Friday, November 22, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันผบ.ตร.สั่งเชือด3ตำรวจเซ่นคลิปฉาวรถนำขบวนสาวจีน

    ผบ.ตร.สั่งเชือด3ตำรวจเซ่นคลิปฉาวรถนำขบวนสาวจีน

    ผบ.ตร.สั่งเชือดตำรวจท่องเที่ยว จราจรกลางนำขบวนนักท่องเที่ยวจีน  ตรวจสอบทุกประเด็น ทุกมิติ ให้กระจ่าง กำชับตำรวจทั่วประเทศไม่ให้เกิดขึ้นอีก  ฝ่าฝืนฟันวินัยทันที

    วันที่ 21 มกราคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง ความคืบหน้า กรณี คลิปตำรวจไทยขับรถนำขบวนนักท่องเที่ยวจีน ว่า

    “ หลังจาก  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งการด่วนให้จเรตำรวจตรวจสอบ เบื้องต้นมีการพิสูจน์ทราบแล้วว่า บุคคลที่ปรากฎในคลิปเป็นตำรวจจริง 3 นายเป็นตำรวจท่องเที่ยว 1 ราย คือ ร.ต.อ. สมพล ภิญโญสโมสร   รองสารวัตร กองกำกับการ 3 (รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิ) สังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 และ ตำรวจ บก.จร.2 นาย คือ ส.ต.อ.ธนกร นุกูลธนกิจ และ ส.ต.อ.ธนวัฒน์ สิมะขจรบุญ

    ในส่วนของตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต. ม.ล. สันธิกร วรวรรณ ผู้บังคับกองบังคับการท่องเที่ยว 1  สั่งการให้ผู้กำกับการ 3 ต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามสั่งการแล้วตามหนังสือ บก.ทท.1 เลขที่ 0038.201/255 ลง 21 ม.ค.2566

    สำหรับ ตำรวจ บก.จร. ทั้ง 2 นาย  กองบัญชาการตำรวจนครบาล  ออกคำสั่งตั้งสืบสวนข้อเท็จจริง พร้อม  ออกคำสั่งให้มาปฏิบัติหน้าที่ ศปก.บก.จร. และสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ผกก. , รอง ผกก. และ สว. ที่ควบคุมกำกับตำรวจ2 รายนี้ด้วย

    โฆษก ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า

    “ ผบ.ตร.ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก สั่งการให้ตรวจสอบทุกประเด็น ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น ใครสั่งการ ประสานงาน มีอำนาจหน้าที่แค่ไหนอย่างไร พร้อมประเด็นรถที่ใช้ในการนำขบวน มีการนำรถหลวง รถทางราชการ มาใช้ส่วนตัวหรือไม่

    ตรวจสอบรถยนต์ที่ปรากฎในคลิปทุกคันที่เกี่ยวข้อง และให้ตรวจสอบย้อนหลังไปว่าเคยมีพฤติกรรมแบบนี้ ทำเป็นขบวนการหรือไม่ ต้องตรวจสอบทุกข้อสงสัยของสังคม ให้เกิดความกระจ่างโดยเร็วที่สุด

    นอกจากนี้ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้จเรดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด และสั่งการกำชับให้ข้าราชการตำรวจทุกนายทุกสังกัดห้ามปฏิบัติไปในลักษณะดังกล่าวอีก มิเช่นนั้นจะต้องถูกดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาดทุกราย”


    ในขณะเดียวกัน พล.ต.ท. สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) มอบหมาย  พล.ต.ต. อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการฯ ชี้แจงต่อสื่อมวลชนกรณีมีคลิปเผยแพร่ในลักษณะที่มีตำรวจจำนวนหนึ่งรวมตัวกันอำนวยความดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติในสนามบินและใช้ยานพาหนะตำรวจนำทางไปจนถึงโรงแรมที่พักนั้น

    พล.ต.ต. อภิชาติฯ ชี้แจงว่า หลังจากที่เห็นคลิปดังกล่าว ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้สั่งการให้ตรวจสอบทันทีขอเรียนต่อสื่อมวลชนดังนี้

    1.ทางกองบัญชาการฯ ยอมรับว่า มีข้าราชการตำรวจสังกัดตำรวจท่องเที่ยวจำนวน 1 ราย ปรากฏอยู่ในคลิปดังกล่าว  ทราบภายหลังว่าเป็น ร.ต.อ. สมพล ภิญโญสโมสร   รองสารวัตร กองกำกับการ 3 (รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิ) สังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 

    2. เหตุการณ์ในคลิป เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 19 ม.ค.2566 เวลาประมาณ 22:00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ HX671 เดินทางเข้าไทยพอดี  ตรวจสอบในวันดังกล่าวแล้ว ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวไม่มีได้มีการสั่งการใดๆ ให้ตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวรายใดเป็นกรณีพิเศษ

    3. นักท่องเที่ยวที่ปรากฏในคลิปนั้น ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวทราบชื่อแล้ว (แต่ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม) ซี่งนักท่องเที่ยวรายนี้เดินทางมาเที่ยวไทยพร้อมกับมารดา

    4. ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้สั่งการแล้วให้กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ต้นสังกัดของ ร.ต.อ.สมพลฯ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วนแล้วรีบรายงานให้ทราบ เพื่อที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจะได้สนับสนุนข้อมูลให้จเรตำรวจแห่งชาติที่อาจตั้งคณะทำงานตรวจสอบ และจะได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบ

    พร้อมทั้งกำชับให้กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ต้นสังกัด ร.ต.อ.สมพลฯ ให้ความร่วมมือต่อหน่วยงานผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานอื่นๆ ที่พร้อมตรวจสอบอย่างเต็มที่

    พล.ต.ต. ม.ล. สันธิกร วรวรรณ ผู้บังคับกองบังคับการท่องเที่ยว 1 ได้สั่งการให้ผู้กำกับการ 3 ต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามสั่งการแล้วตามหนังสือ บก.ทท.1 เลขที่ 0038.201/255 ลง 21 ม.ค.2566

    5. ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวสั่งกำชับให้ตรวจสอบจนเกิดความกระจ่างชัดด้วยว่า ตำรวจกลุ่มนี้ทำกันเป็นกระบวนการและใช้อำนาจหน้าที่ประพฤติปฏิบัติอย่างนี้มาหลายครั้งแล้วหรือไม่ โดยหากพบหลักฐานหรือข้อมูลอันเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำเช่นนั้น จะได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงและพิจารณาโทษอย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป เพราะถือว่า เป็นพฤติกรรมที่สร้างความเสื่อมเสียต่อกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและสำนักงานตำรวจแห่งชาติในภาพรวมเป็นอย่างยิ่ง

    6. โฆษกกองบัญชาการตำรวจตำรวจท่องเที่ยวกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า จากคลิปที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อออกมาครั้งนี้ ขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนงและประชาชนที่ร่วมกันตรวจสอบและนำเสนอพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจที่ไม่เหมาะสมอันนำไปสู่การตรวจสอบและการพิจารณาลงโทษข้าราชการตำรวจที่มีพฤติกรรมดังกล่าว

    เท่ากับว่า เป็นการทำให้การท่องเที่ยวของไทยโปร่งใส ตรวจสอบได้ และการอำนวยความสะดวกรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวนั้น จะต้องไม่ทำเฉพาะเจาะจงเพียงแค่นักท่องเที่ยวรายหนึ่งรายใดเท่านั้น แต่ต้องทำและดำเนินการให้เกิดความเท่าเทียมต่อนักท่องเที่ยวทั้งหมดทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

    7. โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวกล่าวอีกด้วยว่า ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่และแข็งขัน จนสามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวรอดพ้นจากอันตราย และหาทรัพย์สินสิ่งของสำคัญของนักท่องเที่ยวที่สูญหายหรือลืมไว้ในสถานที่หนึ่งที่ใดกลับคืนสู่นักท่องเที่ยวได้เกือบทุกกรณีและทุกสถานการณ์ ซึ่งทำให้ลำดับประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยและสรรสร้างบรรยากาศความมั่นคงในรายงานการประชุมเศรษฐกิจโลกปี 2023 สูงขึ้นมาก

    อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ขอน้อมรับนำข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นไปปรับปรุงแก้ไข ลงโทษผู้ที่กระทำการไม่เหมาะสม และหามาตรการที่มีประสิทธิภาพป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีกต่อไป รวมทั้งจะพิจารณาคัดเลือกสรรบุคลากรที่มีคุณภาพมาปฏิบัติหน้าที่ในจุดที่อ่อนไหวต่อภาพลักษณ์ประเทศต่อไปด้วย

    8. ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวนี้ หากมีความคืบหน้าเป็นประการใด ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจะได้เรียนแจ้งสื่อมวลชนให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments