิดเหตุได้ถ่ายภาพนิ่งไว้ด้วย พร้อมกับเปิดเผยภาพ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของดีเอสไอ และทีมแพทย์กู้ชีพ กำลังช่วยปั๊มหัวใจกู้ชีพนายธวัชชัย
จะอย่างไรก็แล้วแต่ ถึงตอนนี้ พยายามจะทำความเข้าใจคำพูดของ พ.ต.อ.ดร.มานะ ในฐานะพนักงานสอบสวน ที่ว่า “มีคนทำให้ตาย แต่ไม่ใช่ฆาตกรรม” แต่คิดแล้วคิดอีกก็คิดไม่ตก ก็ไหนดีเอสไอ บอกว่านายธวัชชัย ผูกคอตายเอง แพทย์ชันสูตรพบตับแตก แต่ทำไมผลสรุปจากพนักงานสอบสวนตำรวจท้องที่ ถึงบอกว่า มีคนทำให้ตาย แต่ไม่ใช่ฆาตกรรม
บอกตรงๆนะ ตำรวจไม่ได้เกี่ยวกับคดีนี้เลย แต่พาลจะถูกด่า เพราะดันไม่ใช้ภาษาคนสื่อ!!!
กากีกลาย22/9/59