หลังการเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ของด.ต.อนันต์ มีแสง ผบ.หมู่ กก.6บก.ป.ในการยิงปะทะกับแก๊งคนร้ายหลายหมายจับอย่างไอ้ฉุย เขาจันทร์ หรือนายจำรัส รักจันทร์ ที่จ.พัทลุง เมื่อวันที่9มี.ค.65
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรง ใส่เสื้อเกราะถือปืนลงไปไล่ล่าจับกุมด้วยตัวเอง ใช้ยุทธวิธีทุกรูปแบบ ปล่อยข่าวส่งกำลังปิดล้อมป่าที่พัทลุง และสงขลา กดดันไอ้ฉุย หัวหน้าแก๊ง
จนหลงกลออกจากป่ามาให้จับถึงกรุงเทพ ภาพบิ๊กก้อง ในการนำชุดหนุมานบุกเข้าจับไอ้ฉุยด้วยตัวเองจึงปรากฎเมื่อเช้าวันที่25มี.ค.65
วันนี้มาดูกัน พล.ต.ท.จิรภพ ใช้อะไรเป็นยุทธวิธีและเขี้ยวเล็บติดตัว ในการบุกจับโจรฆ่าตำรวจแก๊งนี้
เป็นบทสัมภาษณ์เมื่อครั้งเพิ่งขึ้นจากผู้การกองปราบฯเป็น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมาใหม่ๆ
ชาร์จให้เร็ว ล็อกให้ได้ ไม่เน้นปะทะ
policenewsvarieties.com/ปืนรางวัล-เดอะก้อง-จิรภพ/
ว่ากันต่ออีกตอนสำหรับนายพลนักสืบ รองก้อง-พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช นายตำรวจที่ให้ความสำคัญกับชีวิตผู้ปฏิบัติในภาคสนาม
พล.ต.ต.จิรภพเล่าว่า
ส่วนหนึ่งผม ขอ ตร.จัดทำสนามยิงปืน “ชัยจินดา” ที่มีแบบซิมูเรเตอร์ ในนั้นจะมีเหตุการณ์เป็นพันๆ เหตุการณ์ เหมือนกับว่าไปเจอคนร้ายจี้ตัวประกัน ไปเจอบนรถเมล์ เปิดประตูเข้าไป เจอคนร้ายชักปืนเข้ามา
อันนี้ไม่เหมือนไอดีบีเอ เพราะไอดีบีเอ อยู่ในสนามยิงปืน มีเป้าจัดเป็นสเตท แต่อันนี้เป็นภาพบนจอ เหมือนมีโปรเจ็กเตอร์ ยิงเข้ากำแพง แล้วเราเอาปืนยิง เป็นสถานการณ์
พอมันโผล่มาปุ๊บเนี่ย ถ้าเป็นคนธรรมดา ก็อย่าไปยิง ห้ามยิง แต่ถ้าเป็นคนร้าย ต้องรีบยิงให้เร็ว ถ้ายิงไม่เร็ว มันก็ยิงเราตาย ก็ทำแบบนี้
เราเอาปืน ที่เราใช้ทำงานนี่เลย ยิงใส่จอ เป็นภาพในกำแพงกันกระสุน เราก็ยิงใส่คนร้าย กระสุนนี่กระสุนจริงเลย ปืนที่เราใช้ปฏิบัติหน้าที่เลย อย่างนี้ มันจะทำให้ตำรวจเราตัดสินใจได้เร็ว
ในยุคสมัยปัจจุบัน ผมว่าคนร้ายมันกล้ายิงตำรวจมากกว่าเดิม ถ้าเทียบกับสมัยโบราณ
เพราะฉะนั้นยุทธวิธีเราก็ต้องมากขึ้น ผมว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ผมไม่อยากให้ตำรวจกองปราบ ต้องเสียชีวิต หรือบาดเจ็บในระหว่างปฏิบัติหน้าที่
ส่วนตัวผมจบจากโรงเรียนนายร้อยมา ก็ใช้ปืน Glock คือครั้งแรกเลยได้ปืนกระบอกนี้มา แต่ว่าเวลาปฏิบัติหน้าที่จริง อยากได้ปืนที่มันกระชับๆ พกพาง่าย ลูกดกหน่อย ยิงเร็ว ก็ใช้ Glock 26 เพราะมันเล็ก พกพาง่าย เพราะเราไม่ได้ยิงประจำ
เราพกเพื่อป้องกันตัว เอาไว้ทำงาน เน้นน้ำหนักเบาไว้ก่อน แล้วGlockมันก็ดูแลง่าย โดนฝุ่น โดนน้ำ ตกไปก็ไม่เป็นไร ผมว่ามันลุยดี ก็ใช้มาตลอด
พอโตมา เป็น ผกก.ก็เริ่มใช้ STI Marauder ลูกดกกว่าเดิม มีประมาณ 20 นัด ขนาด 9 เหมือนเดิม 2 แถว 20 นัด แล้วมาตรฐานกว่า กริ๊ปง่ายกว่า จะกระบอกใหญ่หน่อย ผมไว้เฉพาะเวลาลงงาน อุปกรณ์พร้อมต่อสู้
อย่าง Glock 26 จะพกเวลาไปไหนมาไหน แต่ถ้าลงงานปุ๊บ จะใช้กระบอกใหญ่ เช่น เวลาจะไปตรวจค้น จับกุม
ปืน Backup ก็มีสำรองไว้ มี Baretta.22 ไว้บางภารกิจ เพราะว่าลูก .22 โอกาสที่มันจะค้างจะอะไร มันก็มีโอกาส มันเล็ก แรงขับมันน้อย
ถึงตอนนี้ก็ยังใช้ STI รุ่นทรีกันส์ คนแนะนำก็คือ ผู้การเอ็ม(พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ุม่วง)
หลักใช้ปืน ส่วนตัวอย่างที่บอกไปแล้ว พกก็เบาๆหน่อย ถ้าลงงานก็ต้องระวัง ถ้าถึงขั้นการใช้ปืนตอบโต้คนร้ายนั้น คือผมจะพยายามให้เกิดการปะทะน้อยที่สุด ด้วยหลักที่ผมทำงานตั้งแต่เด็กๆ คือชาร์จให้เร็ว คือถ้าเราวางแผนดี ชาร์จเร็ว โอกาสปะทะมีน้อย
แต่เราต้องพร้อม คือถ้าสมมติว่าเข้าจุดก็เอาปืนSTI ขึ้นลำเลย เซฟ เตรียมปะทะ เสื้อเกราะ ต้องใส่ให้เรียบร้อย
แต่ใจไม่อยากให้ปะทะ อยากให้ชาร์จให้เร็วแล้วก็จบ นี่คือหลักที่ผมใช้ตั้งแต่รอง สว. ใช้หลักนี้ เข้าไปก็คว้ามือ คว้าปืน เคลียร์เอว เคลียร์ตัวให้เรียบร้อย
เคยจับตำรวจด้วย ตอนนั้นก็ขึ้นลำไว้เลย แต่ก็ชาร์จเร็วเหมือนกัน เป็นตำรวจขายยาอี ตอนนั้นพกปืนขึ้นลำ รอเลย ชื่อไอ้บอย เราเร็วกว่า เข้าไปถึงคว้าแขนเลย
สมัยนั้นเป็น รอง สว.ที่กองปราบ เข้าไปก็ล็อกเลย ที่แฟลตที่พักของเขา เขาออกมาจากห้องแฟนเขา ก็ไปดักรอ ไปซุ่มรอแถวๆบันไดหนีไฟ พอโผล่มาปุ๊บ ก็โดดชาร์จเลย อย่างนี้ นี่คือตัวอย่างทุกเคส
หลักคิดผมจะประมาณนี้ คือ ชาร์จให้เร็ว ล็อกให้ได้ มันก็จะไม่ปะทะ
ปัจจุบันเป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
โรนิน26/3/65
