จู้กหู้กกู้กราบสวัสดี
ไม่อยากเชื่อก็คงต้องเชื่อ
สาลิกาดง นิวคาสเซิล ทีมท้ายตารางของพรีเมียร์ลีก กำลังจะชุบตัว กลายมาเป็น สาลิกาตกถังน้ำมัน ภายในช่วงเวลาแค่ข้ามคืน…..
เพราะตอนนี้หลายสื่อรายงานตรงกัน กลุ่มทุน PIF ที่นำโดยมกุฎราชกุมาร เจ้าชาย บินซัลมาน และ นักลงทุนคนเก่ง อแมนด้า สเตฟลีย์
ได้รับไฟเขียวให้สามารถซื้อขายทีมจาก ไมค์ แอชลีย์ ได้เสียที หลังจากที่เรื่องนี้ยืดเยื้อมาเกิน 1 ปีแล้ว
แรงถาโถมจากเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ที่มีปัญหากับการ์ตาร์
2. คดีฆาตกรรมนักข่าว จามาล คาช็อคกี ที่ยังหาบทสรุปไม่ได้
แถมท้ายด้วยเรื่องสำคัญที่เหมือนจะเป็นตัวหยุดยั้งฝันร้ายของชาวสาลิกาดงอย่าง อำนาจของกลุ่ม บิ๊ก6 ในลีก
ที่ ริชาร์ด มาสเตอร์ นายใหญ่พรีเมียร์ลีค ออกมาโยนขี้ให้กลายๆ จนกลายเป็นเรื่องแดงถึงขั้นฟ้องร้องในที่สุด
ทั้งหมดนี้ คือหลากหลายเหตุผลและเล่ห์กลที่ยากจะรู้ได้จริงๆว่า ทำไมการซื้อสโมสรสาลิกาดงครั้งนี้ ถึงได้ยากเย็นนัก…..
แต่เมื่อคดีเข้าไปที่ศาล รอตัดสินเดือนมกรา เหมือนว่าแสงสว่างปลายอุโมงค์จะช่วยทำให้เหล่าทูนอาร์มี่ กลับมามีหวังอีกครั้ง
จนสื่อใหญ่ทุกสำนักก็รายงานตรงกันว่า เรื่องติดปัญหาลิขสิทธ์จู่ๆ กลุ่มทุน PIF ก็เคลียร์ได้ซะอย่างนั้น
จู้กหู้กกู้ไม่รู้แน่ชัดว่า มันมีลับลมคมใน เรื่องอะไรมากกว่านี้ สำหรับ การพยายามผูกขาดตำแหน่งพี่ใหญ่ในลีดให้แค่ 6 ทีมตามข่าวที่ออกมามั้ย….
ความอัปยศของบอร์ดชุดเฮียไมค์ แอชลีย์ ที่ทำหน้าที่เพียงแค่ เล่นปาหี่ มากว่า 14 ปี เพื่อรอหาโอกาสสูบกำไรจากทีมเพียงอย่างเดียว
จนสโมสรสาละวันเตี้ยลงกลายร่างจากทีมเกรดเวิลด์คลาสเป็นเวิลด์แก๊ส ในรอบหลายปีหลัง หึหึ
ถึงแม้ตอนนี้ข่าวคราวความสนใจจะพุ่งไปยังความรวยระดับโคตรเศรษฐีของเจ้าชาย (ว่ากันว่า รวยกว่าเจ้าของแมนซิ 10 เท่า)
รวมไปถึงนักเตะใหม่ระดับโลกที่อาจจะตบเท้าเข้าทีมแบบครบคัน
ชื่อของ คีเลียน เอมบัปเป้, เออลิง ฮาลันด์ รวมไปจนถึง โมฮัมเม็ด ซาล่าห์ ก็ถูกหยิบยกมาอ้างกันอย่างหนาหู…….
แต่สำหรับจู้กหู้กกู้สิ่งเดียวที่คิด และเชื่อว่าแฟนๆหลายคนก็คิด
คงไม่มีอะไรมากไปกว่า เตะโด่งทั้งเฮียไมค์ แอชลีย์ กับ สตีฟ บรู๊ซ ออกจากถิ่นเซนต์เจมส์พาร์ค ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 555
ส่วนที่มีแฟนแซวว่า กุนซือใหม่ เอาเฮีย โรนัลด์ คูมันน์ มาคุมแทนสตีฟ บรู๊ซมั้ย เพราะพี่แก อุตส่าห์คุมบาซ่าให้เป็นนิวคาสเซิลได้……555+
จู้กหู้กกู้อยากให้ดูข้อมูลเปรียบเทียบความรวยแล้วลองจิตนาการดูว่า ชุบน้ำมันหรือชุบทองดีกว่ากัน (ฮา)
20. เบรนท์ฟอร์ด- แมตธิว เบนแฮม (3 ล้านปอนด์)
19. นอริช- เดเลีย สมิธ และ ไมเคิล วินน์ โจนส์ (23 ล้านปอนด์)
18. เบิร์นลีย์- ไมค์ การ์ลิค (62 ล้านปอนด์)
17. วัตฟอร์ด- จิโน ปอซซา (93 ล้านปอนด์)
16. ลีดส์ ยูไนเต็ด- อันเดรีย ราดริซซานี (344 ล้านปอนด์)
15. ไบรท์ตัน- โทนี บลูม (765 ล้านปอนด์)
14. เวสต์แฮม- เดวิด ซุลลิแวน และ เดวิด โกลด์ (1,620 ล้านปอนด์)
13. เอฟเวอร์ตัน- ฟาร์ฮัด โมชิริ (1,900 ล้านปอนด์)
12. ลิเวอร์พูล- จอห์น เฮนรี (2,140 ล้านปอนด์)
11. เซาแธมป์ตัน- เกา จี้เฉิง (2,300 ล้านปอนด์)
10. เลสเตอร์- อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา (2,900 ล้านปอนด์)
9. คริสตัล พาเลซ- โจชัว แฮร์ริส (3,360ล้านปอนด์)
8- แมนฯยูไนเต็ด- ครอบครัวเกลเซอร์ (3,500 ล้านปอนด์)
7- สเปอร์ส- โจ เลวิส (3,600 ล้านปอนด์)
6- วูล์ฟแฮมตัน- กั๋ว กวางชาง (4,500 ล้านปอนด์)
5- แอสตัน วิลลา- นาสเซฟ ซาวิริส (5,300 ล้านปอนด์)
4- อาร์เซนอล- สแตน โครเอนเก้ (6,350 ล้านปอนด์)
3- เชลซี- โรมัน อบราโมวิข (9,600 ล้านปอนด์)
อ่านบทความต่อด้านล่าง
2- แมนฯซิตี้- ชีค มานซูร์ (22,900 ล้านปอนด์)
1- นิวคาสเซิล- โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (320,000 ล้านปอนด์)
สาลิกาตกถังน้ำมันแสนล้าน !!!