Thursday, November 21, 2024
More
    Homeบทความทั่วไปมองการเมืองฝรั่งเศสแม่แบบประชาธิปไตย

    มองการเมืองฝรั่งเศสแม่แบบประชาธิปไตย

    สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง ยุคเจนเนอเรชั่น แซด

    ​จั่วหัวของปีมังกรทอง หรือปีมะโรงงูใหญ่ 2567 เพียงสัปดาห์แรกของปีใหม่ สถานการณ์โลกร้อนแรงและเขย่าขวัญเกิดขึ้นมากมาย

    นับตั้งแต่แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น บ้านเรือนตึกรามพังพินาศเป็นหน้ากลอง ผู้คนนับร้อยต้องสังเวยชีวิต เครื่องบินชนกันวินาศสันตะโร รวมทั้งสงครามอิสราเอลกับฮามาสที่ยืดยาวข้ามพ.ศ.ก็ยังรุนแรงไม่แพ้กัน

    ​แต่เรื่องสุดฮือฮาสำหรับแวดวงการเมืองโลก ช่วงต้นสัปดาห์ที่ 2 ของปี หนีไม่พ้นเรื่องนี้

    ประธานาธิบดีหนุ่มแอมานุแอล มาคร วัย 46 ปี แห่งฝรั่งเศส ประกาศแต่งตั้ง “นายกรัฐมนตรีหนุ่มกว่า” นามว่า การียล อัตตาล (Gabriel Attal) อายุเพียง 34 ปี

    ​นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของฝรั่งเศส ที่มีนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมี ทำลายสถิติของ โลรองต์ฟาเบียส วัย37 ปี ในยุคของประธานาธิบดีฟรองซัวส์ มิตแตร์รองด์ เมื่อปี 2527

    ​ที่น่าทึ่งตะลึงพรึงเพริศ กาเบรียล อัตตาล นอกจากหน้าตาหล่อหมดจดราวพระเอกซีรีส์เกาหลีแล้ว ยังออกแนว “เกย์” แถมพ่วงด้วย โดยที่เจ้าตัวประกาศเองว่าอยู่ในเพศทางเลือก LGBTQ+ ทันสมัยซะไม่มี

    ​สำนักข่าวระดับโลกทั้งเอพี เอเอฟพีและอีกมากมายรายงานอย่างคึกคักว่าประธานาธิบดีมาครงแห่งฝรั่งเศสที่เป็นผู้นำสมัยที่ 2 ได้ประกาศแต่งตั้ง กาเบรียล อัตตาล อดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ในคณะรัฐมนตรีชุดเดิมที่นางเอลิซาเบธบอร์น (Elisabeth Borne)เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมใจยื่นใบลาออก เปิดทางให้ผู้นำประเทศปรับครม. ชุดใหม่ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567

    กาเบรีบล อัตตาล นับว่าเป็นนักการเมืองหนุ่มที่พุ่งแรงแห่งพรรคเรอเนซ็องส์ ของประธานาธิบดีมาครง ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีศึกษาธิการ เดือนกรกฎาคม 2566

    ​ก่อนหน้านี้เคยสังกัดพรรคสังคมนิยม ก่อนย้ายมาร่วมกับพรรคนายมาครง ที่ค่อนข้างเป็นพรรคสายกลาง

    ​ช่วงโควิดระบาดหนัก นายกาเบรียล อัตตาล เป็นโฆษกรัฐบาล ที่สร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากในฝรั่งเศส จากนั้นก็ไต่เต้าทางการเมืองแบบขึ้นลิฟท์ปรู๊ดปร๊าด

    ​ว่ากันว่า การปรับครม.ของประธานาธิบดีมาครง เกิดขึ้นในระยะที่รัฐบาลเหลือเวลาสิ้นสุดในปี 2570 หรืออีกเกือบ 4 ปีนั้น เนื่องมาจากการที่มาครง มีคู่แข่งทางการเมืองคือ มารีน เลอ เพน (Marine Le Pen)และกลุ่มฝ่ายอนุรักษ์นิยมหรือฝ่ายขวาที่มีนโยบายต่อต้านการอพยพเข้าเมือง และต่อต้านอิสลามเพิ่มขึ้น

    ​นอกจากนี้ต้องการให้ฝรั่งเศสพร้อมสำหรับการเลือกตั้งสหภาพยุโรป หรืออียู ในเดือนมิถุนายน นี้

    มารีน เลอเพน ได้เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ Xว่า ฝรั่งเศสจะคาดหวังอะไรได้จากนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ในรัฐบาลชุดที่ 5 (ภายใต้มาครง)? ไม่มีเลย

    ​ตามกฎหมายฝรั่งเศส ประธานาธิบดีจะเป็นผู้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี แต่ต้องได้รับการรับรองจากรัฐสภาฝรั่งเศส คาดกันว่า กาเบรียล จะต้องพบกับปัญหาเช่นเดียวกับอดีตนายกฯที่เสียการครองสียงข้างมากในสภาจนส่งผลให้มาครงต้องใช้อำนาจพิเศษทางรัฐธรรมนูญในการผ่านกฎหมาย

    ​ส่วนฝ่ายพันธมิตรของมาครง ออกมาเตือนว่ายุโรปยามนี้ลุกเป็นไฟยากที่จะควบคุมได้ เนื่องจากพรรคการเมืองปีกขวากำลังสยายปีกครอบคลุมการเลือกตั้งสหภาพยุโรป

    เตฟาน เซจอร์ หัวหน้ากลุ่มการเมืองสายกลาง ถึงกับบอกว่า ความเสี่ยงของยุโรปไม่สามารถควบคุมได้ ดูท่าจะเป็นจริงมาก เพราะกลุ่มชาตินิยมเพิ่มมากทุกแห่งในยุโรป

    ​แม้แต่ในอิตาลีก็เผชิญกับฝ่ายขวาจัด จนมีการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี (Giogia Maloni)สั่งแบนกลุ่มนาซีใหม่ หลังจากมีการแพร่คลิปกลุ่มชายฉกรรจ์ทำท่าเคารพพรรคนาซีหรือไฮ ฮิตเลอร์ หน้าอดีตที่ทำการพรรคอิตาเลียน โซเชียล มูฟเมนต์ หรือนีโอนาซีอิตาลี ที่ก่อตั้งขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

    ​สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงจะพุ่งไปทิศทางใหม่  หรือวกกลับยังไม่อาจคาดการณ์ได้ แต่ที่แน่นอน ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน

    ​ขอเพียงแค่รับสภาพความจริงให้ได้เท่านั้นแหละ

    การเมืองระดับนานาชาติกับการเมืองไทยก็ไม่ต่างอะไรกันนัก เพียงแต่ผู้นำพรรคบางคนวัย 40 ต้นๆ ของไทย ยังถูกบ่นลั่นบางว่า “เด็กจัง” หรือคบเด็กสร้างบ้านไปซะงั้น

    ดอนรัญจวน10/1/67

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments