กรณีเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 13.00 น. มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านค้าทองภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส นครราชสีมา ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำ จำนวน 51 เส้น น้ำหนักรวม 153 บาท คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 4.6 ล้านบาท หลังเกิดเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 พล.ต.ท.ภาณุ บุรณศิริ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร.ปฏิบัติราชการ ภ.3 พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3สั่งการให้เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
จากการสืบสวนนำโดย พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รอง ผบก.ฯ ปรก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง ผบก.สส.ภ.3 พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา พ.ต.อ.ถิรเดช จันทร์ลาด ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.สุกาญจน์ นิลอ่อน ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.3 พ.ต.ท.วิชานนท์ บ่อพิมาย รอง ผกก.สส.สภ.เทพารักษ์ จว.นครราชสีมา
บูรณาการกำลังร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุชื่อนายกิตติพงษ์ อายุ 28 ปี ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลจังหวัดนครราชสีมาออกหมายจับ ต่อมาวันที่ 15 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 03.00 น. ชุดสืบสวนจับกุม นายกิตติพงษ์ ได้ที่โรงแรม Tevan Jomtien Hotel ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี
แจ้งข้อกล่าวหาว่า ชิงทรัพย์โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธ และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม นายกิตติพงษ์ฯรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ตรวจยึดของกลางได้ดังนี้ 1.สร้อยคอทองคำ 28 เส้น น้ำหนักรวม 84 บาท (ฝังดินไว้หลังบ้านภรรยา) 2.เงินสด 110,000 บาท (ยึดจากผู้ต้องหา)3.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สี ขาว-ดำ-ส้ม ทะเบียน งมจ 504 นครราชสีมา (ที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ) 4.อาวุธปืนปลอม(ใช้ในการก่อเหตุ)
5.เสื้อผ้า หมวกคลุมหัวสีดำ กระเป๋าสะพาย 2 ใบ ที่ใช้ในวันก่อเหตุ 6.ป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ (พบระหว่างเส้นทางหลบหนี) 7.ค้อน 1อัน (เตรียมมาทุบกระจก)ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ดำเนินคดี
ในส่วนสร้อยคอทองคำที่ขาดหายไป ผู้ต้องหาอ้างว่า นำไปขายตามที่ต่างๆ ระหว่างหลบหนี และมีบางส่วนอาจจะตกหล่นระหว่างทางที่หลบหนี จะได้สืบสวนสอบสวนติดตามคืนผู้เสียหายต่อไป