สืบนครบาลจับกุม เอส บางกระสอ และ ภัทร ลำโพ สองผัวเมียรับจ้างเปิดบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
วันที่ 12 ตุลาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ,
พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และชุด PCT5
ร่วมกันจับกุม นายเอสนะ อายุ 43 ปี ชาวแขวงบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 562/2565 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 และน.ส.ภัทรศนีย์ อายุ 30 ปี ชาวต.ชุมเห็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ตามหมายจับศาลอาญามีนบรี ที่ 1329/2565 ลงวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2565
ต้องหาว่าฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ”
ตรวจสอบประวัตินายเอสนะ ในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี 5 หมายจับ และสถานะคดีอยู่ระหว่างรอออกหมายจับ 4 คดี รวม 9 คดี ประกอบด้วย
(1) ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ” ตามเลขคดี สภ.เมืองนนทบุรี ที่ 182/2555 สถานะหลบหนี/รอออกหมายจับ
(2) ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ตัวการในข้อหาฉ้อโกง,ตัวการในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ” ตามเลขคดี สภ.ศรีราชา ภ.จว.ชลบุรี ที่ 576/2565 สถานะหลบหนี/รอออกหมายจับ
(3) ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ตัวการในข้อหาฉ้อโกง,ตัวการในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ” ตามเลขคดี สน.วังทองหลาง ที่ 933/2565 สถานะหลบหนี/รอออกหมายจับ
(4) ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของ ประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ” ตามเลขคดี สภ.เมืองลำปาง ที่ 1706/2565 สถานะหลบหนี/รอออกหมายจับ
(5) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 562/2565 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ” ท้องที่ สภ.บ้านบึง ภ.จว.ชลบุรี
(6) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 395/2565 ลงวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ” ท้องที่ สภ.เมืองพิษณุโลก
(7) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพะเยา ที่ จ.9/2566 ลงวันที่ มกราคม พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น , โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ” ท้องที่ สภ.เมืองพะเยา
(8) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.219/2566 ลงวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ” ท้องที่ สภ.ช้างเผือก
(9) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชุมแพ ที่ จ.92/2566 ลงวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ” ท้องที่ สภ.ชุมแพ
ชั้นจับกุมนายเอสนะ หรือ บังเอส บางกระสอ และ น.ส.ภัทรศนีย์ หรือภัทร ลำโพ ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยทั้งสองรับสารภาพว่าเมื่อช่วงต้นปี 2564 มีคนรู้จักมาจ้างให้ตนทั้งสองไปเปิดบัญชีธนาคารต่างๆ ทุกธนาคารหลักได้ค่าจ้างในการไปเปิดบัญชีธนาคารบัญชีคนละ 2,000 บาท คนที่จ้างบอกว่าจะนำไปใช้ในการทำธุรกิจโต๊ะพนันฟุตบอล โดยเงินที่ได้จากค่าจ้างเปิดบัญชีผู้ต้องหาทั้งสองรายรับว่านำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและซื้อยาเสพติดมาเสพ
จากการตรวจสอบวัติคดีของผู้ต้องหาทั้งสองราย ปรากฏพบว่ามีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด , การพนัน , คดีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รับจ้างเปิดบัญชีม้า) ซึ่งเคยถูกดำเนินคดี และยังต้องการตัวอีกหลายคดีในหลายท้องที่อีกด้วย