Thursday, November 21, 2024
More
    Homeเจาะข่าวดัง พลิกแฟ้มคดีเด่นย้อนคดีดัง พ.ต.อ.สั่งตายโจ๋หนุ่มวัย17

    ย้อนคดีดัง พ.ต.อ.สั่งตายโจ๋หนุ่มวัย17

    ตำรวจร่วมแก๊งอุ้มหนุ่มอายุ 17
    เหตุพ่อสั่งฆ่าเพราะหวงลูกสาว

    เช้ามืดของวันที่ 26 ก.ย. 2560 ได้รับแจ้งเหตุพบศพ นายนเรนทร์ฤทธิ์ สุวรรณโณ หรือบาส อายุ 17 ปี ชาว จ.สงขลา

    สภาพถูกจับมัดมือมัดเท้า ก่อนนำมาโยนทิ้งที่น้ำใต้สะพานคลองลำภูรา ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง

    คดีนี้กลายเป็นคดีโหดอีกคดีหนึ่งเนื่องจากมีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ยศพันตำรวจเอกเป็นผู้ร่วมก่อเหตุสะเทือนขวัญ

    และยังมีนายดาบตำรวจอีก 2 นายเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเด็กหนุ่มอายุ 17 ปี

    จากการสืบสวนตำรวจพบว่า “นายบาส” ผู้ตาย คบหากับลูกสาวของ นายวิชาญ อายุ 53 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา

    จึงทำการหาหลักฐานก่อนจะพบรถกระบะที่คาดว่าได้นำผู้ตายมายิงทิ้งที่ จ.ตรัง นอกจากนี้เมื่อขอหมายค้นเข้าตรวจสอบที่บ้านของนายวิชาญ ก็พบคราบเลือดในห้องนอนลูกสาว

    ตำรวจไม่รอช้าออกมาหมายจับ นายวิชาญ ทันที คราบเลือดเป็นหลักฐานที่ทำให้นายวิชาญต้องยอมรับสารภาพ โดยให้ปากคำเบื้องต้นว่าเป็นผู้ลงมือแต่เพียงผู้เดียว

    อย่างไรก็ตาม ภูมิลำเนาของนายวิชาญและนายบาส เป็นคน จ.สงขลา แต่ศพกลับนำมาทิ้งที่ จ.ตรัง

    การจะลงมือฆ่าแล้วเคลื่อนย้ายเพียงลำพัง ไม่มีผู้ร่วมก่อเหตุหรือเห็นเหตุการณ์ย่อมมีความเป็นไปได้น้อยมาก

    ตำรวจขยายผลจากข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ตาย พบการโทรออกไปหาญาติแต่ไม่มีผู้รับสาย นอกจากนี้นายบาสยังส่งข้อความไปหาเพื่อนให้มายังบ้านที่เกิดเหตุ

    สอบปากคำเพื่อนคนดังกล่าวให้การว่าได้ไปยังบ้านของนายวิชาญ แต่ไม่พบว่านายบาสออกมารออยู่หน้าบ้าน

    ก่อนจะส่งข้อความมาอีกครั้งในช่วงกลางดึกว่า “กำลังจะตาย” แต่เพื่อนคิดว่านายบาสล้อเล่น

    เมื่อสืบสวนลึกลงไปก็พบว่าผู้ร่วมก่อเหตุฆาตกรรมเด็กหนุ่มอายุ17 ปี รายนี้ มีด้วยกันทั้งสิ้น 6 คน

    ได้แก่ พ.ต.อ.รัฐระวี ไชยชนะ ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา

    ,ด.ต.อนันต์ จันทร์คง สังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา,

    ด.ต.ธวัชชัย กิตติเวชวรกุล สังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง

    ในขณะที่พลเรือนนอกจากนายวิชาญ  แล้วก็ยังมีนายวิเวท  และ นายศักดิ์นรินทร์ 

    9 ต.ค. 2560 พ.ต.อ.รัฐระวี ไชยชนะ เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.กฤษฏา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ยะลา เพื่อขอต่อสู้คดี

    เบื้องต้นได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ได้ลงบันทึกจับกุมที่ สภ.เมืองยะลา แล้วส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.เมือง จ.ตรัง

    11 ต.ค. นำตัว พ.ต.อ.รัฐระวี พร้อมพวกรวม 5 คน ไปฝากขังต่อ ศาล จ.ตรัง โดยบรรดาญาติพี่น้อง เพื่อนตำรวจมายืนให้กำลังใจและลุ้นการประกันตัวจำนวนมาก

    ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนียว ,ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรอง , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ครอบครองฯ, พกพาอาวุธปืน และซ่อนเร้นศพ โดยพนักงานสอบสวนได้ค้านการประกันตัว

    พ.ต.อ.รัฐระวี หลังถูกคุมขังก็เกิดอาการเครียดหนัก เพราะชุดจับกุมสืบทราบว่าเป็นคนโทรศัพท์ไปตามให้ตำรวจอีก 2 นายที่สนิทกันมาติดร่างแหด้วย

    มีการเปิดเผยด้วยว่า แก๊งอุ้มฆ่าเด็กหนุ่มอายุ 17 ปี ทำงานกันเป็นทีม มีการรับช่วงต่อเป็นทอดๆ

    สาเหตุเริ่มมาจากนายวิชาญ พ่อแฟนสาวรู้ว่าผู้ตายลักลอบมาพบลูกสาวถึงที่บ้าน เกิดบันดาลโทสะทำร้ายผู้ตาย จับมัดมือขังไว้ในห้องนอนของลูกสาว

    แล้วโทรศัพท์ตามให้ พ.ต.อ.รัฐระวี ซึ่งเป็นญาติ มาที่บ้านพร้อมกับนายวิเวท ไชยชนะ น้องชายของผู้กำกับฯ

    หลังจากนั้น นำไปส่งให้กับ ด.ต.อนันต์ จันทร์คง ในพื้นที่รอยต่อ จ.สงขลา กับ จ.ตรังเมื่อไปถึง จ.ตรัง นายบาสยังมีชีวิตอยู่

    ก่อนจะส่งตัวให้กับ ด.ต.ธวัชชัย กิตติเวชวรกุล และนายศักดิ์นรินทร์ อ่อนช่วย

    จนกระทั่งมีการใช้ปืน 9 มม. ยิงและโยนศพทิ้งคลองเพื่ออำพรางคดี

    19 ธ.ค.2561 ศาลได้อ่านคำพิพากษาตัดสินคดีพนักงานอัยการ จ.ตรัง เป็นโจทย์ยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คน

    ทั้งนี้ พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองตรัง เจ้าของคดีไปรับฟังคำพิพากษาก่อนเปิดเผยว่า

    ศาลได้ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 1 ,2 และ 3 ได้แก่ นายวิชาญ พ่อของแฟนสาวผู้ตาย ,นายวิเวท ไชยชนะ และ พ.ต.อ.รัฐระวี ไชยชนะ

    เนื่องจากเป็นผู้จ้างวานและสั่งการ แต่ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ หรือจุดพบศพ

    ส่วนจำเลยที่ 4 ,5 และ 6 ประกอบด้วย ด.ต.อนันต์ จันทร์คง , ด.ต.ธวัธชัย กิตติเวชวรกุล และนายศักดิ์นรินทร์ 

    ศาลตัดสินประหารชีวิต เนื่องจากปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า ร่วมกันใช้รถยนต์ 2 คัน อุ้มผู้ตายจาก อ.เทพา จ.สงขลา ไปฆ่าทิ้งในจุดเกิดเหตุ

    พ.ต.อ.รัฐระวี ก่อนที่จะมาก่อเหตุอุ้มฆ่าโหดเคยตกเป็นข่าวอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2559

    ขณะนายตำรวจอบรมหลักสูตรผู้กำกับการ รุ่นที่ 106 วิทยาลัยการตำรวจ กองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

    ได้รวมตัวกันไปทำกิจกรรมจิตอาสาบริจาคเงินและสิ่งของ พร้อมกับเลี้ยงอาหารกลางวันคนพิการที่สานสงเคราะห์คนพิการบ้านการุณยเวศม์ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

    พ.ต.ท.รัฐระวี รอง ผกก.สส.ภ.จว.นราธิวาส (ยศ-ตำแหน่งขณะนั้น) ได้แจ้งกับเพื่อนร่วมรุ่นว่าเงินสดนับแสนบาทที่ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายหายไป และคาดว่าน่าจะถูกคนขโมย

    สาเหตุที่ต้องเบิกเงินติดตัวไว้เยอะเนื่องจากบัตรเอทีเอ็มหาย และเดินทางมาต่างจังหวัด จำเป็นต้องเก็บเงินสดไว้เผื่อได้ใช้โอนในเวลาจำเป็น โดยเก็บไว้ในกระเป๋าสะพายที่พกติดตัวตลอดเวลา

    แต่ในระหว่างที่ขึ้นไปบนเวทีเพื่อมอบสิ่งของและถ่ายรูปร่วมกัน ได้วางกระเป๋าไว้ที่เก้าอี้ด้านล่าง

    หลังจากนั้นจึงไปนั่งคุยกับเพื่อนร่วมรุ่นอยู่อีกห้องหนึ่งซึ่งเป็นห้องแอร์ พอกลับมายังอาคารอเนกประสงค์สถานที่จัดงาน

    พบว่ากระเป๋ายังวางอยู่ที่เดิม แต่พอเปิดดูปรากฏว่าเงินสดจำนวน 1 แสนบาทได้หายไปแล้ว

    สอบถามเพื่อนก็ไม่มีใครรู้เห็นเหตุการณ์ จึงประสานไปยัง พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง เจ้าของพื้นที่ เพื่อให้ส่งชุดสืบสวนมาตรวจสอบ

    “ไม่ได้แจ้งความเอาผิดกับใคร เพราะถือว่าเป็นความสะเพร่าของตัวเอง และจะไปโทษใครก็ไม่ได้ คงต้องโทษตัวเองที่ไม่ระมัดระวัง”

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments