ชีวิตคนเรามักเริ่มจากความฝัน !!
สารวัตรเบียร์ ตำรวจไทยคนแรกที่จบปริญญาโทด้านสืบสวนคดีอาชญากรรมที่ประเทศอังกฤษ
พ.ต.ต.ขวัญพล เพ็งเดือน สว.สถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการ 1 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว หรือ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยวกรุงเทพใต้ รับผิดชอบพื้นที่ บก.น.4-5-6
“สารวัตรเบียร์” เล่าถึงความฝันที่กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นว่า
ตอนแรกฝันอยากเป็นนักบินกองทัพอากาศ แต่เมื่อถึงจุดที่ต้องเลือกแล้ว ด้วยจิตวิญญาณของความที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น
ตัดสินใจเลือกตำรวจ อีกทั้งคุณแม่ก็อยากที่จะให้เดินเส้นทางนี้
ช่วงเวลาการสอบตำรวจ สารวัตรเบียร์ได้ทุ่มเท และด้วยความมุ่งมั่น ความมั่นใจ จากการฝึกทำข้อสอบ หาอ่านและเรียนเพิ่มเติมทำให้สอบติดเป็น 1 ใน 180 คนจากผู้มาสอบทั้งหมด 21,000 คน
นิสัยที่เป็นระเบียบ อยู่ในกฎเกณฑ์ทำให้ได้รับความไว้วางใจมากมายจากเพื่อนในรุ่นโดยได้รับมอบหมายเป็น รองประธานนักเรียนนายร้อยปี 4 นรต.64 และเป็นประธานเพื่อนตำรวจ นรต. 64ในสังกัด บช.น. อีกด้วย
ตำรวจหนุ่มเล่าถึงความภูมิใจแรกของการบรรจุตำรวจ ป็นโอกาสที่ได้รับจากท่านรัฐมนตรีคมนาคม ให้เป็นนายตำรวจติดตาม
จุดนั่นทำให้สารวัตรเบียร์เรียนรู้การทำงานของเจ้านายจนนับมาเป็นแบบอย่าง โดยถือคติ มองลึก นึกไกล ใจกว้าง
จากนั้นมาเป็นรองสารวัตรสืบสวนสน.ลาดพร้าว ก่อนจะย้ายมาสน.มักกะสัน
ระหว่างนั้นก็ได้รับความเมตตาจากพล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น ให้ไปเรียนหลักสูตร FBI ช่วงนั้น เจ้าตัวยังศึกษาอยู่คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันนิด้าด้วย
ไม่เพียงเท่านี้ สารวัตรเบียร์ยังเป็นตำรวจไทยคนแรกที่จบปริญญาโทด้านสืบสวนคดีอาชญากรรมที่ประเทศอังกฤษ
หลังเรียนจบจากประเทศอังกฤษ ได้กลับมาประจำการที่ไทย ได้รับโอกาสจากพล.ต.ต. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบช.ก. เล็งเห็นถึงความมุ่งมั่นของตัวเอง ย้ายไปเป็นรองสารวัตรตำรวจวิทยุกองปราบ ฉลามบก
สารวัตรเบียร์เล่าถึงผลงานที่ประทับใจคือ การเป็นตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปประชุม และกล่าวอธิบายคดีด้านก่อการร้ายที่ปักกิ่ง ณ ประเทศจีน
เป็นช่วงเวลาที่ได้เปิดโอกาสให้ตำรวจไทยได้เข้าร่วมการแข่งขันยิงสไนเปอร์กับต่างชาติครั้งแรก
จากเจตนารมณ์ของท่านพล.ต.ต.ต่อศักดิ์ ที่อยากยกระดับตำรวจไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อประโยชน์ในการดูแลประชาชน
ได้ประสานติดต่อ FBI ให้ดำเนินการฝึก active shooter ถือเป็นครั้งแรกของทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ถูกจัดขึ้นที่ประเทศไทย
แนวคิดหลายๆอย่างจนไปถึงแนวทางในการทำงานนั้นมี พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ เป็นต้นแบบโดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาหน่วย และการครองใจผู้ใต้บังคับบัญชา
เพราะทำให้อยากนำมาพัฒนาสถานีในส่วนที่ตนดูแลรับผิดชอบ ให้กลายมาเป็นสถานีอันดับ 1 ที่มีประสิทธิภาพในการปฎิบัติงาน มีเทคโนโลยี จนไปถึงความสุขในการทำงานของลูกน้อง
เพราะเชื่อว่า ไม่มีสิ่งอื่นใดสำคัญไปกว่าความสามัคคีของหน่วย จึงตั้งมั่นที่จะพัฒนาโดยขอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ความสามารถที่มากมายของสารวัตรหนุ่มคนนี้ นอกเหนือจากเวลางานแล้วยังชอบตีเทนนิส เที่ยวภูเขา และอ่านหนังสือแนวพัฒนาตนเอง จิตวิทยาอีกด้วย
เมื่อถามถึงสไตล์สาว ๆ ที่ชอบ
ก็ต้องบอกว่า ด้วยความเป็นคนทำอะไรไว ชอบผู้หญิงที่ เก่ง คิดตามทัน ดูแลตัวเองได้ และมีทัศนคติคล้ายๆกัน
สุดท้าย ประโยคที่ถือในใจเป็นแนวทางในการทำงาน คือ
“ข้าพเจ้าขออุทิศตนเป็นข้าราชการคนหนึ่ง ทำงานเพื่อประชาชนตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุ่มเทด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยความอดทน ซื่อสัตย์และสุจริต”
พนิตนาฏ พรหมบังเกิด บันทึก29/12/62