เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 20 มิ.ย.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีเเจ้าหน้าที่ตำรวจรีดงิน 140 ล้านบาท และมีการพาดพิงถึงการชิงเก้าอี้ผบ.ตร.คนใหม่ ว่า
กำชับโจ๊ก”ทำคดีตรงไปตรงมา
เรื่องนี้ไม่ทราบรายละเอียด ส่วนคดีของบก.ภ.จว.ชลบุรีจะต้องทำตรงไปตรงมา กำชับทางพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ไปแล้วว่าคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจที่เข้าข่ายเรื่องผิดในตำแหน่งหน้าที่ ต้องทำอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใสที่สุด เมื่อมีความคืบหน้าในแต่ละขั้นตอนให้สัมภาษณ์หรือชี้แจงประชาชนได้เลย
รอรายงานปมตัวละครใหญ่กว่าผู้การ
กรณีบุคคลที่เกี่ยวข้องมีถึงระดับ ผบก.และยังมีการกล่าวหาไปยังตัวละครที่ใหญ่กว่าผบก.ตนยังไม่ได้ยินจากทางพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะต้องฟังจากผู้ที่กำกับดูแลก่อน คงจะมีการรายงานมาเป็นระยะๆ
ทางพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่ามีหลักฐานค่อนข้างเยอะแต่ในส่วนที่จะเกี่ยวข้องในเรื่องของตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ.2566 หรือ “พ.ร.บ. อุ้มหาย” จะต้องทำให้ถูกขั้นตอน แต่ในเบื้องต้นเห็นว่าการกระทำของตำรวจอาจจะผิดขั้นตอนไปหลายขั้นตอน จะเข้าข่ายผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.ดังกล่าวนี้ด้วยทั้งนี้จะต้องดูในภาพรวมอีกครั้ง บช.ภ.1 มีพล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 เป็นหัวหน้า คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน จะต้องรอความชัดเจนของทุกฝ่ายก่อน
ความชัดเจนมาเรื่อยๆ
ส่วนการสอบสวนขยายผลยังพบตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มเติ่มอีก 2-3 นาย ประเด็นนี้ มีรายงานมาเบื้องต้น ส่วนใครจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องเร็วๆ นี้คงจะมีความชัดเจนมาเรื่อยๆ ส่วนพลเรือนที่เกี่ยวข้องได้ออกหมายจับไปเรียบร้อย คงเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม หากจะมามอบตัวก็เข้ามา หากไม่มามอบตัว จะพยายามประสานงานเอาตัวมา ตามที่มีกระแสข่าวระบุว่าพลเรือนมีอำนาจมากกว่าผบก.ประเด็นนี้ ขอให้คนที่รู้เรื่องเป็นผู้ชี้แจงดีกว่า รอรับรายงานในภาพรวมเรื่องนี้
บางเรื่องปัญหาสะสมมานาน
ถามว่าจะดูแลกวาดบ้านอย่างไรในเมื่อในพื้นที่จ.ชลบุรีมีเรื่องอยู่บ่อยครั้ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ทุกเรื่องอาจจะมีปัญหาสะสมมานานในโลกยุคโซเชียลบางทีโผล่ขึ้นมา เราจะรีบแก้ไขโดยเร็ว อะไรที่เป็นปัญหาสะสม อะไรที่แก้ให้มันดีขึ้นก็จะรีบแก้ ทุกอย่างจะทำงานแบบตรงไปตรงมา
ผบช.ภ.2จัดคนมารรท.ผู้การชลฯ
ถามอีกว่า กรณีรักษาราชการแทนผบก.ภ.จว.ชลบุรี โดนแจ้งความดำเนินคดี แต่กลับมารักษาการ อาจจะไม่เหมาะสมหรือไม่ กรณีนี้การที่จะส่งใครไปรักษาการ จะต้องหารือกับผบช.ภ.2 ด้วย ท่านก็มองว่าคนนี้เหมาะสมที่จะไปรักษาการ และเป็นคดีเก่าที่มีการกล่าวหาในคดีเดิม ได้มีการตั้งเป็นชุดคณะทำงานของบช.ภ. 2 แล้ว ไม่ได้มีส่วนที่จะทำให้จะเสียความเป็นธรรมไปได้ จึงยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ขอรอพิจารณาการทำงานสักระยะก่อน หากเห็นว่าทำงานแล้วเกิดความไม่เรียบร้อย ก็อาจจะมีการเปลี่ยนตัว
ถ้าไม่ดีก็เปลี่ยนตัว
ถามอีกว่ามลทินอาจจะถึงผบ.ตร.ได้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า อย่าไปคิดอย่างนั้นเลย เพราะตนไม่ได้เน้นว่าใครเป็นใคร ถ้าเขารับประกันมาว่าดีก็ลองดู ถ้าไม่ดีเราก็เปลี่ยนตัว ไม่เห็นยาก
สำหรับกรณีการทบทวนการแต่งตั้งชุดเฉพาะกิจในพื้นที่ต่างๆ วันนี้ในการประชุมบริหารตร.ครั้งที่ 6/2566 จะมีการกำชับเรื่องการปฏิบัติตามระเบียบ ข้อกฎหมาย ในทุกๆ เรื่อง ส่วนคำว่าชุดเฉพาะกิจต่างๆ ไม่ได้เป็นคำสั่งในคณะทำงาน อาจจะเป็นการกระทำ เขาเรียกว่าพฤตินัย ไม่ใช่เป็นนิตินัย เพราะว่าคำสั่งในการแต่งตั้งศูนย์ต่างๆเป็นการแต่งตั้งโดยหัวหน้าศูนย์ ที่เราให้ความสำคัญ
อย่างเช่นหัวหน้าศูนย์ยาเสพติด เนื่องจากตนให้ความสำคัญเรื่องยาเสพติด เรื่องการปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ ตนก็บอกว่าตนจะประชุมเอง ถ้าเป็นไปได้อยากให้ผู้บัญชาการ ผู้บังคับการลงมาควบคุม แต่เน้นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ปัญหายาเสพติด ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ แต่ที่มีชุดไปจับกุมลักษณะการพนันออนไลน์อาจจะเพี้ยนไป ตนจะมีการย้ำเตือนในการประชุมในวันนี้อีกครั้ง
โยนถามคนคิด-ศึกชิงผบ.ตร.
เมื่อถามว่าข่าวที่ปรากฎมีลักษณะการแย่งชิงเก้าอี้ผบ.ตร.คนใหม่หรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ต้องไปถามคนที่มีความคิดนี้ ยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ ยังไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น ต้องไปถามคนที่มีความคิด ตนยังไม่มีความคิดอย่างนั้น ไปดูตามข้อเท็จจริงตามคดีต่างๆ เนื่องจากเรื่องนี้มีการร้องเรียนและมีการไปแจ้งความที่สภ.คูคต จ.ปทุมธานี นำไปสู่การตรวจสอบ ไม่ได้มีกระบวนการที่จะต้องไปแซะอะไร อาจจะเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ก็ว่ากันไป
ย้ำทุกคนอยู่ภายใต้กรอบของกม.
ถามอีกว่าการที่ผู้ต้องหามาแจ้งจับตำรวจ ทำไมถึงมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นได้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า มีโอกาสเกิดขึ้นได้หมดทุกคนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ผู้กระทำผิดเมื่อถูกรีดหรือถูกอะไรก็สามารถมาเป็นผู้กล่าวหาได้