สืบนครบาลตามล็อก”ชายเร่ร่อนอันตราย”ก่อคดีอื้อไม่ว่าจะโพสต์เฟซบุ๊กตุ๋นเหยื่อว่าเป็นตำรวจสามารถช่วยวิ่งเต้นคดีได้ก่อนนัดพบและใช้กำลังบังคับข่มขืน ก่อคดีลักทรัพย์ฉวยเข็มขัดเงินมูลค่า 12,000บาท หลบหนี ลวงผู้สูงอายุวัย77 ปีว่าจะอัปเดตมือถือให้แต่กลับโอนเงินเข้าบัญชีตัวเองไปครึ่งแสนฯลฯ
สืบนครบาลตามตะครุบชายเร่ร่อนอันตรายครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ม.ค.67 พล.ต. ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.สั่งการ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผบก สส. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1 พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 พ.ต.ต. พิสิทธิ์ เตชะ สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น.
นำกำลังจับกุมนายมนัส หรือปลา อายุ 39 ปี ภูมิอ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี ตามหมายจับศาลอาญา ตลิ่งชัน ลงวันที่ 4 ก.ย.66 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น จับกุมได้ริมถนนข้างวัดชนะสงคราม ซอยรามบุตรี ถนนจักรพงษ์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม.
สืบเนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหาย ใช้เฟซบุ๊กอ้างว่าเป็นตำรวจ ช่วยให้คำปรึก ษาเรื่องคดีความได้ ผู้เสียหายเป็นพนักงานออฟฟิศอายุ36 ปี หลงเชื่อนัดผู้เสียหายไปพบที่ห้องพักแห่งหนึ่งย่านตลิ่งชันและข่มขืน
ตรวจสอบพบอีกว่านายมนัสยังมีคดีอื่นอีกหลายคดี อาทิ หมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 6 มิ.ย. 66 สน.พระราชวัง ข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ทำทีเข้าไปซื้อของในร้านขายจิลเวลรี่และของเก่าย่านวังบูรพา สบจังหวะขโมยเข็มขัดเงิน มูลค่า 12,000 บาทหลบหนี
หมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ลงวันที่ 18 ต.ค.66 สน.บางยี่ขัน ข้อหา ลักทรัพย์ และเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันและการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ทำให้เสียหายทำลายแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และใช้บัตรอิเล็กทรอนิคส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นฯ พฤติการณ์คือ หลอกลวงเอาโทรศัพท์ผู้เสียหาย อายุ 77 ปี อ้างจะอัปเดตระบบแต่ฉวยจังหวะโอนเงินเข้าบัญชีตัวเองยอดประมาณ 55,000 บาท และยังพบว่าก่อเหตุลักทรัพย์หลอกลวงประชาชนอีกหลายครั้ง ก่อนถูกจับกุมได้ในที่สุด
เบื้องต้นนายมนัสให้การว่า ไม่มีงานทำไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยนอนตามร้านฟาสต์ฟู๊ดที่เปิด 24 ชั่วโมงหมุนเวียนอยู่บริเวณสนามหลวง สะพานพระราม 8 จรัญสนิทวงศ์ และอาศัยกินข้าวตามสถานที่ที่แจกข้าวสำหรับคนเร่ร่อนมานานหลายเดือนและยอมรับว่ากระทำความผิดตามหมายจับจริง เพราะต้องการเงินจริงๆ
นายมนัสให้การเพิ่มเติมด้วยว่า เคยเข้าไปตีสนิทกับนักท่องเที่ยวอาศัยกินดื่มฟรี เมื่อสบโอกาสนักท่องเที่ยวเมาจะลักทรัพย์ทำมาหลายครั้ง และยังให้การว่าเคยมีพฤติการณ์เปิดโรงแรมเพื่อนอนพักหลายครั้งแล้วหลบหนีออกมาโดยไม่ได้จ่ายเงิน นอกจากนั้นยังมีไปตีสนิทกับผู้คนต่างๆ อ้างเป็นครูพละเพิ่งมาบรรจุใหม่เพื่อความน่าเชื่อถือ ทำทียืมเงินแล้วหลบหนีไป ส่วนคดีข่มขืนนั้น ขอให้การภาคเสธ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติเพิ่มเติมจากฐานข้อมูลคดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า นายมนัสเคยมีประวัติคดีลักทรัพย์มาแล้วหลายครั้งในหลายท้องที่จำนวนหลายครั้ง ครั้งล่าสุดที่ถูกจับกุม เมื่อปี 2565 ในพื้นที่ สน.บางขุนนนท์ นำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป