“บิ๊กหยาม”แถลงตำรวจสืบนครบาลและสืบบก. น.6จับยาเสพติดมโหฬาร ตะลึงมาเป็นรถเทรลเลอร์ขนตู้คอนเทนเนอร์ ของกลางยาบ้า18 ล้านเม็ด ไอซ์750กก. คีคามีน300กก.รับทำมาแล้ว 5ครั้ง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มี.ค.68ที่บก.อคฝ. (บางเขน) กทม.
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. น.ส.นุชจรีย์ พลีดี ผอ,ส่วนตรวจสอบทรัพย์สิน ปปส.กทม.
แถลงข่าว พ.ต.อ.สุวัฒน์ เกิดแก้ว รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ รองผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. ร่วมกับ พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.สส.บก.น.6
จับกุมจับกุมนายพิษณุ อายุ 38 ปี ชาวจ.อ่างทอง และนายณัฐวุฒิ อายุ 26 ปี ชาวจ.สมุทรสาคร พร้อมของกลางยาบ้า 18,200,000 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนัก 750 กก. ยาเคตามีนน้ำหนัก 300 กก. และรถบรรทุกพ่วงตู้คอนเทนเนอร์ 18 ล้อ มูลค่ายาเสพติดรวม ประมาณ 996,000,000 บาท
ข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและยาไอซ์)โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป
และร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน
สืบเนื่องจากชุดจับกุมสืบสวนขยายผลผู้ต้องหาในคดียาเสพติดที่เคยถูกจับกุม กระทั่งได้เบาะแสมีขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่บริเวณชายแดนภาคเหนือใช้รถเทรลเลอร์ซุกซ่อนยาเสพติด
จากการสืบสวนและสะกดรอยติดตามพฤติกรรมมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งวันที่ 21 มี.ค.รับแจ้งว่าผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ใช้รถเทรลเลอร์ขนยาเสพติดใส่ตู้คอนเทนเนอร์ขับผ่านในพื้นที่จ.นครสวรรค์ นำยาเสพติดไปส่งต่อในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ต่อมาเวลา 14.10 น. พบรถต้องสงสัยทะเบียนหมวดจังหวัดสมุทรปราการ ตรงกับที่ได้เบาะแสขับผ่านมาบริเวณถนนทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ต.ตะเคียนเลื่อน อ.เมืองนครสวรรค์ ชุดจับกุมสกัดจับและตรวจค้นพบของกลางยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ ดัดแปลงช่องลับโดยนำแผ่นเหล็กมากั้นแยกเป็นผนังแยกเป็นห้องอีกชั้นหนึ่งเพื่อใช้ในการอำพรางและปิดบังเจ้าหน้าที่ขณะขนยาเสพติด
สอบสวนนายพิษณุรับสารภาพ เคยขับรถบรรทุกสิบล้อขนส่งสินค้ามา 10 ปี ลาออกจากงานมาประมาณ 3 ปี ต่อมาได้รับการว่าจ้างขับรถเทรลเลอร์ให้บรรทุกเครื่องสุขภัณฑ์และน้ำดื่มไปส่งบริเวณชายแดนทางภาคเหนือ รวมทั้งได้สำรวจเส้นทาง ก่อนรับจ้างขนยาเสพติดจากชายแดนทางภาคเหนือ ใช้ตู้คอนเทนเนอร์ที่ดัดแปลงช่องลับเพื่อซุกซ่อนยาเสพติด
ทำมาแล้ว 5 ครั้ง นำยาเสพติดมาพักเก็บไว้ที่โกดังพื้นที่ภาคกลางกอ่นกระจายให้แก่ลูกค้าในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ได้ค่าจ้างครั้งละ 100,000 -200,000 บาท ส่วน
นายณัฐวุฒิ ให้การรับสารภาพว่า เคยขับรถบรรทุกหกล้อห้องเย็น ปัจจุบันไม่ได้ทำงาน นายพิษณุติดต่อให้มาช่วยขับรถเทรลเลอร์สลับสับเปลี่ยนกันเพิ่มขนยาเสพติดเป็นครั้งแรก ส่วนเงินค่าจ้างยังไม่ได้เพราะถูกตำรวจจับเสียก่อน นำตัวส่งบช.ปส. ดำเนินคดี และขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป
