บูรพา 491 ร่วมกับสืบระยอง จับกุมบังซีนอ้างเป็นตำรวจปล้นทรัพย์และกระทำอนาจารผู้เสียหายหญิงกลางเมืองชลบุรี
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 65 เวลาประมาณ 17.30 น พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.ระยอง
พ.ต.อ.สหัส ใจเย็น รอง ผบก.สส.บช.ภ.2 พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สืบสวน ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก. บก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.มาโนต หวังสู้สึก ผกก.สืบสวน 1 พ.ต.อ.อิทธิกร จิรัตนานนท์ ผกก.ปพ. บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.ประจักษ์พงษ์ สุริยา รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.สุริยะ โพธิ์ทองนาค รอง ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.2 พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.1 บก.สส.ภ.2 และชุดบูรพา 491 กับ กก.1 บก.สส.ภ.2
ชุด PCT ปฏิบัติการที่ 5 พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ จงเจริญ สว.(สอบสวน) สน.บางกอกใหญ่ , พ.ต.ต.สุริยะ น้อยภักดี สว.(สอบสวน) สน.เตาปูน ร.ต.อ.วุฒินันท์ คงดี รอง สว.กก.1 บก.สส.ภ.2 , ร.ต.อ.ปรมา ปราณี รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2, ร.ต.อ.ภัสส์กร เฉลียวบุญ รอง สว.สส.สภ.บางปะกง , ร.ต.ท.พุฒิพงศ์ กองแก้ว รอง สว.ฯ
ร่วมกันจับกุมนายซัยยิดมุฮ์ซิน หรือบังซีน อายุ 29 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดระยอง ที่ จ.190/2565 ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2565 ได้ที่ซีซ่าร์ รีสอร์ท เลขที่ 89/8-9 ห้อง 206 หมู่ 1 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี
ของกลาง
1.อาวุธปืนยี่ห้อ CZ สีทอง-เงิน หมายเลขประจำปืน 28480 ขนาด 6.35 มม. 1 กระบอก
2.แม็กกาซีน 1 อัน
3.ลูกกระสุนปืน ขนาด 6.35 มม. 5 นัด
โดยกล่าวหาว่า “ปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธ,แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น ,มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่ ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร
,เข้าไปกระทำการรบกวน การครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข ,กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆหรือใช้กำลังประทุษร้าย ,ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น”
พฤติการณ์กล่าวคือเมื่อวันที่ 24 ก.ค.65 เวลาประมาณ 11.00 น. ขณะ นายณัฐพล , นายพิศุทธิ์ ขอสงวนนามสกุลและ น.ส. เอ นามสมมติ ผู้เสียหายกับพวก มาเที่ยวพักผ่อนอยู่ที่โรงแรมดิออเรียลทัลบีชรีสอร์ท พูลวิลล่า ต.ซากพง อ.แกลง จ.ระยอง
มีคนร้ายเป็นชาย 3 คน แต่ละคนมีอาวุธปืนพากันบุกเข้ามาในที่พักแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจขอตรวจค้น นายซัยยิดมุฮ์ซินฯ เป็นหนึ่งในคนร้ายที่ก่อเหตุ ได้แสดงตนเป็นตำรวจขอค้นตัว น.ส.เอ บนชั้นสองของที่พักและได้ใช้มือลูบที่อวัยวะเพศของ น.ส.เอฯ
ส่วนคนอื่นได้ถูกบังคับให้ไปรวมกันอยู่กลางห้องรับแขก คนร้ายคนที่สองได้ใช้ไม้คมแฝกตีทำร้าย นายรัฐพลฯ และใช้ปืนทุบตีที่แผ่นหลัง คนร้ายคนที่สามได้เข้าไปในห้องนอนของ นายพิศุทธิ์ฯ ใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้ออกจากห้องมารวมกับคนอื่น แล้วเข้าไปรื้อค้นห้องและทรัพย์สิน ได้เงินสดไปจำนวน 320,000 บาท แล้วหลบหนีไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 กล่าวว่า
“เป็นคดีอุกฉกรรจ์โดยคนร้ายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ และกระทำอนาจารเหยื่อเป็นผู้หญิง เป็นคดีที่สนใจต่อประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออก
เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันหลายฝ่ายได้สืบสวนจากกล้องวงปิดตามโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 ( Smart Safety Zone 4.0 ) ของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงสามารถสืบสวนจนทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุเพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยในพื้นที่ “
ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน/จับกุม รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่าคนร้ายคือ นายซัยยิดมุฮ์ซิน อายุ 29 ปี และได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดระยอง
ก่อนวางแผนจับกุม ได้ตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องหา พบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมชอบสะสมอาวุธปืน และชอบยิงปืนเป็นประจำ มีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ชุด PCT 5 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัวด้วยความรวดเร็ว พร้อมใช้หลักยุทธวิธีและยึดถือความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
ชั้นจับกุม ให้การ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2565 ผู้ต้องหาทราบข่าวว่า น.ส.ไอลดา สงวนนามสกุล แฟนของตน ถูกข่มเหงโดยหนึ่งในกลุ่มของผู้เสียหาย
ผู้ต้องหาได้เดินทางจากกรุงเทพฯ มาที่ห้องพักกลุ่มผู้เสียหาย ที่ จ.ระยอง เพื่อจะมาช่วยแก้แค้นให้แฟนของตน โดยให้แฟนของตนมาชี้ตัวผู้ก่อเหตุข่มขืน ได้เดินทางไปพร้อมกับพวกอีก 4-5 คน ได้พกพาอาวุธปืนไปที่เกิดเหตุด้วยเพื่อป้องกันตัว เพราะกลุ่มผู้เสียหายมีชายฉกรรจ์อยู่จำนวนหลายคน
แต่เมื่อไปถึงจึงทราบว่า คนที่ข่มเหงแฟนสาวของตนนั้นได้หลบหนีไปแล้ว ผู้ต้องหากับพวกจึงได้กลับบ้านไป”เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัว นายซัยยิดมุฮ์ซิน สาเอ็ดอามิ ผู้ต้องหา พร้อมของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านกร่ำ จังหวัดระยอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 กล่าวว่า
“เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่อุกฉกรรจ์ และสะเทือนขวัญต่อประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งผมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนติดตามจับกุมเพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยและความสงบสุขในพื้นที่ และขอให้คนที่คิดร้ายหรือจะกระทำผิดกฎหมายอย่าได้คิดที่จะก่อเหตุ และล้มเลิกความคิดดังกล่าว เพราะหากกระทำความผิดแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปล่อยให้ลอยนวลและติดตามจับกุมอย่างทันท่วงที