ผมได้รับหนังสือ มือปราบเหยี่ยวดำ จากมือพ.ต.อ.บรรดล ตัณฑไพบูลย์ อดีตรองผบก.ภ.จว.สระบุรี โดยเล่มนี้เพิ่งวางแผงในร้านหนังสือชั้นนำเมื่อต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา
ประวัติเมื่อเกือบ40ปีก่อนของพี่บรรดล ตอนนี้กำลังโลดแล่นอยู่ในละครช่อง7 ชื่อเดียวกับหนังสือที่พี่เขาแต่ง บันทึกเรื่องราวการปลอมตัวเข้าหาข่าวในแก๊งของตี๋ใหญ่-กรประเสริฐ ช่างเขียน จอมโจรลือชื่อในอดีต ก่อนถูกล่อมาพบจุดจบด้วยฝีมือตำรวจไทยและเรื่องราวในชีวิตที่น่าสนใจอีกมากมาย
วันนี้เรามาย้อนอ่านบันทึกที่ผมเคยสัมภาษณ์เรื่องพระเครื่องในคอที่พี่เขานับถือ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวไว้ยามออกปฎิบัติภารกิจไล่ล่าจับโจรกันครับ
สิ่งมหัศจรรย์มีจริง
มือปราบตี๋ใหญ่ ฉายา “เหยี่ยวดำ-พ.ต.อ.บรรดล ตัณฑไพบูลย์” ถึงแม้จะเกษียณอายุราชการไปหลายปี แต่หน้าตายังสดใส เจ้าตัวบอกเคล็ดลับ ออกกำลังกายเยอะๆ
นานๆเจอกันที พูดคุยกันหลายเรื่อง ไม่เว้นเรื่องการโยกย้ายตำรวจที่ฮือฮางวดที่ผ่านมา ก่อนวกกลับเข้าถึงเรื่องพระเครื่องที่นับถือสวมใส่ พ.ต.อ.บรรดล ถอดสร้อยพระเครื่องจากคอให้ชมพร้อมกับอธิบายทีละองค์
“องค์แรก เหรียญหล่อหลวงปู่ทา วัดพะเนียงแตก รุ่นแรก จ.นครปฐม คนเสาะแสวงหามากเพราะมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องแคล้วคลาด คงกระพัน องค์ที่สอง หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร พิมพ์จอบเล็ก องค์ที่สาม หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ รุ่นปักกลด อันนี้เป็นหลวงปู่ที่อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ชื่อ ครูบาผาผ่า เนื้อดิน ส่วนองค์สุดท้าย พระปิดตาหลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน จ.สมุทรสาคร….”
พูดจบ เหยี่ยวดำ หยิบตะกรุดที่แขวนอยู่กับสร้อยให้ดูพร้อมเล่าต่อว่า
“อันนี้ไฮไลท์ ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง เขาเรียก รุ่นโสฬส พุทธคุณเรื่องคงกระพัน ว่ากัน เป็นตะกรุดอันดับ 1 ของประเทศไทย หายากยิ่งกว่าสมเด็จวัดระฆัง คือ มีน้อยชิ้นมาก…”
ส่วนสาเหตุที่ต้องหาพระเครื่องมาไว้คู่กาย อดีตส.ต.ท.ที่เข้าเกลียวไปในแก๊งตี๋ใหญ่ จอมโจรลือชื่อเมื่อ 30กว่าปีก่อนเล่าให้ฟังว่า เป็นเพราะเมื่อปี 27 ตอนยศ ร.ต.ท.อยู่สืบสวนเหนือ ถูกคนร้ายยิงบาดเจ็บ สมัยนั้นไม่มีพระติดตัว แต่หลังจากถูกยิงครั้งนั้น ถึงเริ่มเสาะแสวงหาพระคุ้มครอง ก็ไปหาเช่ามาบูชา เน้น หลวงพ่อทา หลวงพ่อเดิม แล้วก็หลวงพ่อเงิน 3 องค์ที่ว่านี้ ได้ท่านมา อบอุ่นใจมาก ไปปราบโจรผู้ร้ายที่ไหน เกิดเหตุคนร้ายยิงต่อสู้ ทำให้เรามีพลัง มีความศรัทธา และยิ่งเชื่อมั่นในพุทธคุณ
ในชีวิตนี่เคยเห็นคนยิงไม่เข้า เห็นกับตาตัวเอง เมื่อปี 2520 เป็นคนร้ายประเภทปล้นฆ่า ยิงต่อสู้ตำรวจ เคยถูกผม และเพื่อนตำรวจสืบสวนเหนือกับตำรวจสายสืบ สน.สำราญราษฎร์ อีก 2-3 คน ยิงต่อสู้กับคนร้ายคนนี้
“เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ สิ่งที่เคยเห็นครั้งแรก แล้วไม่เคยเห็นอีกเลย คือคนร้ายคนนี้ยิงไม่เข้า ทั้ง 3-4 กระบอก คนร้ายแขวนพระหลายองค์ แตกหมด เหลือตะกรุดอันเดียว มีรุ่นพี่คนหนึ่งเกษียณยศ พล.ต.อ.วิ่งเข้าไปดึงตะกรุดทิ้ง เหตุการณ์นี้ ทำให้เชื่อเลยว่า สิ่งมหัศจรรย์ มันมีจริง….”
ตำรวจที่เห็นเหตุการณ์วันนั้น ยังมีชีวิตอยู่ทุกคน ทุกวันนี้เวลาพี่เจอนายตำรวจคนที่ถอดตะกรุดคนร้ายทิ้ง ยังคุยกันถึงเรื่องนี้อยู่….
ส่วนตอนที่เข้าเกลียวกับตี๋ใหญ่ ไปด้วยความคึกคะนอง ไม่มีพระไม่มีเครื่องรางของขลัง ไปด้วยความชอบบู๊ชอบนักเลง ชอบผจญภัย วัดดวง พอไปอยู่นานๆ เข้า โอ้โห ตายแล้วกู ไปล้อเล่นกับความตายแล้ว แต่ทำด้วยใจ
ตี๋ใหญ๋ นี่เล่นคาถาอาคมมาก ลูกน้องมันพูดกันก่อนเขาจะเสียชีวิตแค่เดือนเดียว เขาไปเที่ยวโรงน้ำชา ที่ท่าฉลอม ชื่อมังกร อารามรีบร้อนที่ตื่นตั้งแต่เช้ามืด เพราะกลัวตำรวจมาล้อม เขาลืมตะกรุดกับเขี้ยวเสือ ไว้ในโรงน้ำชาแห่งนี้ ย้อนกลับไปหาก็ไม่เจอ เขาเล่าให้สายพี่ฟังว่า ดวงกูน่ากลัวจะถึงฆาตแล้ว รองกิตติโชติ แสงนิล ก็ได้ยิน
ส่วนคาถาจับโจร ก็มีเป็นคาถาของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ท่านให้พี่ ตอนย้ายไปเป็น ผกก.สภ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช
เวลาไปสอนหนังสือโรงเรียนนายร้อยตำรวจ พี่บอกว่า อย่าห่างพระ ถ้าเราเป็นชาวพุทธ โดยเฉพาะพระที่มีพระคุณให้เรามา พ่อ แม่ ให้เรามา ต้องติดตัวเอาไว้
อย่างน้อยเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยเฉพาะตำรวจสมัยก่อนที่ไม่ได้มีเสื้อเกราะ มีแต่พระแล้วก็ปืน ที่ป้องกันชีวิตของตำรวจเราได้
