Sunday, September 8, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันผบช.ไตรรงค์แจงชัดทุกประเด็นปมค้นบ้าน”รองโจ๊ก”

    ผบช.ไตรรงค์แจงชัดทุกประเด็นปมค้นบ้าน”รองโจ๊ก”

    เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 26 ก.ย.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค.ในฐานะหัวหน้าตำรวจ PCT4 กล่าวภายหลังมีข่าวว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.พร้อมทนาย ยื่นฟ้องต่อศาลอาญา เพื่อเอาผิดตำรวจชุดตรวจค้นบ้านพักย่านวิภาวดี 60 ว่าเป็นการค้นโดยมิชอบ ว่า

    ทุกอย่างเป็นไปตามหลัก กม.
    ยืนยันว่าการตรวจค้นเป็นไปตามหลักกฎหมาย ตั้งแต่การขอหมายค้นและหมายจับจากศาล มีการระบุตัวตนของบุคคลตามหมายจับ รวมถึงอาชีพ ยืนยันไม่ได้มีการปิดบังว่าเป็นตำรวจในการแถลงต่อศาล อีกทั้งกฎหมายก็ไม่ได้กำหนดไว้ว่าจะต้องระบุยศ สามารถใช้คำนำหน้านายได้  มีหลายครั้งที่การออกหมายจับตำรวจบางคดี ต้องให้เกียรติกัน จึงไม่ระบุยศทางราชการ

    เหตุค้นเพราะมีตัวละครสำคัญ

    กรณีดังกล่าวมีเหตุให้เข้าค้นบ้านพัก เพราะพ.ต.ต.ชานนท์ อ่วมทร นายตำรวจติดตาม รอง ผบ.ตร.ผู้ต้องหาที่ออกหมายจับเป็นคนที่เข้าออกภายในบ้านทั้ง 5 หลัง มีชื่อผู้ต้องหาลงทะเบียนรับส่งพัสดุเป็นประจำ มีการชำระค่าสาธารณูปโภคซึ่งเป็นเงินจากบัญชีม้า

    ก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่าพ.ต.ต.ชานนท์ เป็นนายตำรวจติดตามของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และไม่ทราบมาก่อนว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักที่ตรวจค้น เพราะหมู่บ้านดังกล่าวมีการรักษาความปลอดภัยแบบระบบปิด   ไม่ทราบว่ามีใครพักอยู่ในบ้านบ้าง

    PCTกำลังไม่พอขอหน่วยข้างเคียงสนับสนุน

    ส่วนกรณีที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ PCT ได้สืบสวนและออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 23 คน ตรวจค้น 30 จุดนั้น มีกำลังไม่เพียงพอ ต้องขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจที่ทำงานและพร้อมส่งต่อข้อมูลกันได้ โดยเฉพาะบช.น. บช.สอท. และบช.ก. ที่มีตำรวจ ปปป. เข้าร่วมด้วย เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

    ประเมินความเสี่ยงติดอาวุธครบมือ

    ส่วนการที่ใช้กำลังตำรวจพร้อมอาวุธครบมือเข้าปฏิบัติงาน เป็นผลจากการประเมินความเสี่ยง เพราะผู้ต้องหาบางคนมีประวัติคดีอาชญากรรมคดียาเสพติด  ส่วนหนึ่งเป็นตำรวจ จึงเชื่อว่ามีอาวุธไว้ป้องกันตัว ชุดจับกุมจึงต้องเตรียมพร้อมในการปฏิบัติการ ไม่ได้มีนัยยะอื่นแอบแฝง

    8ตำรวจยังให้การปฏิเสธ

    ส่วนตำรวจทั้ง 8 นายที่ถูกจับ จะให้ออกจากราชการไว้ก่อนหรือไม่  ขอให้เป็นการพิจารณาของผู้บังคับบัญชา ซึ่งต้นสังกัดของตำรวจแต่ละนายทราบเรื่องแล้ว และอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร ตำรวจทั้ง 8 นายยังคงให้การปฏิเสธ และไม่ขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวน

    ขยายผล2บช.ม้าเงินหมุนเวียน260ล.

    ส่วนการขยายผลของผู้ต้องหาในเครือข่ายนี้ เตรียมพิจารณาดำเนินคดีและออกหมายเรียกมาให้ข้อมูลในพยานกับผู้เกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มผู้รับผลประโยชน์และกลุ่มที่มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับบัญชีม้า 2 บัญชี เงินหมุนเวียน 260 ล้านบาท

    ใครรู้ตัวพันให้มาแสดงตัว

    ยืนยันตามข่าวที่ออกมาว่าในกลุ่มองค์กรสื่อมวลชนและบุคคลร่วมอยู่ในกลุ่มรับผลประโยชน์ด้วย แต่ยังไม่ขอเปิดเผยจำนวน ดังนั้นขอประชาสัมพันธ์ไปยังบุคคลที่รู้ว่าตนเองมีธุรกรรมการเงินเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าเหล่านี้ ให้มาแสดงตัวเข้าให้ปากคำกับตำรวจ

    จ่อสอบ”เฮียแต๋ม”เจ้าของบ้าน5หลัง

    พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า  กรณี “เฮียแต๋ม”และภรรยา นักธุรกิจขนส่งรายใหญ่ในจ.อุดรธานี ที่มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านที่เข้าตรวจค้นทั้ง 5 หลัง และเป็นผู้จ่ายค่าส่วนกลางปีที่ผ่านมา เป็นเงิน 142,000 บาท และเป็นผู้ขอใช้ไฟฟ้าให้กับบ้านทั้ง 5 หลัง หลังพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยอมรับว่าเช่าบ้านเฮียแต๋มเดือนละ 50,000 บาทอ้างว่าเป็นญาติกัน

    ประเด็นนี้เพิ่งทราบเรื่องจากสื่อมวลชนแต่เมื่อวานนี้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นบ้านญาติ ไม่ได้มีการเช่า หลังจากนี้ก็จะต้องตรวจสอบว่าเฮียแต๋มมีความสัมพันธ์เครือญาติด้านไหนของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หากมีการเช่าจริงก็ต้องมีสัญญาตามกฎหมาย โดยจะต้องเรียกเฮียแต๋มมาให้ปากคำเร็วๆ นี้

    ยังอุบเส้นเงินเชื่อมบิ๊กตร.

    ส่วนเส้นทางการเงินจะเชื่อมโยงไปถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หรือไม่นั้น ยังไม่ขอเปิดเผย เพราะอยู่ในสำนวน แต่ยืนยันว่าการที่ผู้ใต้บังคับบัญชากระทำผิด ไม่ได้เป็นเหตุให้ต้องออกหมายเรียกผู้บังคับบัญชาของบุคคลนั้นมาสอบปากคำ แต่จะต้องมีพยานหลักฐานส่วนอื่น

    สำหรับแนวทางการสืบสวน ผู้ต้องหา 4 กลุ่มที่จับกุมได้นั้น ในกลุ่มผู้บริหารจัดการเว็บไซต์นั้น ประกอบด้วยตำรวจ 1 คน และพลเรือน 2 คน ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน ที่เป็นทหารนั้น เป็นพลทหารประจำการเกี่ยวข้องในส่วนของกลุ่มฟอกเงินและบัญชีม้า

    ยึดทรัพย์สินของกลาง143ล.

    ขณะที่ภาพรวมการยึดทรัพย์สินของกลางยึดได้ อาทิ รถยนต์หรู เครื่องเพชร ทองคำ พระเครื่อง รวมมูลค่ากว่า 143 ล้านแล้ว ยืนยันว่า คดีนี้ไม่ได้ทำตามกระแส หรือเป็นผลจากการเมือง แต่สืบสวนมาตั้งแต่เดือนพ.ค.จนถึงปัจจุบัน พบพยานหลักฐานสำคัญ จนสามารถขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้ถึง 23 หมายจับ จึงต้องรีบดำเนินการ

    มิฉะนั้นหากปล่อยไว้ผู้ต้องหาอาจเคลื่อนย้ายทรัพย์สินหรือหลักฐานสำคัญจนเสียรูปคดี โดยเฉพาะกลุ่มบัญชีม้าและกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ที่ตามกฎหมายต้องยึดอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ หากพบว่าเป็นทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิด ทรัพย์ดังกล่าวก็ต้องตกเป็นของแผ่นดิน

    อยากขอความเป็นธรรมให้กับชุดจับกุม ไม่ได้ทำงานเพื่อกลั่นแกล้งใคร

    พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวปิดท้าย

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments