PCT 5 ร่วมกับ บูรพา 491 เปิดปฏิบัติการตัดวงจรขบวนการส่งคนไทยข้ามแดนไปทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์
วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร (PCT) มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 นำทีม ตำรวจ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 ร่วมกับ กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 หรือ “บูรพา491”
พ.ต.อ.สหัส ใจเย็น รอง ผบก.สส.บช.ภ.2 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2
พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สืบสวน ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.ธนเสฏฐ์ ประชาชัยศรีผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.2 พ.ต.ต.มาโนชย์ ทองแก้ว สว.กก.3 บก.สส.ภ.2 , พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ เสวกวัง สว.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวนฯ บก.ปส.3
ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ , ร.ต.อ.ปรมา ปราณี รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 , ร.ต.อ.วุฒินันต์ คงดี รอง สว.กก.1 บก.สส.ภ.2 , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 , ร.ต.อ.หญิง ธิดารัตน์ ผดุงประเสริฐ รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.ภ.2 กับพวกชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 เปิดปฏิบัติการตัดวงจรขบวนการส่งคนไทยข้ามแดนไปทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ใช้แผนให้สายลับอำพรางติดต่อเข้าสมัครไปเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ จากนั้นเฝ้าติดตามพฤติกรรมที่ขบวนการดังกล่าวมารับตัวสายลับพาไปข้ามแดนอย่างผิดกฏหมาย
โดย กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 หรือ “บูรพา491” ได้ขับรถไล่ติดตามรถคนร้ายและได้ใช้ยุทธวิธี “คาร์บล็อก” หยุดรถคนร้ายขณะกำลังนำพาตัวสายลับไปยังช่องทางธรรมชาติใน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว บริเวณถนน สุวรรณศร มุ่งหน้าไปทางชายแดนไทย-กัมพูชา ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ตรวจค้นพบ นายอรรถชัย อายุ 30 ปี ชาว อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เป็นผู้ขับขี่รถกระบะ อีซูสุ สีขาว ทะเบียน บบ 7208 สระแก้ว เจ้าหน้าที่จับกุมพร้อมแจ้งข้อหา “ร่วมกันใช้อุบายหลอกลวง พาหรือส่งคนออกไปนอกราชอาณาจักร” จับกุมตัวได้ที่ พร้อมยึดรถที่ใช้ในการกระทำความผิดไว้เป็นของกลางในคดี
ตรวจสอบประวัตินายอรรถชัย พบว่าเคยถูกดำเนินคดีมาแล้วดังนี้
– 15 ก.ค. 51 ถูกดำเนินคดีข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1” ท้องที่ สภ.คลองลึก
– 14 เม.ย. 54 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ขับขี่รถยนต์สาธารณะ หรือจยย.สาธารณะ แล้วเสพ เมาสุรา ของมึนเมา หรือ ขับรถในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ” ท้องที่ สภ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
– 17 พ.ค. 65 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันมั่วสุมในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ หรือกระทำการอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนหรือกลั่นแกล้งเพื่อแพร่เชื้อโรค ณ ที่ ใดๆทั่วราชอาญาจักร,ร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร” ท้องที่ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว
– 10 มิ.ย. 65 ถูกดำเนินคดีข้อหา “นำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” ท้องที่ สภ.คลองน้ำใส จ.สระแก้ว
ในชั้นจับกุม นายอรรถชัย รับสารภาพว่า “วันนี้ได้รับการประสานงานจากผู้ร่วมขบวนการที่อยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา ให้มารับคนไทยไปข้ามพาข้ามไปประเทศกัมพูชา โดยจะพาไปข้ามทางช่องทางธรรมชาติ เป็นลำคลองเล็กๆเรียกกันว่า คลองบ้านตาโจ๊ย ใกล้วัดป่าหนองเอี่ยน โดยจะมีเรือพายพาข้ามแดนไปและจะมีคนจากประเทศกัมพูชามารับช่วงต่อ
ยอมรับว่าตนเองรับประสานส่งไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์แบบนี้หลายแก๊งแล้ว และรับจ้างเช่นนี้ตกเดือนละประมาณ 15-20 คน ได้รับค่าจ้าง 6,000 บาท ต่อคน ล่าสุดเพิ่งถูกจับกุม อยู่ในระหว่างการประกันตัวสู้คดี แต่ก็กลับมาทำอีกเพราะทำจนชินไม่รู้จะไปทำงานอะไร”
จากการขยายผลขบวนการดังกล่าวพบพยานหลักฐานความเชื่อมโยง ศปอส.ตร. (PCT) ชุด 5 ได้รวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ออกหมายจับไว้อีก 2 ราย คือ
1.น.ส.รุ่งฤดี อายุ 38 ปี ชาว อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ จ.415/2565 ลงวันที่ 27 ก.ค. 65 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมเป็นอั้งยี่ , ร่วมกันเป็นซ่องโจร , ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ , ร่วมกันโดยทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” จับกุมตัวที่ XX
2. นายพงษ์ธนา อายุ 36 ปี ชาว อ.อรัญประเทศ ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ จ.416/2565 ลงวันที่ 27 ก.ค. 65 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมเป็นอั้งยี่ , ร่วมกันเป็นซ่องโจร , ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ , ร่วมกันโดยทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” จับกุมตัวที่ XX
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2/หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 กล่าวว่า
“วันนี้ผมเป็นตัวแทนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ท่านให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะเป็นอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนไทยมากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ใช้มาตรการที่หลากหลายทุกมิติในการทำสงครามกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
มิตินี้เราจะตัดการลำเลียงคนข้ามไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เราได้ขยายผลจนทราบผู้ร่วมขบวนการนี้ทั้งหมดแล้ว ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับไว้แล้ว
ขอเตือนประชาชนคนไทยที่ว่างงานอยู่ กำลังมองหางานตามเฟสบุ๊คเพจหางานต่างๆ หากเป็นงานที่ต้องไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่จะบอกว่าเป็น admin แต่เมื่อ walk-in ไปแล้วก็เป็น call center ซะส่วนใหญ่ และเมื่อใดที่ไปเข้าร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้ว คุณจะกลับประเทศมาเยี่ยงอาชญากร มิใช่เหยื่อ”