วันที่26ก.ย.65 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายสั่งการ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผบก.รฟ. ลงพื้นที่เป็นตัวแทนตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญตำรวจในสังกัดสอบสวนกลาง มอบถุงยังชีพตลอดจนกำชับนโยบายในการปฎิบัติงาน
ช่วงเช้า พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ และคณะได้ลงพื้นที่จ.พะเยา ก่อนเดินทางไปยังส.ทล.5 กก.5 บก.ทล ( พะเยา ) เพื่อตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญมอบถุงยังชีพ33ชุด ตลอดจนกำชับนโยบายในการปฎิบัติงาน นอกจากนี้ได้เยี่ยมชมโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ภายในสถานี
จากนั้นได้เดินทางไปยังสถานีรถไฟศิลาอาสน์ ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญมอบถุงยังชีพ 30 ชุด ตลอดจนกำชับนโยบายในการปฎิบัติงาน พร้อมพูดคุยกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเป็นกันเอง
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า นโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เห็นความสำคัญของขวัญและกำลังใจของข้าราชการตำรวจ ได้ลงพื้นที่มาตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ การเดินทางครั้งนี้ ไม่ได้มาในฐานะที่เป็นผู้ช่วยผบ.ตร. ดูแลตำรวจนครบาลและตำรวจสอบสวนกลางแต่เพียงเท่านั้น
แต่มาในฐานะที่เคยเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาที่เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทำให้มีความผูกพันกับตำรวจสอบสวนกลางเป็นอย่างดี เพราะตลอดระยะเวลาที่รับราชการตำรวจมา 25 ปี เป็นตำรวจในสังกัดสอบสวนกลางมานานถึง 24 ปี
ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาระดับนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะจัดหาอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ และสิ่งจำเป็นให้กับข้าราชการตำรวจผู้ปฎิบัติงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการปฎิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาขน นอกจากนี้
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ ยังฝากถึงข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจทางหลวงและตำรวจรถไฟให้ตั้งใจปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ พร้อมกำชับผู้บังคับบัญชาสอดส่องพฤติกรรมผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส หากพบว่ามีตำรวจทางหลวงรายใดประพฤติตัวไม่เหมาะสม หรือส่อไปในทางทุจริต ผู้บังคับบัญชาต้องร่วมรับผิดชอบด้วย
นอกจากนี้พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ ยังได่กล่าวถึงตำรวจรถไฟว่า มีความผูกพันกับตำรวจรถไฟมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ เพราะคุณพ่อเป็นพนักงานรักษารถ การรถไฟแห่งประเทศไทย มีโอกาสได้ติดตามคุณพ่อไปทำงาน โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟสายเหนือ จะมีความผูกพันมากที่สุดเนื่องจากได้เห็นตำรวจรถไฟคอยดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยบนขบวนรถ
แต่เมื่อตำรวจรถไฟจะถูกยุบ รู้สึกใจหาย แต่ขอยืนยันว่าผู้บังคับบัญชาจะไม่ทอดทิ้งกำลังพล โดยจะให้ตำรวจสอบสวนกลางเป็นคนเกลี่ยกำลังไปยังกองบังคับการอื่นๆในสังกัดตำรวจสอบสวนกลาง หรือหน่วยอื่นตามความเหมาะสมต่อไป