สืบสุพรรณตามรวบ ”ไอ้โอ๊ต สามชุก“ หึงโหดยิงแฟนใหม่อดีตเมียเก่าดับคารถ
วันที่ 11 ตุลาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.สมพร พุกหอม รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี รรท.ผกก. สภ.สามชุก พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว. สุพรรณบุรี
สั่งการให้ พ.ต.อ.พีระ อัศวพิบูลย์ผล ผกก.สืบสวน ภ.จว. สุพรรณบุรี พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ ราศรี รอง ผกก.สส.สภ.สามชุกพ.ต.ท.ประยุทธ ชูเมือง สว.กก.สส.ฯ ร.ต.อ.ไชโย อินพรม รอง สว.กก.สส.ฯ ร่วมกับ สืบสวน สภ.สามชุก สืบสวน กก.2 บก.สส.ภ.7
เร่งคลี่คลายกรณีนาย ภูริวัฒน์ หรือ บิ๊ก รัตนปาน อายุ 31 ปี ถุกยิงเสียชีวิตอยู่บนรถยนต์กระบะ ทะเบียน ผข 4049 สุพรรณบุรี ริมถนนหน้าบ้านเลขที่ 101/1 ม.8 ต.กระเสียว อ.สามชุก เมื่อค่ำวันที่9ต.ค.68
สอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนาย กรฤทธิ์ หรือ “โอ๊ต” อายุ 23 ปี ชาว ต.กระเสียว อ.สามชุก จึง.สุพรรณบุรี หลังก่อเหตุขับรถกระบะอีซูซุ แคป สีขาว ทะเบียน บน 1336 อ่างทองหลบหนี ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรีเร่งติดตามจับกุม
พ.ต.อ.พีระ อัศวพิบูลย์ผล ผกก.สืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายภูริวัฒน์ หรือ บิ๊ก ผู้ตายขับรถยนต์พา น.ส.นิ้ง อายุ 24 ปี แฟนสาวอดีตเคยเป็นแฟนของนายโอ๊ต มารับรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ใกล้บ้านนายโอ๊ต ซึ่งเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมานายโอ๊ตใช้ค้อนทุบนายบิ๊กบาดเจ็บ แจ้งความไว้ที่ สภ.ทุ่งคลี อ.เดิมบางนางบวช จว.สุพรรณบุรี
จากการสอบสวนเพิ่มเติมทราบว่า ทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงกันภายในบ้าน นายกรฤทธิหรือ โอ๊ต ใช้ปืนยิง นายภูริวัฒน์ หรือ บิ๊ก 1 นัด เข้าที่แขนซ้าย ก่อนจะวิ่งหลบหนีออกมา
น.ส.นิ้งพยายามขับรถพานายบิ๊กไปส่งโรงพยาบาล แต่ขณะขึ้นรถ ประตูรถเปิดค้างติดเสาไฟฟ้า นายโอ๊ตวิ่งตามออกมาใช้ปืนยิงซ้ำอีก 1 นัด เข้าหน้าอกด้านซ้ายเสียชีวิตภายในรถ
ต่อมาชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรีและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามชุก ตามจับนายกรฤทธิ หรือ โอ๊ต ได้ที่ริมถนนเส้นทางตลาดบ้านทึง-หนองบัวทอง ม.4 ต.กระเสียว อ.สามชุก จว.สุพรรณบุรี ควบคุมตัวมาสอบสวน
เบื้องต้นสารภาพ ก่อเหตุจริงเนื่องมาจากสาเหตุหึงหวงอดีตภรรยาเก่าและมีปากเสียงกับนาย ภูริวัฒน์ หรือ บิ๊ก ผู้ตายมาก่อน จึงใช้ปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ก่อเหตุ และนำไปซุกซ่อนอยู่บริเวณหลังบ้านตน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเก็บไว้เป็นหลักฐาน
กล่าวหาว่า “ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ”
