สืบนครบาลล็อก”ลุงเสน่ห์”ต้มตุ๋นอ้างเบื้องสูง “ลงทุนเงินบุญ” อ้างว่า มีเงินจำนวนหนึ่งที่เบื้องสูงต้องการจะแจกจ่ายให้กับประชาชน แต่จะต้องร่วมลงทุนก่อน 1,000 บาท หลังจากนั้นภายใน 30 วัน จะได้รับผลตอบแทนเป็นเงิน 10 ล้านบาท แต่บ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายผลตอบแทน
วันที่ 5กรกฎาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3ฯ พ.ต.ต.สัญญลักษ์ สังขะภักดี สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 3/1
ร่วมกันจับกุมนายเสน่ห์ อายุ 71 ปีชาวอ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.2026/2566 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง, หมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์” จับกุมได้หน้าร้านขายยาฆ่าหญ้า เลขที่ 26 หมู่ 3 ต.อำแพง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร
พฤติการณ์ จะแอบอ้างเบื้องสูงเพื่อหลอกลวงให้คนมาร่วมลงทุนโดยใช้ชื่อว่า “ลงทุนเงินบุญ” อ้างว่า มีเงินจำนวนหนึ่งที่เบื้องสูงต้องการจะแจกจ่ายให้กับประชาชนคนไทย แต่จะต้องร่วมลงทุนกับตน 1,000 บาท หลังจากนั้นภายใน 30 วัน จะได้รับผลตอบแทนเป็นเงิน 10 ล้านบาท ผู้เสียหายสนใจได้ร่วมลงทุนไป
ต่อมา เมื่อถึงเวลาตามที่ตกลงจ่ายเงินค่าตอบแทนนั้น ผู้ต้องหาได้บ่ายเบี่ยงการจ่ายเงิน โดยให้เหตุผลว่า เบื้องบนยังไม่อนุมัติเงินให้ หรือบางครั้งก็แจ้งว่าจะทำการเปลี่ยนระบบการจ่ายเงิน จึงต้องขยายระยะเวลาการจ่ายผลตอบแทน และยังออกอุบายเชิญชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนเพิ่ม โดยบอกว่าจะจัดโปรโมชั่นให้เป็นกรณีพิเศษ
ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงร่วมลงทุนเพิ่มอีกจำนวนหลายครั้ง แต่สุดท้ายผู้เสียหายก็ไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ จนสูญเงินไปกว่า 500,000 บาท ได้แจ้งความดำเนินคดีและได้มีการออกหมายจับไว้แล้ว แต่ยังจับกุมตัวไม่ได้ ผู้เสียหายเกิดความเครียดเป็นอย่างมากและส่งผลให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตย่ำแย่ จนญาติต้องพาผู้เสียหายเข้าพบจิตแพทย์
จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้เสียหายแจ้งว่า นายเสน่ห์ฯ ชักชวนลงทุนในลักษณะนี้กับประชาชนจำนวนหลายราย แต่คนส่วนใหญ่ยังเชื่อในคำหลอกลวงของนายเสน่ห์ฯ จึงยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับนายเสน่ห์ฯ แต่อย่างใด
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่า ไม่เคยหลอกลวงผู้ใด และผู้ต้องหาประกอบอาชีพขายสารเคมีเกษตร เช่น ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง ปุ๋ย เปิดร้านอยู่หน้าบ้านของตนเองนำส่ง สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป