รถเมล์ครีมแดงแล่นตะบึงช่วงค่อนสายของวันอันเย็นยะเยือก ลมกระพือตีพัดเข้าหน้าต่างรถยิ่งทำให้เย็นจับจิต
แม้ว่าแดดจะสาดส่องมากแต่ก็ไม่เพียงพอที่จะเพิ่มอุณหภูมิให้คลายความหนาวเย็นลงบ้าง ต้องรอให้ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ด้านหน้าลุกจากที่นั่งเสียก่อนจึงค่อยเอื้อมมือไปปลดล็อกกระจกหน้าต่างลงปิดสนิทกั้นกระแสลมที่โถมแรงเพิ่มความเย็นยะเยือกเข้าให้อีก
เสียงจากจอแอลซีดีที่ติดไว้ในรถด้านหลังโชเฟอร์ บอกให้ได้ยินทั่วทั้งห้องโดยสารรถเมล์ครีมแดงว่าถึงบริเวณ ไหนบ้าง ไม่ต่างจากรถไฟฟ้าบีทีเอสหรือรถไฟลอยฟ้าแต่อย่างใด นับว่าเทียบชั้นความทันสมัยในการขนส่งมวลชนไม่น้อยหน้ากัน
จนเมื่อรถเมล์สายนี้ถึงจุดหมายที่จะต้องลง ข้าพเจ้ารีบลุกจับราวเดินไปยืนรอตรงหน้าประตูทางลงรถเมล์ให้ทันอกทันใจของโชเฟอร์และกระเป๋ารถเมล์ ไม่ยักแย่ยักยันให้ใครรำคาญตารำคาญใจ ก้าวเดินข้ามสะพานลอยไปทางหน้าวัดใหญ่ในย่านนั้น
ไม่ได้จะเข้าไปไหว้พระทำบุญทำทานอะไรหรอก เพียงแค่ขอใช้บริการห้องน้ำสาธารณะบ้างเท่านั้นเอง เพราะข้างนอกวัดไม่มีให้บริการผู้คนทั่วๆไป
จังหวะนั้นเดินผ่านรถเมล์เล็กสีแดงที่เคยต่อรถกลับบ้านเสมอ นึกขึ้นได้มีเศษเหรียญสิบบาท
แต่ถ้ายอมเสียเวลาสักยี่สิบนาทีเดินราวสองสามกิโลเมตรไปถึงปากซอย เงินค่าโดยสารรถเมล์เล็กสองแถวแปดบาทสามารถแปรเปลี่ยนเป็นปาท่องโก๋ซาลาเปาเจ้าประจำที่ตั้งรถเข็นทอดร้อนๆอยู่ปากทางซอยเข้าหมู่บ้านได้ถึงแปดตัวทีเดียว
อย่ากระนั้นเลยยอมเสียเวลาเมื่อยแข้งเมื่อยขาฝ่าลมเย็นไปดีกว่า จะได้มีปาท่องโก๋ซาลาเปาที่ทอดใหม่แป้งนุ่มเหนียวอร่อยที่สุดบนถนนสายนีไ้ว้ฉีกเคี้ยวกินแกล้มกาแฟอินสแตนท์คอฟฟี่ราคาถูกได้อร่อยปากละมุนลิ้นดีกว่าจ่ายเป็นค่ารถสองแถวเสียอีกใช่ไหม
ถามเองตอบเองเสร็จสรรพมันใช่อยู่แล้ว
ยุคนี้พอศอนี้เศรษฐกิจปากท้องเป็นยังไงเป็นที่รู้รู้กันไม่ต้องบรรยายให้เยิ่นเย้อมากความเงินทุกบาททุกสตางค์มันหายากแค่ไหนสำหรับคนส่วนใหญ่
ยกเว้นคนที่รู้ช่องทางมีทักษะหาเงินในยุคดิจิทัลยุคทุกอย่างอาศัยช่องทางออนไลน์เป็นเส้นทางประกอบอาชีพ คนรุ่นเก่าที่ปรับตัวไม่ทันตกยุคสมัยย่อมจะลำบากและเสียเปรียบแทบทุกประตู
เราอยู่กับยุคที่เป้าหมายสูงสุดของมนุษย์คือเมคมันนี่ ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อกอบโกยเงินทองให้ได้มากที่สุด ถึงจะได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติยศศักดิ์ศรีเหนือคนทั่วไป
ความหมายของมนุษย์ไม่ได้วัดกันที่ความฉลาดความเก่งกาจความดีความมีคุณธรรมสูงส่งหรือสิ่งที่คนรุ่นบรรพบุรุษได้สร้างความหมายคำจำกัดความเสียแล้ว
ปัจจุบันมันอาจวัดกันได้ชัดเจนด้วยวัตถุ ทรัพย์ศฤงคาร บ้านคฤหาสน์ดุจเวียงวัง รถยนต์หรูสปอร์ตราคาเกินคุณค่าประโยชน์ใช้สอยอย่างเหลือประมาณเครื่องประดับเสื้อผ้าอาภรณ์ นาฬิกา แก้วแหวนสร้อยต่างหูกระเป๋าถือธรรมดาๆ ที่มนุษย์ยัดเยียดความเลิศหรูอลังการแต่งแต้มให้มันจนกลายเป็นศาสดาแห่งวัตถุให้ไขว่คว้ามาถือครองเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอวดร่ำรวยหรูเลิศสร้างสมบารมีความเคารพนับถือแทนความสามารถทางปัญญามันสมองของตัวเอง
ดังนั้นมนุษย์จึงไม่เห็นความสำคัญของใครจะเก่งกาจสามารถในการงาน ในศิลปะสร้างสรรค์ใดๆทั้งสิ้น พร้อมที่จะขับเคี่ยวแย่งยิงทรัพย์สินเงินทองกันอย่างไม่สนใจไม่อนาทรไม่สำนึกถึงคุณค่าของความเป็นคนเช่นบรรพบุรุษที่ก่ายกองทับถมเป็นโครงกระดูกเถ้าธุลีมาเนิ่นนาน
ข้าพเจ้าได้แต่คิดเรื่อยเปื่อยขณะเดินหิ้วถุงปาท่องโก๋เข้าซอยลึกอีกกีโลเมตรเศษ แต่ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าแต่อย่างใด เพราะอากาศเย็นสบายไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนไม่กี่วันก่อนหน้านั้น
ย้อนคิดถึงเรื่องแปลงเงินค่ารถสองแถวเป็นปาท่องโก๋ซาลาเปาครึ้มอกครึ้มใจเสียเงินไปแต่ได้กินของอร่อยมันก็คุ้มค่าพอสมควร ไม่เหมือนครั้งหนึ่งเข้าร้านตัดผมร้านหนึ่งในละแวกใกล้เคียง นั่งให้ช่างตัดเล็มผมที่เบาบางเหลือเกินแต่ยาวรกรุงรัง
เชื่อไหมไม่ถึงห้านาที จริงจริงไม่ใช่มุสาโป้ปดช่างตัดผมไถเล็มแผล็บเดียวแล้วปัดเศษเส้นผมบนศีรษะและบนไหล่เสื้อเล็กน้อย บอกว่าเสร็จแล้วข้าพเจ้ารู้สึกเป็นงงบ้าง ทำไมเสร็จเร็วจังเลย อย่างน้อยน่าจะสักสิบนาทียังพอทำเนา
จำใจควักเงินร้อยยี่สิบเป็นค่าตัดผมให้ช่างไปก่อนจะเดินออกจากร้านอย่างรู้สึกเสียดายเงินจำนวนนั้นเหลือเกิน พอถัดมาเมื่อเส้นผมของข้าพเจ้ายาวขึ้น ข้าพเจ้ารู้สึกไม่อยากเข้าร้านตัดผมอีกแล้ว
พอดีค้นในบ้านเจอปัตตาเลี่ยนไฟฟ้าตัวหนึ่งเลยเอาวะ จะไปเสียเงินร้อยยี่สิบทำไม แถมเสียความรู้สึกอีกด้วยอย่ากระนั้นเลย ตัดผมตัวเองก็ได้ ค่อยค่อยเล็มทีละน้อยอย่างระมัดระวังไม่ให้คมกรรไกรปัตตาเลี่ยนกินเส้นผมจนแหว่งโหว่
ค่อยค่อยทำไปทีละน้อย ทุกทุกวันมันก็เริ่มเป็นทรงแบบรองทรงได้ไม่ยากเลย
คราวนี้ช่างตัดผมที่ฝีมือลวกลวกอย่าได้แอ้มเงินค่าตัดผมของข้าพเจ้าอีกต่อไป คราวนี้ผมแทบไม่มีโอกาสได้ยาวรกรุงรังไร้ทรงอีกต่อไป
นี่อย่างไรที่เงินแม้จะเล็กน้อย ทว่า มันมีค่ายิ่งใหญ่เสมอสำหรับคนที่เบี้ยน้อยหอยน้อยหรือหาเช้ากินค่ำ อย่าคิดว่าก็แค่นี้เองทำไมไม่ยอมไปให้ช่างตัดผมให้ จะได้ไม่แหว่งเว้าดูน่าเกลียดข้าพเจ้าคิดว่าช่างเถิด ข้าพเจ้าไม่เห็นหัวตัวเองเสียอย่าง ก็ไม่รู้สึกอะไรหรืออับอายหรอก
เงินบาทเงินสลึงบางครั้งมันมีค่ามหาศาลแตกต่างจากเงินยี่สิบสามสิบล้านของบางคนที่บรรทุกใส่รถปิกอัพเป็นลังลังมหาศาล
สุดท้ายเจ้าของเงินก็ไม่อาจจะหยิบฉวยเอาติดตัวไปได้แม้แต่ธนบัตรใบเดียว ใช่หรือไม่เงินจำนวนนั้นม้นช่างไร้ค่ากับเจ้าของมันเสียเหลือเกิน.
28/12/2567