ยาเสพติดยังเป็นมะเร็งร้ายเกาะกินสังคมไทยอย่างไร้ยารักษายิ่งจับเท่าไหร่ดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นทุกที
การจับกุมของตำรวจทหารจากต้นทางชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเหนือประเทศไล่ไปจนสุดทางชายแดนใต้ปริมาณการจับกุมชนิดบิ๊กล็อตมีให้เห็นตลอด
ยาบ้ายาไอซ์จากสมัยก่อนจับที1ล้านเม็ดไอซ์10โลกลายเป็น5ล้านเม็ด10ล้านเม็ดไอซ์เพิ่มเป็นร้อยเป็นตันกิโลในสมัยนี้
ต้องให้กำลังใจตำรวจทหารไทยกันช่วยสกัดจับยานรกเหล่านี้กันต่อไปถึงแม้จะรักษาไม่หายขาดแต่ก็ระงับไว้ได้บ้าง
วันนี้ขอนำเสนอ1นักปราบยาเสพติดอีกคนครับพล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผบช.ภ.5 ผมเคยมีโอกาสนั่งคุยหลายครั้งตั้งแต่สมัยชื่อดินัย
มาย้อนอ่านบันทึกเสี้ยวชีวิตของพี่เขาสมัยเป็นผู้การปส.3 เกี่ยวกับเรื่องพระเรื่องเครื่องรางที่นายพลสีกากีคนนี้ใช้ติดตัวกันครับ
อดีตชาติ..เหมือนทหารพระนเรศวร
ยาเสพติดกับตำรวจ ช่วงนี้กำลังฮอต
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสำคัญผิดของตำรวจสน.บางชัน ที่พลาดไปยิงรถนิสิตจุฬาฯ จนต้องโดนขังคุกไป30 วัน
ฉาวโฉ่ที่สุดคือ รองผกก.มือปราบยาเสพติด เป็นถึงวิทยากรสอนวิธีจับกุม แต่สุดท้ายกลับทนกลิ่นเย้ายวนของเงินยานรกไม่ไหว ตกบ่วงเข้าไปเต็มปลักอย่างที่เห็นเป็นข่าว
มันคือสัจธรรมดีๆ ในสังคมคนส่วนใหญ่ ต้องมีคนดีคนเลวปะปน แต่สิ่งที่สุจริตชนคาดหวังไว้นั่นก็คือ ขอให้คนดีมีมากกว่าคนเลว และคนดีต้องพร้อมที่จะสนับสนุนคนดีมาดูแลบ้านเมือง สังคมถึงจะอยู่ได้ เดินหน้าต่อไปได้
ครับ…เมื่อคุยในเรื่องของยาเสพติด ขอนำเสนอ 1 ในตำรวจผู้อยู่เบื้องหลังการก่อตั้ง บก.สกล.บช.ปส. (กองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด)
พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ผบก.ปส.3 บช.ปส.
ผลงานจับกุมมากมายให้กับ บช.ปส.มาอย่างต่อเนื่อง
ประวัติคร่าวๆ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 35 รุ่นเดียวกับ เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ศรีวราห์ รังสิพรามหณกุล ฉัตรไชย เรียนเมฆ สุเทพ ชนะสิทธิ์ วชิระ สร้อยศรี
มีโอกาสได้คุยกันกับนายพลนักปราบยาเสพติดผู้นี้ จึงไม่พลาดที่จะล้วงลึกคุยถึงพระในคอ ผู้การภาณุเดชเล่าว่า
“ต้นตระกูลผมเป็นชาวไร่ชาวนา อยู่ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ไม่มีพระบูชาอะไร เรียกว่าไม่มีเลย
แล้วไม่เคยแสวงหา ไม่เคยไปกราบไปหาพระเกจิอาจารย์ที่ไหน ไม่สัก ไม่ขอผ้ายันต์ ไม่ขอตะกรุด อะไรทั้งสิ้น……..”
แต่พอโตมาเป็นตำรวจ มีผู้หลักผู้ใหญ่ให้มา เพราะเห็นว่าเราทำงานเสี่ยงชีวิต เสี่ยงอันตราย ก็ถือว่าเป็นของมงคล
ประกอบกับนับถือศาสนาพุทธ เมื่อมีสิ่งของที่เป็นมงคลติดตัว จึงนำมาเป็นเครื่องเตือนใจ เป็นความผูกพัน อุ่นใจ เหมือนมีคุณความดี มีคุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง
ไปไหนมาไหนก็กราบอาราธนาท่าน มีบทอาราธนาพระ ก่อนสวมที่คอ ถอดจากคอ แต่ไม่ได้เน้นเรื่องพุทธคุณ และไม่มีคาถาจับโจรอะไร
ณ ตอนนี้ที่สวมใส่อยู่คือ เหรียญจักรพรรดิ์ ปี 15 เหรียญพระนเรศวรออกศึก ปี 07 พระสมเด็จหลวงปู่โต๊ะ และหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์
จริงๆ มีพระพุทธชินราชทองคำอีกองค์ด้วย ผู้ใหญ่เมตตาให้ไว้ติดตัว
เหรียญจักรพรรดิ์ ปี 15 ใส่มาตั้งแต่รับราชการใหม่ๆที่พิษณุโลก ใส่สลับกับเหรียญพระนเรศวรออกศึก ใส่มาตั้งแต่เด็ก
ทั้ง 2 เหรียญนี้ผูกพันมาก ถึงแม้จะเกิดที่ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ แต่มาเรียนจบที่โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม โรงเรียนนี้อยู่ในวังจันทร์ สถานที่พระราชสมภพของพระนเรศวรมหาราช
พอจบมารับราชการครั้งแรกก็ที่พิษณุโลกอีก จากนั้นย้ายไปรับราชการที่ จ.เชียงใหม่ วนเวียนอยู่ในเชียงใหม่
ที่ว่าผูกพัน เพราะขึ้นเป็นผู้กำกับครั้งแรกที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ มีพระสถูปพระนเรศวรอยู่ที่นั่น
ไปอยู่ก็ทำงานรบราฆ่าฟันกับคนชนเผ่าที่ค้ายามามากมาย เคยทำบังสกุล เอาเฉพาะที่จำชื่อนามสกุลมันได้เนี่ย 52 ศพ
เหมือนกับเราเป็นทหารในอดีตชาติ เหมือนเป็นทหารสมเด็จพระนเรศวร เหมือนเป็นภาระอย่างนั้นจริงๆ
จนอายุขนาดนี้ อายุ 54 ปีแล้ว ยังต้องลงสนามอยู่
ก่อนจากกัน นายพล บก.ปส.3 บอกว่า จริงๆแล้ว จิตใจผมไม่ได้เป็นคนเหิมเกริม ไม่ได้เหี้ยมเกรียม
มันเป็นหน้าที่ เพราะผมเป็นข้าราชการ อยู่ในวงการบังคับใช้กฎหมาย ใช้อาวุธ
Cop’s Magazine Vol.09 No.97 2014.09
ปัจจุบันตำแหน่ง รองผบช.ภ.5