ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. สั่งการและเร่งรัดการปฏิบัติ ให้ตำรวจภูธรภาค 3 และทุกหน่วยนำนโยบายการป้องกันปราบปรามยาเสพติดและความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน ไปสู่แผนการปฏิบัติทุกพื้นที่
ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.ฐากูร นัทธีศรี ผบช.ภ.3 และ พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์
รอง ผบช.ภ.3 สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดทุกแห่งระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน สืบสวนหาข่าวปราบปรามยาเสพติดและความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืนในพื้นที่อย่างจริงจังและต่อเนื่อง และให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ สร้างความสงบสุขให้พี่น้องประชาชน
ต่อมา วันที่24เม.ย.67พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.ก้องชาติ เลี้ยงสมทรัพย์ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์พ.ต.ท.วิชาญ กระจ่างโพธิ์ รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว. บุรีรัมย์ /หน.ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.ท.สุวัฒน์ นามมงคล สว.กก.สืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์ / รอง หน.ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
แถลงข่าวจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ตามยุทธการ “พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้”จับกุมนายศักดิ์ อายุ 40 ปี ที่อยู่ จ.บึงกาฬ และ น.ส.หญิง อายุ 30 ปี ชาวลาว แขวงบอลิคำไซพร้อมของกลาง ยาบ้า 461 เม็ด (922,000 เม็ด)
ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ประกอบด้วย รถยนต์ 1 คัน จับกุมได้ในพื้นที่ อ.สตึก ต่อเนื่อง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์
สืบเนื่องมาจากการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ จว.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 2-7 เมษายน 67จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 7 คดี 9 คน ของกลางยาบ้า 112,303 เม็ด,กระสุนปืน 27 นัด ได้นำข้อมูลมาขยายจนจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวได้
จากนั้นนำส่ง สภ.ชุมแสง ดำเนินคดีกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย