เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่5พ.ค.65 ที่ ห้องประชุม ชั้น 2 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.ดร.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พร้อมด้วย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม.
ร่วมกันแถลงผลยุทธการ “เรือมนุษย์” หลังมีการปล่อยแถวระดมกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 6 จุดใน จ.สมุทรปราการ จ.นนทบุรี จ.จันทบุรี กวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์บังคับใช้แรงงานบนเรือประมง
พล.ต.อ.รอย กล่าวว่า ภาพรวมของยุทธการดังกล่าว จับกุมผู้กระทำผิดได้ 7 คน แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่เป็นนายหน้าคอยจัดหาเหยื่อแรงงาน ยังคงเหลือผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนีอีก 3 ราย อยู่ระหว่างการติดตามตัว
จากการตรวจสอบยังพบว่า การที่กลุ่มผู้ต้องหาล่องเรือไปทำประมงยังน่านน้ำประเทศเพื่อนบ้านนั้น เป็นการแอบลักลอบเดินทางออกนอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย อีกทั้งเจ้าของเรือประมงและไต๋ก๋งเรือลำดังกล่าว ไม่ได้จัดทำเอกสารคนประจำเรือ(SEA MAN BOOK) , เอกสารการเดินทาง เข้า-ออกของเรือประมงลำเกิดเหตุ
รวมถึงไม่ได้มีการแจ้งหน่วยที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นการกระทำที่ส่อเจตนาปกปิดข้อมูลของลูกเรือและเรือลำที่ใช้ โดยหลังจากนี้จะเร่งดำเนินการตรวจสอบขยายผลเอาผิดผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆต่อไป
สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาบนเรือประมงที่อยู่กลางทะเลห่างจากจากชายฝั่งบริเวณท่าเรือสัตหีบ 20 ไมล์ทะเล หรือ 36 กิโลเมตร พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผบก.รน. พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.5 บก.รน.
นำกำลังชุดปฎิบัติการพิเศษมัจฉานุ ตำรวจกก.2บก.รน. และตำรวจส.รน.3 กก.5 บก.รน. (ตำรวจน้ำสัตหีบ) กว่า 30 นาย พร้อมเรือตรวจการณ์รัถยาภิบาลบัญชา 815 และ เรือตรวจการณ์ 633 ออกจากท่าเทียบเรือสัตหีบ
เข้าตรวจสอบเรือ ก.โชครัตนปรีดา 9 ซึ่งเป็นหนึ่งในเรือเป้าหมายที่ชุดทำงานสืบทราบว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับหลบหนีมากบดานอยู่ และค้นหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์บนเรือประมง
ที่เกิดเหตุอยู่กลางทะเลอ่าวไทยห่างจากจากชายฝั่งบริเวณท่าเรือสัตหีบ 20 ไมล์ทะเล หรือ 36 กิโลเมตร พบเรือเป้าหมายจอดอยู่กลางทะเล ก่อนเทียบเรือเข้าตรวจสอบ
พบนายถวิล อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาในฐานความผิด ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปและสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือให้บริการหรือการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคลไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”และลูกเรือ 3 ราย
ได้ตรวจสอบเรือ ใบทะเบียนเรือ ,ใบอนุญาตการใช้เรือและเอกสารการทำประมงทั้งหมดพบว่า มีการขออนุญาตถูกต้อง จึงได้จับกุมนายถวิล ผู้ต้องหาตามหมายจับไว้
สอบสวนให้การภาคเสธว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ แต่ให้การยอมรับในบางประเด็นโดยเฉพาะเรื่องของการเป็นผู้ควบคุมเรือปราบสมุทร 39 ไปทำประมงที่นอกเขตน่านน้ำไทย
โดยเข้าไปทำที่เขตน่านน้ำของประเทศมาเลเซียจริง อีกทั้งเคยถูกจับกุมขณะหาปลาที่น่านน้ำประเทศมาเลเซีย ก่อนจะถูกทางการมาเลเซีย ส่งกลับมาที่ประเทศไทย อีกทั้งยอมรับว่าบนเรือมีการใช้ยาเสพติด โดยที่ลูกเรือต่างหากันมาเสพเอง ไม่ได้เกี่ยวกับตน และไม่ได้บังคับแรงงานประมงตามที่ถูกกล่าวหา
สำหรับผู้ต้องหาค้ามนุษย์ ที่ถูกจับกุมทั้งหมด มีกลุ่มนายหน้า 6 ราย และไต๋ก๋ง 1 ราย ประกอบด้วย1.น.ส.เพ็ญศิริ หรือเจ้เพ็ญ อายุ 42 ปี 2.นายเล็กหรืออ๊อฟ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) อายุประมาณ 40-45 ปี 3.นายเปี๊ยก อายุ 39 ปี 4.นายวารี อายุ 56 ปี 5.นายคมสัน หรือเสี่ยสัน อายุ 56 ปี 6. นายสุดใจ หรือเป็ด อายุ 56 ปี และ 7. นายถวิล อายุ 55 ปี ไต๋ก๋ง
เบื้องต้นแจ้งขัอหาร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปและสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือให้บริการหรือการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคลไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและได้กระทำผิดตามที่ตกลงกันไว้ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5.บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป
