สัมผัส “สารวัตรทิว” เซียน “หลวงพ่อปาน” หัวหน้าสถานีตำรวจรถไฟหัวหิน เล่าแรงศรัทธาจากพุทธคุณ
“คุณพระคุ้มครอง ของขลังคุ้มภัย” วันนี้ จะมาพูดคุยกับ “สารวัตรทิว” พ.ต.ท.มงคล พรหมเมศร์ สว.รฟ.หัวหิน กก.3 บก.รฟ. หรือ “หัวหน้าสถานีตำรวจรถไฟหัวหิน” นายตำรวจที่มีของดีติดตัว ได้มรดกตกทอดเป็นพระเครื่องดัง เพราะเป็นคนกรุงเก่า บ้านเดิมอยู่ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แถมยังจริงจังถึงกับเปิดร้านเช่าพระเครื่องชื่อ “พระเครื่องของมงคล” โดยเปิดร้านที่หลังวัดพระประโทน จังหวัดนครปฐม
เริ่มต้นการสนทนา ก็ต้องสอบถามถึงพระเครื่องที่พกติดตัวเป็นประจำก่อน โดย “สารวัตรทิว”เล่าว่า “ด้วยความที่ตนเองเป็นคนกรุงเก่า โชคดีที่พ่อ ปู่ ย่า ตา ทวด ชอบเล่นพระ ก็มีพระเก่าจำนวนมาก ที่เก็บไว้เป็นสมบัติของปู่จำนวนมากคือ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค สมัยก่อนบ้านอยู่ใกล้วัด เวลาท่านมาบิณฑบาตรหรือมีงานบุญ ปู่ก็จะทำบุญกับท่าน ท่านก็เมตตาให้พระเครื่องมาให้เป็นที่ระลึก โดยพระหลวงพ่อปาน เป็นพระเนื้อดินเผา มี 6 พิมพ์หลักๆ คือ พิมพ์ขี่หนุมาน ขี่ครุฑ ขี่เม่น ขี่ปลา ขี่ไก่ และขี่นก โดยยังแยกย่อยเป็นพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ และพิมพ์กลางอีก ตอนนั้นพระหลวงพ่อปานของปู่ เอามาลองนับๆดู ตอนนั้นมี 36 องค์ มีพุทธคุณทางเมตตา แคล้วคลาด แต่ที่ผมพกติดตัวประจำคือ หลวงพ่อปาน พิมพ์ขี่หนุมาน เพราะเชื่อว่าใช้แล้วคล่องตัวดี เพราะเราอยู่กับนาย นอกจากนี้ยังมีเหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เชื่อว่าคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม และสมเด็จวัดเกศไชโย ที่ใช้ติดตัวเป็นประจำเพราะศรัทธาและเชื่อในพุทธคุณ”
เมื่อถามถึงปาฏิหารย์และความเชื่อในการสวมพระเครื่อง “สารวัตรทิว” เผยว่า “ ปี 2546 ผมเคยประสบอุบัติเหตุที่แยกบางพูน จ.ปทุมธานี โดยขณะขับมามีรถเทรลเลอร์ขับมาชนท้ายรถกระบะของผมอย่างแรง ทำให้รถพลิกคว่ำหมุนไปค้างบนเกาะกลางถนน ตอนนั้นเหมือนมีปาฏิหาริย์ ผมก็มึนๆ งงๆ เปิดประตูออกมารถพังไปหมด ทั้งหน้า ทั้งหลัง แต่ออกมาจากรถได้มาดูตัวเอง ไม่เป็นอะไรเลย แม้แต่รอยถลอกก็ไม่มี ตอนนั้นห้อยหลวงพ่อปาน จึงเชื่อว่าพุทธคุณของท่านช่วยคุ้มครองเรา”
“อีกเหตุการณ์ ปี 2552 สมัยที่มีม็อบพันธมิตรมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ผมขี่รถจักรยานยนต์พานาย (พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ) ออกมาตรวจตราความเรียบร้อย แถวสะพานอรทัย ช่วงนั้นประมาณ 2 ทุ่ม และมีรถของเราคันเดียวที่ขับออกตรวจ ปรากฏว่าอยู่ๆมีน็อตยิงมาใส่จากกลุ่มผู้ชุมนุม ตอนนั้นเราใส่เสื้อเกราะ หมวกแก๊ปเท่านั้น จำได้ว่าถูกยิงใส่กว่า 100 ครั้ง เสียงสนั่น เหมือนทั้งหมดเล็งมาที่เราคนเดียว โดนเข้าจนจุก แปลกมากที่ทั้งหมดเข้าแต่หน้าอก ไม่มีเข้าศรีษะหรือจุดอื่น ตอนนั้นใส่เสื้อเกราะเลยไม่เป็นอะไรมาก เราก็พยายามดูแลนาย กลัวนายเป็นอะไร ก็ขับกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย ตอนนั้นห้อยเหรียญหลวงพ่อน้อย รุ่นเสริม 1 วัดธรรมศาลา จ.นครปฐม ปี 2510 และพระยอดธง ซึ่งเป็นทองคำแท้ ลักษณะเป็นทองลูกบวบ เป็นพระที่สมัยก่อนไว้แจกขุนศึก หรือทหาร แต่เป็นพระเก่าไ
ม่ระบุวัดของ จ.พระนครศรีอยุธยา เชื่อว่าพุทธคุณทำให้เราไม่เป็นอะไรมาก” สารวัตรทิวเล่าอย่างออกรส
เมื่อถามถึงร้านพระเครื่องที่เปิดมาได้หลายปี “สารวัตรทิว”บอกว่า “เปิดกิจการเพราะความชอบส่วนตัวได้ พระเครื่องก็ถือเป็นพุทธศิลป์อย่างหนึ่งที่สะท้อนความเป็นไทย เรามีพระดีๆก็อยากให้คนมาเช่าหาไปบูชากัน โดยเน้นๆที่หลวงปู่ทวด หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร รวมถึงพระดังๆใน 3 จังหวัด คือ จ.พระนครศรีอยุธยา นครปฐม และสุพรรณบุรี เพราะถือว่าชำนาญเป็นพิเศษ ซึ่งใครสนใจสอบถามก็มาได้เลย หลังวัดพระประโทน จังหวัดนครปฐม ชื่อ “พระเครื่องของมงคล” ซึ่งเปิดมาตั้งแต่ตอนนั้น ท่านย้อย (พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.) ยังดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.7 นอกจากนี้ยังนำพระเครื่อง โดยเฉพาะหลวงพ่อปาน ไปประกวดตามสนามแข่งๆต่าง ได้รางวัลมาแล้วจำนวนมาก ถ้าว่างก็จะเดินสายประกวดเลยทีเดียว (หัวเราะ) “
เมื่อถามถึงหลักในการทำงาน “สารวัตรทิว”ว่า “ทุกวันนี้ผมจะภาวนาและสวดมนต์ตอนเช้าและก่อนนอน ทั้งบทสวดทั่วไปและยันต์เกราะเพชร ตั้งจิตอธิษฐานมั่นคงในความดี ในการทำหน้าที่เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน เชื่อว่าหากเราประพฤติปฏิบัติตัวดี ก็จะดึงดูดสิ่งดีๆมาหาตัว ให้เกิดขึ้นในชีวิตเราอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่ออยากได้อะไรก็มักจะได้ เช่นพระเครื่อง เคยไปไหว้หลวงพ่อทบ วัดชนแดน (วัดช้างเผือก) จ.เพชรบูรณ์ มา อธิษฐานถึงท่านอีกวันก็มีพระมาถึงร้าน หรือพระสมเด็จวัดเกศไชโย จ.อ่างทอง ไปไหว้ อีกวันก็มีคนเอามาให้ บางครั้งเอามาปล่อย บางครั้งเอามาแลก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ ซึ่งหากว่าง มีเวลาผมก็จะเข้าร้านตลอด”
“เมื่อมาทำหน้าที่ “หัวหน้าสถานีตำรวจรถไฟหัวหิน” ก็จะทำความดีเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน และประชาชน ในส่วนของตำรวจรถไฟก็พยายามสกัดกั้นอาชญากรรมทุกชนิดไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ ไม่ให้เกิดเหตุ เช่นคดีคนร้ายก่อเหตุทำร้ายและฆ่านักเรียนหญิงบนรถไฟเหมือนที่เป็นข่าวดังก่อนหน้านี้ ต้องไม่ให้มีเด็ดขาด โดยใช้ไอทีมาช่วยในการทำงาน เพราะเทคโนโลยีสำคัญ ทั้งการตรวจค้นยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย รวมถึงระบบกล้องวงจรปิดในสถานี ทุกอย่างต้องมีความพร้อมที่สุด ส่วนคดีคนร้ายที่มาก่อเหตุที่หัวหิน ที่ผ่านมานั้น กล้องวงจรปิดพบว่า ตอนแรกคนร้ายจะมาก่อเหตุที่สถานีรถไฟที่นี่ โดยมากัน 3 คน แต่เนื่องจากมีกล้องจำนวนมาก สุดท้ายคนร้ายจึงไม่ก่อเหตุที่นี่แต่ไปก่อเหตุจุดอื่นแทน เพราะภาพจากชานชาลาสามารถบันทึกได้ชัดเจน” นายตำรวจหนุ่มเล่า
“ส่วนขอบเขตพื้นที่รับผิดชอบ แม้กองกำกับจะอยู่ที่หัวหิน แต่ผมเองรับผิดชอบพื้นที่รถไฟในภาค 7 ทั้ง นครปฐม –สุพรรณบุรี – กาญจนบุรี – เพชรบุรี – ราชบุรี ถึงประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางรวม 628 กิโลเมตร ก็ถือว่าพื้นที่เยอะเลย โดยปกติตำรวจรถไฟจะดูแลพื้นที่สำคัญ ทั้ง สถานีรถไฟ รางรถไฟ ชานชาลา รวมถึงพื้นที่นอกชานชาลา ฝั่งละประมาณ 40 เมตร ซี่งถือว่ามากพอสมควร แต่ก็ให้ผู้ร่วมงานและผู้ใต้บังคับบัญชาทุ
กคน ช่วยกันทำงานเต็มที่เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว”สารวัตรทิวกล่าวทิ้งท้าย
ถือว่า “สารวัตรทิว” นอกจากจะชอบพระ และเป็นเซียนพระแล้ว ยังมีแนวคิดในการทำงานที่ดีเยี่ยม ภาพของ “ตำรวจรถไฟ” ที่ดูอาจไม่ใหญ่โตมากหากเทียบกับตำแหน่งอื่นๆ แต่เมื่อดูหน้าที่และความรับผิดชอบที่ได้รับแล้ว ถือว่าทั้งใหญ่และยาวเลยทีเดียว..!!
เป่าหิมะ