ผบช.ก.แถลงกองปราบ-ปอท. เปิดปฏิบัติการปิดเมืองนราฯ ล่า SIM BOX ตัดเครื่องมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชายแดนใต้“จับผู้ต้องหา 3 ราย เป็นสาวไทย1คน อีก2 คนเป็นหนุ่มมาเลเซีย ยึดซิมการ์ด เครื่องส่งและอุปกรณ์กระจายสัญญานหลายรายการ
เผยเป็นเล่ห์ใหม่แก๊งคอลเซนเตอร์หลบเลี่ยงมาตรการโชว์หมายเลขหน้าเบอร์โทร (Prefix) ของ กสทช. ทำให้เหยื่อหลงเชื่อเพราะคิดว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์ประเทศไทย ขณะเดียวกันจะส่งคนมาเลเซียมาผูกสัมพันธ์กับคนไทยชายแดนในลักษณะชู้สาวก่อนหาเช่าบ้านฝั่งไทย ให้ทีมเทคนิคติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นจุดกระจายสัญญาณโทรสุ่มหลอกลวงเหยื่อ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 27 ม.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช. ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก.สั่งการ พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ประจำ บช.ก. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย รองผกก.6.บก.ป.
ร่วมกันแถลงผลจับกุม น.ส.ซารีนา มะทา อายุ 24 ปี นายลอ เกียง วัน อายุ 25 ปี และนายวี กึก โรง อายุ 36 ปี 2 คนหลังเป็นชาวมาเลเซีย จับกุมทั้งหมดได้ที่บ้านเช่าใน ต.สุไหง-โกลก อ.สุไหง-โลก จ.นราธิวาส 3 แห่ง
ยึดอุปกรณ์ “SIM BOX” หรือ “GSM Gateway” สำหรับ 32 ซิมการ์ด 15 เครื่อง เครื่องกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ต (Router WIFI) 3 เครื่อง และพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง หลังทั้งหมดร่วมกันให้ติดตั้งอุปกรณ์ภายในบ้านพัก เอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทย โดยเครื่อง SIM BOX มีราคาตามท้องตลาดกว่า 100,000 บาท
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.กล่าวว่า ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดอย่างหนักในสังคมไทย มีประชาชนโดนหลอกลวงเป็นจำนวนมากสูญเสียเม็ดเงินต่อวันกว่าร้อยล้านบาท แม้รัฐบาลจะมีมาตรการต่างๆป้องกันหมายเลขโทรศัพท์แปลกปลอม การยืนยันตัวตนผู้ลงทะเบียนซิมการ์ดและประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชน แต่ยังมีประชาชนอีกหลายคนตกเป็นเหยื่อ
ตำรวจสอบสวนกลาง(CIB)ได้ศึกษารูปแบบการกระทำความผิดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาต่อเนื่องจนทราบว่ากลุ่มคนร้ายปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้โทรหาผู้เสียหายโดยแยกเครื่อง “SIMBANK” สำหรับเสียบซิมการ์ดโทรศัพท์ที่เป็นของค่ายโทรศัพท์ในประเทศไทยไว้ที่หนึ่ง โดย SIMBANK จะตั้งอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศก็ได้ แต่ต้องมีเครื่อง“SIM BOX” หรือ “GSM Gateway”แปลงสัญญาณอินเทอร์เน็ตเป็นสัญญาณมือถือ
ผบช.ก.กล่าวต่อว่า SIM BOX แต่ละเครื่องมีช่องเสียบซิมการ์ดโทรศัพท์ 32 ซิม แต่กลุ่มคนร้ายไม่ได้เสียบซิมการ์ดไว้ โดย SIM BOXจะถูกติดตั้งอยู่ในประเทศไทยหรือฝั่งชายแดนที่ติดต่อประเทศเพื่อนบ้านมีSIM BANK (สำหรับเสียบซิมการ์ด)และSIM BOX (ไม่ต้องเสียบซิมการ์ด)เชื่อมต่อกันผ่าน Router มี Cloud SIP Server เป็นตัวกลาง
เมื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์จากต่างประเทศเข้ามาหลอกลวงผู้เสียหายคนไทยโดยใช้อุปกรณ์ดังกล่าว จะทำ ให้เห็นว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์ประเทศไทย เพื่อหลบเลี่ยงมาตรการขึ้นหมายเลขหน้าเบอร์โทร (Prefix)ของกสทช. ทำ ให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อได้ง่าย แต่ละวันคนร้ายจะใช้อุปกรณ์เหล่านี้สุ่มโทรหาผู้เสียหายวันละหลายแสนครั้ง ปกติอุปกรณ์ดังกล่าวต้องขออนุญาต กสทช. ส่วนใหญ่จะนำมาใช้ในธุรกิจเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
พล.ต.ท.จิรภพกล่าวด้วยว่า ต่อมา กก.6 บก.ป.สืบสวนทราบว่า ใน ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ชายแดนไทยมาเลเซีย มีการลักลอบติดตั้งอุปกรณ์ “SIM BOX” หรือ “GSM Gateway” เพื่อใช้โทรหลอกลวงผู้เสียหายชาวไทยหลายรายจนเป็นที่มาในการเปิดปฏิบัติการ ปิดเมืองนราฯ ล่า SIM BOX ตัดเครื่องมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชายแดนใต้ และจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายพร้อมของกลาง นำส่งกก.6 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.จิรภพกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนมีผู้ต้องหารับสารภาพ 2 ราย คือน.ส.ซารีนาและนายลอ เกียง วัน ทั้งคู่ให้การว่าอยู่ระหว่างคบหาดูใจกัน และได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวมาเลเซีย ให้ดูแลสถานที่ที่ติดตั้ง SIM BOX ส่วนใหญ่นายทุนชาวมาเลเซียจะติดต่อคนไทยที่มีความสัมพันธ์กับคนมาเลเซียให้หาบ้านเช่าติดตั้งสัญญาณอินเตอร์เน็ต จากนั้นฝ่ายเทคนิคจะเข้ามาติดตั้งอุปกรณ์ให้ ผู้ต้องหาทั้งคู่จะได้รับค่าจ้างเป็นค่าดูแลอุปกรณ์ 5,000 บาท ต่อจุด ส่วนค่าเช่าบ้าน ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าน้ำค่าไฟ จะจ่ายต่างหาก
ส่วนนายวี กึก โรง ผู้ต้องหาอีกรายให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าเพียงโอนเงินให้ น.ส.ซารีนา ตามสั่งการของนายทุนชาวมาเลเซียเท่านั้น แจ้งข้อหา ทั้งหมด ร่วมกันมี ใช้ และนำเข้าเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตและใช้คลื่นความถี่โดยไม่ได้รับอน ญาต, ร่วมกันประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้อนุญาต ตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 , พ.ร.บ.ว่าด้วยการประกอบกิจการโทรคมนาคม ส่วนนายลอ เกียง วัน ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มฐานเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวปิดท้ายว่า ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนประชาชนทุกท่าน หากพบบุคคลต้องสงสัยมีพฤติกรรมน่าสงสัยหรือน่าเชื่อว่าได้มีการเช่าสถานที่เพื่อใช้การซุกซ่อนอุปกรณ์ SIM BOX หรือ พบเบาะแสหรือมีข้อมูลของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แจ้งข้อมูลดังกล่าวกับตำรวจสอบสวนกลาง(CIB)ให้ตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป หลังจากนี้คณะพนักงานสอบสวนจะไปขยายผลต่อว่าแก๊งผู้ต้องหาถือเป็นแก๊งใหม่ แยกจากพวกแก๊งประเทศเพื่อนบ้านที่เคยถูกจับกุมหรือไม่ แม้รูปแบบการหลอกจะใกล้เคียงกันหมด แต่จะเชื่อมโยงกันในมิติใดจะตรวจสอบเพิ่มเติม
