ย้อนรอยคดีในเดือนแห่งความรัก เมื่อแรงพิศวาสผูกเงื่อนให้กลายเป็นปมสังหาร
ตำรวจระดับผู้กำกับ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ถูกซัดทอดว่าได้สั่งให้ลูกน้อง “อุ้มฆ่าสาวทอม” จนเป็นข่าวดังข้ามปี 2559-2560
คดีนี้เริ่มต้นจาก ผู้เป็นพ่อเข้าแจ้งความกับ สน.หนองค้างพลู ให้ข้อมูลว่า น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง หรือน้องหญิง อายุ 28 ปี ลูกสาวซึ่งเป็นทอมบอยได้หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ
เนื่องจากลูกสาวหน้าตาดี มีผู้หญิงมาติดพันหลายคน
หนึ่งในนั้นคือ น.ส.กรรณิกา กรุมรัมย์ หรือดาว อายุ 38 ปี นักร้องร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายตำรวจยศพันตำรวจเอก จนมีเรื่องหึงหวงหลายครั้ง ก่อนหายไปอยางไร้ร่องรอย ทำให้เชื่อว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกสาวหายตัวไป
เมื่อตำรวจตรวจสอบเฟซบุ๊คของน้องหญิง พบว่ามีการแชทคุยกับดาว 5 วันก่อนจะหายตัวไป
จากการสอบพยานเบื้องต้น ยังมีคนได้ยินดาวบอกกับคนที่ถามถึงน้องหญิงด้วยว่า ถูกพาไปสั่งสอน ไม่ถึงตายหรอก เพราะมีปัญหาจากการเล่นพนันฟุตบอล
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของอพาร์ตเมนท์ที่น้องหญิงพัก ทำให้ทราบว่าเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 13 ธ.ค. 2559 น้องหญิงเดินออกจาก ห้องพักเลขที่ 428 ชั้น 4 ขี่จักรยานยนต์จะไปทำงานที่ร้านอาหาร
แต่มีรถกระบะนิสสัน นาวาร่า ปาดหน้าจนจักรยานยนต์ล้ม ก่อนจะมีชายฉกรรจ์ 4 คน วิ่งลงมาฉุดกระชากน้องหญิงขึ้นรถ โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ยังแสดงตัวว่าเป็นตำรวจด้วย
เบาะแสเพียงเท่านี้ เพียงพอแล้วที่จะทำให้ตำรวจเชื่อว่าการหายตัวของสาวทอมบอยน่าไม่ใช่เรื่องปกติ
ได้เริ่มตามจากป้ายทะเบียนรถที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด รวมถึงเฟซบุ๊คของดาว ซึ่งพบว่ามีนายตำรวจคนที่ถูกกล่าวหาเป็นเพื่อนด้วย
จากการสืบสวนมีข้อมูลว่า นายตำรวจคนดังกล่าว สนิทสนมกับนายสนอง หรือกำนันหนอง สมสิทธิ์ อายุ 54 ปี กำนัน ต.ลาดบัวขาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้เรียกกำนันสนองมาสอบปากคำ
คดีนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ขณะนั้น) พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น.(ขณะนั้น) ได้ลงมาสอบปากคำผู้ต้องสงสัยด้วยตัวเอง
พร้อมมอบหมายให้พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น.ประสานกับพล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภ.7(ขณะนั้นๆ)อีกทางหนึ่ง
เบื้องต้นคาดว่าน้องหญิงน่าจะเสียชีวิตแล้ว ตำรวจพอจะทราบว่ารถกระบะนิสัน นาวาร่า ที่ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นของใคร เพียงแต่ยังรอปะติดปะต่อ”จิ๊กซอว์” ตัวสุดท้ายเพื่อสาวให้ถึงผู้จ้างวาน
ต้นปี 2560 ชุดสืบสวนสามารถควบคุมตัวพลเรือนที่ร่วมก่อเหตุไว้ได้ 2 คน ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี พร้อมรถกระบะนิสสัน สีดำ ที่ใช้ก่อเหตุ
ทั้งคู่ยอมรับ ได้รับการว่าจ้างจากผู้กำกับการเป็นเงิน 2 แสนบาท เพื่อไปอุ้มตัวสาวทอม จากอพาร์ตเมนต์ ซอยเพชรเกษม 114
วันที่ 10 ม.ค. เวลา 12.00 น. พ.ต.ท.อดิศร แก้วโหมดตาด รอง ผกก.(สอบสวน) สน.หนองค้างพลู (ขณะนั้น) ไปที่ศาลธนบุรี เพื่อขอหมายศาลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวโดยมีผู้ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย
1. พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี อายุ 59 ปี
ในข้อหาใช้จ้างวานให้ผู้อื่นร่วมกันข่มขืนให้ผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายของผู้ถูกข่มขืนใจนั่นเอง
หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย ทำร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องจำยอมต่อสิ่งนั้น หรือกักขัง ผู้อื่นหรือกระทำการด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่นฆ่า ผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้
และลอบฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย
2.นายนิวัฒน์ หรือ โจ๊ก สวยทอง อายุ 32 ปี อยู่ จ.กาญจนบุรี
3.นายภูมิทัศน์ หรือ อุ๋ม พิบูรณ์สวัสดิ์ อายุ 24 ปี อยู่ จ.ราชบุรี
4.นายชัยยุทธ หรือจบ เบ็ญจชาติ อายุ 41 ปี อยู่ จ.กาญจนบุรี
5.นายภาณุเมศวร์ หรือ จิ๋ว มีลา อายุ 34 ปี อยู่ จ.กาญจนบุรี
6.นายสามารถ แสงสิน อายุ 50 ปี อยู่ จ.กาญจนบุรี
7.น.ส.กรรณิกา หรือ ดาว กรุมรัมย์ อายุ 38 ปี
ทั้งหมดนี้ ประกอบด้วยผู้บงการ คนชี้เบาะแสและคนอุ้ม ผู้เสียหายไปจากเคอาร์ แมนชั่น ซ.เพชรเกษม
หลังถูกออกหมายจับ พ.ต.อ.อำนวย ได้ติดต่อขอมอบตัวในช่วงค่ำทันที และถูกนำตัวไปสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล
โดยให้การภาคเสธ ให้ลูกน้องเข้าไปจับตัวสาวทอมจริงเพื่อเป็นการสั่งสอน เนื่องจากไม่พอใจสาวทอมที่ไปขอยืมเงินเพื่อนสาวคนสนิท 4 ล้านบาท และยังไม่ได้คืนทั้งหมด จึงแค่สั่งสอนไม่ได้มีเจตนาฆ่าแต่อย่างใด
ส่วนในช่วงค่ำตำรวจสามารถรวบตัวนายนิวัฒน์ หรือ “โจ๊ก” จากการสอบปากคำให้การเป็นประโยชน์เป็นอย่างมาก
สารภาพว่า หลังจากอุ้มน้องหญิงมาแล้วได้นำตัวมายังเซฟเฮาส์แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมืองกาญจนบุรี
จากนั้นรุ่งเช้าวันที่ 14 ธ.ค. ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับอีก3คน คือ ร.ท.ชัยยุทธ หรือ “จบ” ร่วมกับ นายภาณุเมศวร์ หรือ “จิ๋ว” พลทหารสังกัด มทบ.17 และนายสามารถ อดีตตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี
ร่วมกันพาน้องหญิงออกจากเซฟเฮาส์ไป ทราบว่าทั้ง 3 คน ได้ทำร้ายน้องหญิงและน่าจะนำร่างไปทิ้งไว้ในพื้นที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ห่างเซฟเฮาส์ประมาณ 30 กิโลเมตร
11 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพ น้องหญิงในสภาพถูกฆ่าฝังดินอยู่ด้านหลัง รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ใน ต.หนองหญ้าปล้อง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นพบว่าศพอยู่ในลักษณะเปลือยกาย มีรอยสักที่แผ่นหลังและต้นแขน คาดว่าจะเป็นสาวทอมที่ถูกอุ้มหายไป
12 ม.ค. พล.ต.ท.ศานิตย์ ยอมรับว่าจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 4 ทำให้มั่นใจว่าน้องหญิงเสียชีวิตแล้ว และถูกนำไปทิ้งในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.หนองหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี
ได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐานไปตรวจค้นรีสอร์ตดังกล่าว และพบศพจริง โดยได้ส่งศพไปที่นิติเวช เพื่อตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลและดีเอ็นเอเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง
14 ม.ค.ชุดสืบสวนนครบาล ได้ควบคุมตัวกำนันสนอง ผู้ต้องหารายที่ 8 คนสนิทของผู้กำกับอำนวย ขณะเรียกตัวเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม
จากการกดดันและสอบปากคำอย่างคร่ำเคร่ง ในที่สุดกำนันคนนี้ก็ยอมรับสารภาพว่ารับงานจากอดีต ผกก.สภ.บ้านโป่ง
สาเหตุจากผู้ตายไปโพสต์เฟซบุ๊กเยาะเย้ยเรื่องชู้สาว โดยเฉพาะเวลาที่ดาว กำลังอยู่กับ พ.ต.อ.อำนวย ผู้ตายมักโทร.มาหาแล้วพูดว่า “เอาเมียกูคืนมา”
สาเหตุที่รับงานอุ้มฆ่าทมิฬครั้งนี้เพราะมีความสนิทสนมกับ พ.ต.อ.อำนวย ได้รับค่าจ้างก่อเหตุรวม 2 แสนบาท
นัดจ่ายเงิน 3 งวด งวดแรก 6 หมื่นบาท งวดสอง 4 หมื่นบาท และงวดสุดท้าย 1 แสนบาท ที่ร้านอาหารและร้านกาแฟ ห่างจาก สภ.บ้านโป่ง เพียง 500 เมตร
ก่อนนำเงินไปแจกจ่ายให้กับชุดทำงาน โดยกันในส่วนของตัวเองไว้ 6 หมื่นบาท
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้นตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน จากทั้งหมดที่ออกหมายจับ 8 ราย ได้แก่ พ.ต.อ.อำนวย,นายนิวัฒน์ หรือ โจ๊ก,นายภูมิทัศน์ หรือ อุ๋ม, น.ส.กรรณิกา หรือ ดาว และ กำนันสนอง
ขณะที่ทีมฆ่าอีก 3 คนคือ นายชัยยุทธ หรือจบ ,นายภาณุเมศวร์ หรือ จิ๋ว และ นายสามารถ แสงสิน อายุ 50 ปี หลบหนีหมายจับ
จนกระทั่ง 12 เม.ย. 2561 ตำรวจจับนายชัยยุทธ หรือจบ เบ็ญจชาติ ได้หลังสืบทราบหลบหนีอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
ล่าสุด ระหว่าง สภ.กาญจนบุรี ตั้งด่านจุดตรวจสกัดหน้าวัดเทวสังฆาราม ต.บ้านเหนือ อ.เมือง วันที่ 30 ม.ค.2562 ก่อนจะจับนายสามารถ แสงสิน หรือดาบมาด อายุ 52 ปี อดีตตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้หลบหนีคดีนานกว่า 2 ปี
เหลือผู้ต้องหา นายภาณุเมศวร์ หรือ จิ๋ว มีลา อีกเพียงคนเดียวที่ยังคงหลบหนีอยู่ขณะนี้….