เด้งผกก.เข้ากรุโทษฐานไม่รายงานเหตุอุฉกรรจ์ให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)วันที่ 23 พ.ค. มีรายงานว่า พล.ต.ต.ธีรพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 เซ็นคำสั่งที่ 123/2561 ลงวันที่ 21 พ.ค.61 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 61 เกิดเหตุคดีปล้นทรัพย์ในเขตรับผิดชอบของ สน.ประเวศ 3 ครั้ง ลักษณะการก่อเหตุต่อเนื่องในเวลาใกล้เคียงกัน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ไม่ได้รับรายงานเหตุคดีอุจฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ และเหตุที่ต้องรายงานด่วน ตามแบบที่กำหนด อันเป็นการบกพร่องในการรายงานเหตุไม่เป็นไปตามระเบียบกำหนด
ทำให้ผู้บังคับบัญชาไม่ทราบรายละเอียดของคดีดังกล่าว ทำให้รายงานผู้บังคับบัญชาล่าช้าเป็นเหตุให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงตำหนิมีข้อบกพร่องกองบังคับการตำรวจนครบาล ในเรื่องรายงานเหตุล่าช้า
ดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติราชการในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ และมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ จึงให้ พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล4 (ศปก.บก.4) มีกำหนด 7 วัน และให้รอง ผกก.ที่มีอาวุโสตามระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยการกำหนดลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจในการรักษาราชการแทน พ.ศ.2557 ทั้งนี้ตั้งแต่ 22 พ.ค.ถึงวันที่ 28 พ.ค.นี้
สาเหตุที่ผกก.สน.ประเวศ โดนย้าย มีรายงานว่า สืบเนืองจากวันที่ 8 พ.ค. เวลา 02.15 น. มีเหตุคนร้ายชาย 3 คน ใช้รถจยย. 2 คนใช้ปืนปล้นทรัพย์ต่อเนื่องติดกัน 3 คดี ในท้องที่สน.ประเวศ ระยะเวลาห่างกันแค่เพียงครึ่งชม. ได้แก่ ปล้นชิงรถจยย.ผู้เสียหาย บริเวณปากซอยอ่อนนุช 84
ปล้นพนักงานเติมแก๊ส ที่ปั๊มแก๊ส บริเวณซอยอ่อนนุช 67 ได้เงิน 60 บาท และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง
และปล้นทรัพย์รถจยย. เงินสด 300 บาท และโทรศัพท์มือถือราคา 12,000 บาท จากผู้เสียหายบริเวณถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ ฝั่งขาเข้า ย่านประเวศ กทม.
โดยเมื่อวันที่ 21 พ.ค. วันเดียวกับที่โดนคำสั่งเด้ง พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผบช.น. พล.ต.ต.ธีระพงษ์ ร่วมกับรองผบก.น.4 และผกก.ในสังกัดบก.น. 4 แถลงข่าวผลระดมกวาดล้างอาชญากรรมห้วงวันที่ 18-20 พ.ค.
พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ ได้แถลงผลงานจับกุมผู้ต้องหาปล้นทรัพย์ 3 รายซ้อน เป็นเยาวชนชาย 3 คน อายุ 17 ปีเท่ากัน พร้อมของกลางรถจยย. 3 คัน จับกุมทั้งหมดได้กลางซอย 4 หมู่บ้านพูนสินธานี 2 ซอยเคหะร่มเกล้า 39 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม.
ของกลางเป็นรถจยย.ของผู้เสียหายที่ถูกปล้นทรัพย์มา 1 คัน ส่วนอีก 2 คันผู้ต้องหาใช้ปล้นทรัพย์ โดยขโมยมาจากย่านลาดพร้าววังหิน และชิงทรัพย์มาจากลาดกระบังซอย 3
เป็นคดีเดียวกันกับที่ไม่ได้รายงานเหตุผู้บังคับบัญชาจนถูกย้ายดังกล่าว