ผู้การชลบุรี เผยมีคนชี้เป้า บุกบ้านหรูงัดตู้เซฟชาวจีนมูลค่าร้อยล้าน พบคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ส่วนทรัพย์สินถึงร้อยล้านหรือไม่ อยู่ระหว่างประสานชาวจีนเจ้าของ
กรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกเข้าไปงัดตู้เซฟนิรภัยลักขโมยทรัพย์สินมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ของนักธุรกิจชาวจีนในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.11 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 68 หลังเกิดเหตุตำรวจระดมกำลังตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พร้อมเร่งสืบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด บ่ายวันที่17ม.ค.68 ที่ ห้อง ศปก.สภ.ห้วยใหญ่ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี นั่งหัวโต๊ะประชุมเร่งรัดคลี่คลายคดี มี พ.ต.อ.ภาสกร ไพจิตต์ ผกก. สส.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.ท.พรพรหม ม่วงบังยุง รอง ผกก.สส.สภ. ห้วยใหญ่ พ.ต.ท.กวิณวัชร์ อารยะสุริวงศ์ รอง ผกก.ตม.ชลบุรี พร้อมชุดสืบสวน สภ.ห้วยใหญ่, สืบจังหวัดชลบุรี, สืบภาค2, ตำรวจท่องเที่ยว, ตรวจคนเข้าเมืองชลบุรี, และศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 เขตชลบุรี, ประชุมติดตามความคืบหน้า เพื่อเร่งคลี่คลายคดีดังกล่าว
พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นสำหรับทรัพย์สินที่สูญหายไปกว่า 100 ล้านบาท ตอนนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าภายในตู้เซฟมีทรัพย์สินอะไรบ้าง เนื่องจากเป็นของเจ้าของบ้านชาวจีน ซึ่งเดินทางกลับประเทศไปเมื่อหลายปีก่อน
ผู้แจ้งคนจีนมีศักดิ์เป็นญาติหรือคนในครอบครัวเจ้าของบ้าน และมาพักอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวได้ประมาณ 4 เดือน ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าทรัพย์สินภายในตู้เซฟมีอะไร อยู่ระหว่างประสานและตรวจสอบในประเด็นนี้อยู่
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบกล่องไม้เก็บนาฬิกา ที่หาซื้อได้ตามตลาดนัดและร้านค้าออนไลน์ ทำให้ไม่สามารถระบุว่าได้ นาฬิกาหรูที่หายนั้นเป็นยี่ห้ออะไร แนวทางการสืบสวน พบว่าวันนี้มีความชัดเจนขึ้น มีกลุ่มคนร้ายอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 คน เข้าไปก่อเหตุ อยู่ในระหว่างพิสูจน์ทราบคนร้าย เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีข้อมูลและรู้ความเคลื่อนไหวภายในบ้าน และเจาะจงเข้ามาลงมือที่บ้านหลังเกิดเหตุเลย
คาดว่าต้องมีคนในแจ้งเบาะแส อาศัยจังหวะคนดูแลบ้านไปเที่ยวกับครอบครัว ประเด็นตรงนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบหาความเชื่อมโยง หลังจากการประชุมได้มีการแบ่งหน้าที่กันทำงาน และเชื่อว่าจะมีความชัดเจนในคดีนี้อีกในไม่ช้า
ขณะที่ นายเฉา หยู่เชา อายุ 44 ปี คนจีน ทำหน้าที่เฝ้าบ้านพักหลังเกิดเหตุ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ เพื่อให้สอบสวนอีกครั้ง หลังจากพบพิรุธและพยานหลักฐานขัดแย้งหลายอย่าง เจ้าตัวเดินทางมาพร้อมครอบครัว ซึ่งทีมข่าวพยายามเข้าไปสอบถามข้อมูล เจ้าตัวได้แต่หลบหน้านักข่าวไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ ก่อนจะพาครอบครัวขับรถยนต์ออกจากโรงพักในทันที
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้ภาพกล้องวงจรปิด ใบ้านนพักหลังเกิดเหตุพบว่าคนร้ายมาด้วยกัน2 คน สวมชุดปิดคลุมมิดชิด ใส่โม่งปิดบังใบหน้า ใช้เครื่องงัดประตูห้องเข้ามาแล้ว ใช้ไฟฉายส่องหาทรัพย์ ก่อนลงมือรื้อค้น เมื่อหนึ่งในคนร้ายเห็นกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ ได้รีบเดินตรงเข้ามาหันกล้องส่องเข้าผนังของห้องชุดสืบสวนอยู่ระหว่างแกะรอยคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมาย.
