ตำรวจสอบสวนกลาง จับกุมเครือข่ายยาเสพติด “บาก้า”ดัดแปลงรถบรรทุก ซุกซ่อนยาไอซ์มูลค่ากว่า 650 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 8 พ.ค.66 ที่ บก.ป. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก.พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.3.ฝบก.ปคม.
ร่วมแถลงผลงานตำรวจสอบสวนกลางร่วมกับตำรวจ กก.ตชด.24 จับ นายเอกรักษ์ หรือแต๊ก อายุ 33 ปี พร้อมสมาชิกรวม 12 ราย เครือข่ายยาเสพติด “บาก้า”ดัดแปลงรถบรรทุก ซุกซ่อนยาไอซ์มูลค่ากว่า 650 ล้านบาท
พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า ขณะที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม.สืบสวนจับกุมขบวนการ ลักลอบนำเเรงงานต่างด้าวเข้ามาประเทศโดยผิดกฎหมายได้รับแจ้งเบาะเเสว่าจะมีการลำเลียงขนยาเสพติดล็อตใหญ่มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าพื้นที่กรุงเทพฯช่วงวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 4–6 พ.ค.2566
กลุ่มคนร้ายจะใช้รถHonda CRV สีขาว ขับนำดูลาดเลาล่วงหน้า ส่วนรถลำเลียงขนส่งยาเสพติดจะใช้รถบรรทุก 6 ล้อ และจะมีรถกระบะเชฟโรเลต ปิดท้ายขบวน จึงสั่งการให้เฝ้าระวังรถยนต์และกลุ่มผู้ต้องสงสัย
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ชุดจับกุมได้พบรถต้องสงสัยทั้ง 3 คัน บนถนนหมายเลข 2 มุ่งหน้าสีคิ้ว ประสานตำรวจทางหลวงสกัดจับรถทั้ง 3 คันไว้ได้ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 3.5 ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สระบุรี
ตรวจสอบพบยาไอซ์น้ำหนัก 650 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในพื้นกระบะรถบรรทุก 6 ล้อ คันสีฟ้า ดัดแปลงตัวรถเพื่อซุกซ่อนยาเสพติด นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุน 15 นัด อยู่ภายในรถHonda นายอนุรัษ์ หรือแต๊ก อายุ 33 ปี หัวหน้าขบวนการ ยอมรับว่าเป็นของตนเอง เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุม พร้อมผู้ร่วมกระทำความผิดที่โดยสารมาในรถยนต์ทั้ง 3 คัน รวม 12 คน
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า สอบสวนผู้ต้องหาบางรายให้การยอมรับว่าเป็นลูกน้องนายแต๊ก ถูกชักชวนให้มาขนยาเสพติด เพราะมีรายได้ดี อีกทั้งยังยอมรับว่าเคยขนยาเสพติดในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000 บาท ส่วนใหญ่จะทำหน้าที่ขนยาเสพติดขึ้นรถบรรทุก โดยนายแด๊ก จะจ่ายค่าจ้างให้หลังจากเสร็จงาน นอกจากนี้ผู้ต้องหาบางรายยังให้การเพิ่มเติมอีกว่า ได้ชักชวนญาติสนิทมาทำงานดังกล่าวด้วย เพราะหวังรายได้จากส่วนแบ่งในการขนยาเสพติด
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวอีกว่า ส่วนนายแต๊กให้การว่าเคยถูกจับกุมคดีพยายามฆ่า และเพิ่งพ้นโทษจำคุกออกมาเมื่อปี 2552 ระหว่างจำคุกอยู่ในเรือนจำได้รู้จักกับเครือข่ายค้ายาเสพติด “บาก้า” หลังจากพ้นโทษออกมาจึงติดต่อไปเพื่อรับทำหน้าที่เป็นหัวหน้าขบวนการขนส่งยาเสพติด พร้อมชักชวนเยาวชนที่อยู่แถวละเเวกบ้านให้มาช่วยขนยาเสพติด ให้ค่าจ้างเป็นจำนวนเงินที่สูง สำหรับการขนส่งยาเสพติดในแต่ละครั้ง จะได้เงินค่าจ้างขนยาเสพติดจำนวนกว่า 300,000 – 350,000 บาท
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย”ขณะที่นายแต๊กเพิ่มข้อหา“มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนฯ ก่อนควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
