วันที่ 22 ม.ค.เวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1
ร่วมกัน แถลงชุดสืบสวนนำโดยพ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี ผกก.สส.1บก.สส.บช.ภ.1 จับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายลักลอบค้าซากสัตว์ป่าข้ามชาติ ประกอบด้วย นายกะต่าย สีสุวัน อายุ 28 ปี ชาวลาว นายวราพงศ์ อายุ58 ปี ชาวไทย นายเหงียน วัน เฮิบ อายุ 39 ปี ชาวเวียดนาม และนายธรรมนูญ ชาวไทย
พร้อมยึดของกลางเป็นซากสัตว์ป่า อาทิ เล็บของหมีขอ 1,666 ชิ้น จากหมี 83 ตัว กะโหลกเสือ 4 ชิ้น มูลค่ากว่า 8ล้านบาท
พฤติกรรมกล่าวคือ ชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่าจะมีการลักลอบขนซากสัตว์ส่งออกนอกประเทศ โดยจะนำกระเป๋าบรรจุซากสัตว์โดยสารไปกับรถโดยสารประจำทางระหว่างประเทศ
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19มกราคม 2562 เวลาประมาณ 16.00 น. ทราบว่ากลุ่มขบวนการได้นำซากสัตว์บรรจุกระเป๋าเดินทางส่งไปกับรถโดยสารประจำทางสาย กรุงเทพ-ปากเซ
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เรียกตรวจสอบรถคันดังกล่าวที่หน้าตู้บริการตำรวจทางหลวงวังน้อย ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
ผลการตรวจค้นพบกระเป๋าวางอยู่บริเวณช่องเก็บของด้านหน้าหน้าคนขับ สอบถามพบว่า นายกะต่าย สีสุวัน ชาวลาว ผู้ต้องหา รับว่าเป็นผู้รับกระเป๋าใบดังกล่าวมา โดยมีชายชาวเวียดนามชื่อมิ้นฯ เป็นผู้ประสานงานในการรับฝากและให้นำไปส่งให้กับชายชาวลาว อายุประมาณ 30 ปี ที่จะมารอรับกระเป๋าอยู่ที่ ปากเซ
นอกจากนี้ยังขยายผลจับกุมนายวราพงศ์ ชาวไทย และนายเหงียน วัน เฮิบ ชาวเวียดนาม ที่ทำหน้าที่จัดเก็บและบรรจุจัดส่ง ซากสัตว์ป่า
พร้อมทั้งตรวจค้นบ้านนายธรรมนูญ นายทุนที่รวบรวม ซากสัตว์ป่าต่างๆ และตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลื้อยคลานได้แก่ ซากเต่ากระ 2 ซาก และซากเต่าตนุ 1ซาก ไว้เพื่อตรวจการอนุญาตครอบครอง
ทั้งนี้การ สืบสวนทราบว่า เครือข่ายดังกล่าว ลักลอบส่งซากสัตว์ป่าออกนอกประเทศมาแล้วไม่น้อยกว่า10ครั้ง ส่วนเล็บหมีจะนำไปทำเครื่องราง และเครื่องประดับ จะมีราคาสูงถึง5 เท่า