ตำรวจสอบสวนกลางรวบหนุ่มบาร์โฮสต์ซาดิสม์ ลวงหญิงผ่านแอปฯหาคู่ กักขังซ้อมทรมานจนตายในแมนชั่นกลางเมืองพัทลุง เชื่อเหยื่อมีอีกเพียบเร่งขยายผลตรวจสอบ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 ต.ค.65 ที่ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ บก.ป. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ,พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป.
ร่วมแถลงผลการจับกุม นายธนเดช หรือ รุจ แก้วช่วง อายุ 27 ปี ข้อหา “ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายโดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย จับกุมได้ที่ ห้องพักภายในสมบูรณ์แมนชั่นแห่งหนึ่ง ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ค.59 ตำรวจ สน.บางยี่ขัน รับแจ้งพบศพ น.ส.กมลเนตร ละมูล อายุ 26 ปี ชาว จ.อำนาจเจริญ เสียชีวิตอยู่ในบ้านเช่า เลขที่ 112/18 แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ตรวจสอบสภาพศพพบมีบาดแผลถูกทำร้ายร่างกาย กะโหลกศีรษะแตก เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง กระดูกสันหลังหัก กระดูกซี่โครงหัก
จากการสืบสวนทราบว่า นายธนเดช แฟนผู้ตายเป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้ายจนเสียชีวิต โดยทั้งคู่ได้รู้จักกันผ่านทางแอปพลิเคชั่นหาคู่ ก่อนชักชวนให้มาพักอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ตลอดระยะระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันประมาณ 1 เดือน นายธนเดช มีพฤติกรรมกักขังผู้ตายให้อยู่แต่ในห้องพักแล้วใช้กำลังทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ก่อนจะหลบหนีไป
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า ต่อมาพ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. สืบทราบเบาะแสว่า นายธนเดช หลบหนีมาเช่าห้องพักอยู่ในพื้นที่ จ.พัทลุง กับ เหยื่อหญิงสาวอีกรายชื่อ น.ส.เนย (นามสมมติ) อายุ 31 ปี ชาว จ.ลำพูน ถูกกักขังทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นเดียวกัน
เร่งนำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบวางแผนเข้าจับกุมและให้การช่วย น.ส.เนย ได้ทันท่วงที ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลในจ.พัทลุง รักษาตัวอยู่ในห้อง ไอซียู เบื้องต้นพบว่า น.ส.เนย มีรอยบาดแผลฟกช้ำตามร่างกายเป็นจำนวนมาก ใบหน้าบวมช้ำผิดรูป กระดูกซี่โครงซ้ายขวาหักรวมนับสิบซี่ ดั้งจมูกหัก
“จากการสอบถาม น.ส.เนย ทราบว่า รู้จักกับนายธนเดช ผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ ก่อนจะซื้อตั๋วรถไฟให้เดินทางมาหาที่พัทลุง บอกว่ารักและอยากเจอ เมื่อมาถึงได้พาไปทานข้าวที่ตลาด แต่ระหว่างนั้นนายธนเดช เกิดอาการหึงหวง หาว่า น.ส.เนย ไปมองชายอื่น
ก่อนหยิบจานข้าวปาใส่ใบหน้า และเทน้ำซุปราดศีรษะ จากนั้นได้ฉุดกระชากลากตัวมาที่ห้องพักภายในแมนชั่น แล้วกักขังให้อยู่แต่ในห้อง ไม่ให้ออกไปไหน ไม่ให้ติดต่อกับผู้ใด แล้วใช้กำลังทำร้ายร่างกายเรื่อยมาโดยทำเช่นนี้ตลอดระยะเวลากว่า 1 เดือน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือ
เหยื่อเองยอมรับว่า “คิดว่าจะต้องจบชีวิตอยู่ในห้องนี้แล้วไม่คิดว่าจะมีชีวิตรอดออกมาได้” เพราะทุกครั้งที่นายธนเดช เสพยาบ้า ก็จะยิ่งทำร้ายร่างกายเหยื่อหนักขึ้น แต่ละวันนายธนเดช จะเสพยาบ้าไม่ต่ำกว่า 10 เม็ด อีกทั้งยังพบว่าเสพยามานานกว่า 10 ปี ล่าสุดจากการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะหลังถูกจับกุม พบว่ามีสารเสพติดปนเปื้อนอยู่ในร่างกายจริง “
ผบช.ก. กล่าวอีกด้วยว่า จากการตรวจสอบประวัติ เมื่อปี 2557 เคยถูกดำเนินคดีข้อหา ครอบครองยาเสพติด ท้องที่ สน.พระราชวัง , ปี 2558 ถูกดำเนินคดีข้อหา เสพยาเสพติดท้องที่ สน.บางยี่ขัน, ปี 2559 ถูกดำเนินคดีข้อหา ฆ่าผู้อื่น พื้นที่ สน.บางยี่เรือ ถูกศาลพิพากษาจำคุก 10 ปี 16 เดือน ต่อมาได้รับการลดหย่อนโทษ ถูกจำคุกจริง 5 ปี 10 เดือน ก่อนพ้นโทษออกมาเมื่อเดือน ม.ค. 2564 หลังพ้นโทษมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟบาร์โฮสต์เรื่อยมา กระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว
สอบสวน นายธนเดชรับสารภาพ อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ ทำไปเพราะ ความหึงหวง ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ พลั้งมือทำร้าย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากตรวจสอบพบว่ามักมีพฤติกรรมชอบแชทคุยตีสนิทกับหญิงสาว โดยจะบอกว่ารักและขอนัดเจอ
เมื่อผู้หญิงหลงเชื่อจะพามากักขังที่ห้องพักก่อนจะลงมือทำร้ายร่างกายเหยื่อ เป็นไปได้ว่าอาจมีเหยื่อรายอื่นที่ถูกกระทำในลักษณะนี้อีกหลายราย ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง สน.บางยี่ขัน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
