”บิ๊กโจ๊ก” นัดผู้ช่วยทูตตำรวจ 50 ประเทศ จิบกาแฟแลกเปลี่ยนข้อมูลอาชญากรรมข้ามชาติ ชี้ภัยออนไลน์ยังเป็นมหัตภัยคุกคามคนไทย ขณะที่คนร้ายย้ายประเทศหลังก่อเหตุเร็วกว่านินจา
หลังกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่ตำรวจสากล (INTERPOL) ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิกกว่า 195 ประเทศ ที่ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุม เสนอให้ใช้หมายสีเงิน (Silver Notice) เพื่อประสานและแจ้งเตือนประเทศสมาชิกในการช่วยติดตามยึดอายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางการเงิน ซึ่งจะมีประโยชน์ในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เพื่อให้แนวทางนี้ถูกนำมาใช้ต่อเนื่องในประเทศไทย เมื่อเวลา 08.30 น. – 10.30 น.วันที่ 14 ธันวาคม66 ชั้น 32 ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้เชิญเจ้าหน้าที่นายตำรวจประสานงานประจำสถานเอกอัครราชทูตในราชอาณาจักรไทย ประมาณ 100 คน จาก 54 ประเทศ เข้ามาร่วมจิบกาแฟ หารือแนวทางการจัดการปัญหา และกระชับความสัมพันธ์ ส่งเสริมความร่วมมือในการประสานงานกันอย่างอย่างใกล้ชิด อันจะเป็นประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง และแนวทางการปฎิบัติที่ดีที่สุดระหว่างกัน เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์บอกว่า แต่ละปี จะมีนายตำรวจประสานงานสถานทูต สลับสับเปลี่ยนเข้ามาทำหน้าที่ เพื่อให้การทำงานสอดประสานกันใกล้ชิด จึงจำเป็นต้องเชิญทุกคนมาทำความรู้จัก และแลกเปลี่ยนข้อมูล การติดต่อสื่อสาร และ ข้อมูลของคนร้ายข้ามแดน ซึ่งเป็นที่ต้องการของแต่ละประเทศ จะได้ช่วยกันติดตามและจับกุม มาดำเนินคดี ไม่ปล่อยให้คนร้ายลอยนวลไปก่อเหตุได้อีก
รองผบ.ตร.กล่าวอีกด้วยว่า ยอมรับว่าปัจจุบันไทยตกเป็นเป้าหมายของการก่ออาชญากรรมข้ามชาติโดยเฉพาะมหันตภัยจากออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คลิปอนาจาร ไปจนถึงการค้ามนุษย์ ซึ่งหลังจากที่มีการก่อเหตุแล้ว ภาพของเหยื่อมักถูกส่งเข้าไปใน โซเชียล แม้ว่าเหยื่อจะโตเป็นผู้ใหญ่ภาพก็ยังปรากฏชัดโดยลบออกได้ไม่หมด กลายเป็นการกระทำซ้ำกับเหยื่อ
ขณะที่เหยื่อจากการถูกหลอกลวงอีกไม่น้อย โดยเฉพาะเหยื่อออนไลน์ ไม่เพียงจะหมดเนื้อ หมดตัว หลายครอบครัวตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองและคนในครอบครัว ไมก็ทิ้งบุตรหลาน ไว้กับญาติมิตร นี่จึงเป็นมหันตภัยคุกคาม ที่ต้องเร่งแก้ไข ด้วยการใช้พลังความร่วมมือของตำรวจสากล ร่วมกันขจัดปัญหาให้หมดไป