พ.ต.อ.นพรัตน์ สินมา
ห้อย “หลวงปู่ภู-ปู่ทวด-พระคง”
ใส่เพื่อเตือนสติ-ตั้งใจทำงาน
วันนี้ มาลัดเลาะที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) ย่านพญาไท เพื่อพูดคุยคอลัมน์ “คุณพระคุ้มครอง ของขลังคุ้มภัย” โดยนัดหมายล่วงหน้ากับ “ผู้กำกับแดง” พ.ต.อ.นพรัตน์ สินมา ผกก.4 บก.สส.บช.น. หน่วยงานสำคัญของนครบาลในการกำกับดูแลงานสถานการณ์ข่าวและการชุมนุม โดยที่ผ่านมาไม่ว่าจะเกิดการชุมนุมทางการเมือง เรียกร้อง ประท้วงเรื่องใด กองกำกับการนี้จะเข้าไปเฝ้าดูหารายละเอียด สังเกตการณ์เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาระดับสูงเพื่อสั่งการและเตรียมพร้อมรับมืออย่างต่อเนื่อง
ภายในห้องทำงาน “ผู้กำกับแดง”ยิ้มตามสไตล์หลังจากนัดหมายมานานกว่า 2 สัปดาห์ถึงมีโอกาสได้พูดคุยกัน หลังจากทักทายกันพอเป็นพิธีก็ให้ “พี่แดง”ของน้องๆ เล่าถึงพระที่สวมใส่ห้อยคออยู่ โดยพี่แดงโชว์สร้อยพระเส้นใหญ่ออกจากเสื้อ พร้อมเล่าว่า….
“พี่มีหลายองค์ แต่ที่ใช้ประจำคือเส้นนี้ มีหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร 8 ชั้น แขนหักศอก พระคงลำพูน และหลวงปู่ทวดพิมพ์พระรอด ปี 2497 ซึ่งทั้ง 3 องค์ ผู้มีพระคุณและพรรคพวกให้มา ซึ่งใช้เป็นประจำ อาจไม่ได้มีปาฏิหาริย์อะไรมากมาย แต่รู้สึกว่าเวลาทำงานต้องสวมใส่พระเพื่อความมั่นใจ และเตือนใจไม่ให้ประมาทในการทำงาน”
“นอกจากพระเครื่อง 3 องค์นี้ที่ห้อยประจำ ก็ยังมีที่เช่าและมีผู้ใหญ่ ซึ่งมีพระคุณให้มาอีกหลายองค์ ทั้ง หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค รุ่นสร้างมณฑป หลวงพ่อโสธร 80 ปี กรมตำรวจเนื้อทองคำ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง รุ่นแรก พระชินราช อินโดจีน ปี 2485 หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี รุ่น 3 ไตรมาส และอีกหลายองค์ ที่เก็บไว้ อาจไม่ได้เก็บสายไหนเป็นพิเศษ แต่ถ้ารู้สึกชอบก็จะหามาเก็บไว้กับตัว” ผกก.สส.บก.น.4 กล่าว
เมื่อถามถึงงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบ “ผู้กำกับแดง” เล่าว่า “กก.4 บก.สส.บช.น. ดูแลพื้นที่ บก.น.3 และบก.น.7 รวมถึงดูการข่าวและสถานการณ์การชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพฯทั้งหมด ไม่ว่าจะกลุ่มการเมืองใด การประท้วง การร้องเรียน หรือเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชา มาใช้ประกอบในการวางแผน วางกำลังรับมือ ไม่ให้เกิดเหตุร้ายบานปลาย โดยจะเน้นเรื่องการหาข่าวเป็นหลัก แต่หากมีการชุมนุมก็ต้องใช้กำลังของกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) เพราะกำลังของกองกำกับไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม ทาง พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. ก็จะคอยสั่งการให้กองกำกับการอื่นๆ ไปช่วยงาน หากมีเหตุใหญ่และกำลังไม่เพียงพอ เพราะมีชั้นประทวนเพียง 22 คน ในจำนวนนี้มีชุดปฏิบัติประมาณ 10 กว่าคนเท่านั้น ถือว่าน้อยมาก แต่เราก็ทำงานได้ดีมาตลอด”
ถามถึงผลงานการทำงานที่ประทับใจที่ผ่านมา “ผู้กำกับแดง”บอกว่า “นอกจากเรื่องสถานการณ์การข่าวที่ทำมาตลอด คงต้องย้อนไปสมัยเป็น รอง สว.งานสืบสวน กก.สายตรวจ บก.สปพ. โดยช่วงนั้นทำงานอยู่ 3-4 ปี สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้กว่า 14-15 ล้านเม็ด เรียกว่าจับแต่ละคดีล้วนเป็นคดีใหญ่
ช่วงนั้นขึ้นศาลเป็นว่าเล่นเลยทีเดียว (หัวเราะ) ซึ่งตอนนั้นงานสืบสวนขึ้นตรงกับ บก.โดยตรง มีสารวัตรเป็นหัวหน้าชุด ตอนเป็นรองสารวัตร มีสารวัตรหลายคนที่เก่งๆ ทั้ง พี่หยี (พ.ต.อ.สุพัชร พึ่งพวง) พี่แบน (พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ) พี่สงค์ (พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี) เปลี่ยนสารวัตรทุกปี แต่ก็ได้ทำงานที่นั่นหลายปีเลย”
“อีกคดีที่พอใจในผลงานคือ สมัยอยู่ บก.น.4 ไปตามจับกุมคนร้ายฆ่าเจ้าของร้านจิวเวอรีและเสื้อผ้าในห้างดังแห่งหนึ่ง ไปฆ่าข่มขืนและชิงทรัพย์ ที่ จ.ลพบุรี โดยคนร้ายจี้ผู้หญิงจากลานจอดรถในห้างโดยไม่รู้จักเหยื่อมาก่อน เอาไปปลดทรัพย์ ข่มขืน ก่อนยิงทิ้ง คดีนี้ทาง พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น สมัยเป็น รอง ผบช.น. มาคุมคดีสืบสวนด้วยตนเอง ก่อนจับกุมคนร้ายได้ทั้งคู่ที่ย่านบึงกุ่ม ถือว่าคนร้ายโหดมาก และรับสารภาพว่าก่อเหตุแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง”ผกก.4 บก.สส.บช.น. เล่าถึงคดีดังในอดีต
ผู้กำกับแดง ยังฝากถึงตำรวจรุ่นใหม่ด้วยว่า “เมื่อมาทำงานในหน้าที่ขอให้อดทน และทำงานหนักเพื่อประชาชน ให้สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ดี”
สำหรับ “ผู้กำกับแดง” เคยดำรงตำแหน่ง สวป.สน.ประชาชื่น ไปอยู่ภาค 3 เป็น สวป.สภ.ปรือใหญ่ จ.ศรีสะเกษ กลับนครบาลเป็น สว.กก.สส.บก.น.4 โยกไป สว.กก.สส.บก.น.3 ก่อนขึ้น รอง ผกก.ประจำ สนง. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ สมัยเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. ก่อนโยกเป็น รอง ผกก.4 บก.สส.บช.น. ได้ขึ้น ผกก.สน.บางยี่เรือ และเป็น ผกก.4 บก.สส.บช.น. ซึ่งถือว่าประสบการณ์การทำงานคลุกคลีในนครบาลแทบทั้งชีวิตเลยทีเดียว..!!