Wednesday, February 19, 2025
More
    Homeเรื่องสั้น-วรรณกรรมเรื่องเล่าในรถร้อน EP.38

    เรื่องเล่าในรถร้อน EP.38

    หนึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างเนือยๆ ระเรื่อยละห้อยอ้อยอิ่งเหมือนลังเลไม่คิดจะอำลา

    หลังจากเดินข้ามสะพานลอยไปยังป้ายรถเมล์ นั่งรอยืนรอรถเมล์สายประจำที่ดูเหมือนจะมีน้อยที่สุดในทุกสายที่แล่นผ่านเส้นทางสายนี้

    เหลือบแลดูผู้คนที่ผ่านมาให้เห็นเพียงชั่วครู่หนึ่งก็ผ่านไปมีคนหน้าใหม่หน้าเดิมมาแทนที่ไปเรื่อยๆ บางคนคุ้นหน้าเห็นประจำ จนพอจะรู้ว่าจะขึ้นรถเมล์สายไหนหรือรถตู้ประจำทางก็มี

    ความชาชินกับการรอรถเมล์นานนับชั่วโมง พอช่วยบรรเทาอารมณ์หงุดหงิดไปได้บ้าง ถือเป็นสถานการณ์ปกติที่สุดแล้ว แต่ถ้ามายืนที่ป้ายแผล็บเดียวรถเมล์แล่นเข้ามาเทียบจอดตรงหน้านี่สิเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ

    พอรถเมล์สายประจำวิ่งเข้ามาจอดตรงป้าย ก้าวขึ้นไปมองหาเก้าอี้นั่งเป็นอันดับแรก หาเจอแล้วรีบสาวเท้าไปยังเป้าหมายโดยไวเท่าที่จะทำได้

    พอเงยหน้าสังเกตเบื้องแรกเห็นโชเฟอร์เป็นผู้หญิงพนักงานเก็บค่าโดยสารก็เป็นผู้หญิง คิดว่าคงเดินทางอย่างสะดวกปลอดภัยแน่แท้

    รถเมล์คงแล่นไปตามเส้นทางไม่เร่งรีบแล่นตะบึงตะบันเหมือนอย่างโชเฟอร์ผู้ชายที่ส่วนมากมักเป็นไปอย่างนั้น

    หาเป็นดังคาดคิดไม่เลย

    พอรถกระชากออกจากป้ายก็รู้แล้วว่าคิดผิดไปไกลเลย โชเฟอร์รายนี้ขับด้วยความเชื่อมั่นตัวเองสูงมากราวกับนักแข่งปานนั้น หักพวงมาลัยเปลี่ยนเลนไปด้านขวา เหยียบคันเร่งพุ่งแรงหวือแซงรถราบนถนนคันอื่นๆ อย่างไม่แยแสสภาพรถเลยแม้แต่น้อย

    โชเฟอร์หญิงหล่อนบังคับรถเหมือนรู้ใจคนโดยสารอยากเดินทางให้ถึงที่หมายเร็วทันใจ จนช่วงใกล้จะถึงป้ายรถเมล์จุดถัดไป เสียงออดสัญญาณบอกของผู้โดยสารบางคนจะลงป้ายหน้า ขณะที่ช่วงใกล้สี่แยกมียวดยานจะเลี้ยวซ้ายหนาแน่นติดกันยาวเหยียด หากจะเบนเปลี่ยนเลนชิดซ้ายคงทำได้ยากแน่นอน

    แต่คิดผิดอีกหน

    หล่อนตะโกนบอกช่วยโบกซ้ายหน่อยจ้า

    เหมือนรู้งาน ข้าพเจ้ามองออกไปด้านหลังซ้าย ก่อนจะยื่นแขนโบกเป็นสัญญาณให้รถชาวบ้านที่ต่อแถวรอเลี้ยวซ้ายช่วยเปิดทางให้รถเมล์เข้าจอดป้ายส่งผู้โดยสารลงได้อย่างง่ายดาย

    ไม่เชื่อว่า จะกลายเป็นไฟเลี้ยวได้อย่างอัตโนมัติเพียงแค่ได้ยินเสียงแจ๋วๆของโชเฟอร์หญิงคนนี้ร้องบอกเท่านั้น

    ตลอดการเดินทางที่ดูเหมือนไม่มีอะไร มักจะมีเรื่องเล็กๆน้อยๆ หยุมหยิมสะกิดให้คิดขึ้นเรียกร้องความสนใจได้บ้าง แม้กระทั่งจู่ๆ พอรถแล่นไปได้อีกสักหนึ่งกิโลเมตร โชเฟอร์หญิงก็ตะเบ็งเสียงแข่งกับเสียงเครื่องยนต์รถราบนถนนให้ได้ยิน

    “แหม่ไอ้หมอนี่มันจะแซงซ้ายให้ได้เลยนะ โธ่เว้ย”

    ด้วยท่าทางหงุดหงิดในอารมณ์พอขำๆ บ้างสำหรับคนเดินทางด้วยรถเมล์ ให้เคลิ้มลืมความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าขาแข็งยืนรอรถหรือสภาพการจราจรที่ติดหนึบติดหนับ

    หล่อนคงต้องการระบายความเครียดกับงานประจำวันบนท้องถนนที่ยาวไกลและแสนอืดอาดอึดอัดกับสภาพที่ต้องเผชิญทุกวี่วันไม่ซ้ำกันบ้างกระมัง

    มันเป็นงานที่ต้องการคนหนักแน่นรับมือกับสถานการณ์บนถนนที่บางครั้งหนาแน่น หรือเบาบาง ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของผู้ใช้เส้นทางร่วมกันที่ไม่รู้จักไม่สามารถคาดเดาความรู้สึกใดๆ ได้

    การตัดสินใจทุกวินาทีหลังพวงมาลัยของโชเฟอร์รถเมล์ ทำให้หลายคนกลายเป็นคนเครียดและพร้อมจะระเบิดอารมณ์ขึ้นมาอย่างไม่สามารถควบคุมมันได้

    บางครั้งการตัดสินใจหักพวงมาลัยแค่เสี้ยววินาทีก็อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายมากมายเหลือคณานับได้

    เมื่อก้าวขึ้นนั่งเก้าอี้จับพวงมาลัย โชเฟอร์รถเมล์แต่ละคนก็ดูราวกับมนุษย์แปลงร่างหรือทรานสฟอร์เมอร์ พร้อมจะปะฉะดะอย่างไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น

    แต่บางครั้งบางรายอาจพลั้งพลาดจนสร้างความสูญเสียอย่างน่าสลดให้เห็นอยู่เนืองๆ ดังโชเฟอร์หญิงคนหนึ่งที่เบนรถเมล์เข้าเลนซ้ายสุดทับรถจักรยานยนต์คันหนึ่งแล้วอย่างไม่รู้ตัวเลยก็เกิดขึ้นมาแล้ว

    แม้งานที่ดูไม่ใช้ทักษะมากมายนักในสายตาของผู้คนทั่วไปแต่ความรับผิดชอบนับว่าสูงกว่าหลายอาชีพอย่างเทียบกันไม่ได้เลยกับค่าแรงงานที่ต่ำต้อยกว่าหลายเท่าของอาชีพอื่นๆ

    ในเมื่อบนเส้นทางอาชีพของคนขับรถเมล์เต็มไปด้วยความเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางทุกเมื่อเชื่อวัน

    บางทีเมื่อสัมผัสความจริงเห็นการแสดงออกทางอารมณ์หงุดหงิดโมโหอารมณ์ขุ่นข้องบ้าง ข้าพเจ้ามักจะไม่ค่อยถือสากับเขาหรือเธอเหล่านั้นที่ทำหน้าที่แบกชีวิตนับร้อยนับพันเดินทางไปกลับสถานที่ทำงานกับบ้าน

    พร้อมที่คิดว่าเป็นการระบายความร้อนของเครื่องยนต์จากหม้อน้ำที่เดือดพล่านเท่านั้นเอง เมื่อถึงที่หมายเข้าอู่ก็เครื่องเย็นลงเท่านั้นเอง

    ข้าพเจ้าครุ่นคิดบ้างเล็กน้อยหลังลงจากรถเมล์ เดินไปตามทางสถานที่แห่งหนึ่ง พอดีกับเห็นชายสูงวัยหนุ่มใหญ่คนหนึ่งขี่รถไฟฟ้าล้อเดียว หรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าล้อเดียวโฉบแวบผ่านหน้าไปเลี้ยวเข้าถนนใหญ่ย้อนศรไปจนถึงสี่แยกที่รถราคับคั่ง เขาสามารถบังคับแล่นผ่านสี่แยกไปได้อย่างน่าอัศจรรย์

    นี่คงเป็นอีกวิถีหนึ่งของคนเมืองใหญ่ที่เลือกใช้พาหนะเดินทางได้อย่างอิสระคล่องตัวมากขึ้นไปอีกทางหนึ่ง

    เพียงแต่ภาวนาไม่อยากเห็นเรื่องราวสลดหดหู่ใจเกิดขึ้นกับผู้คนที่ใช้พาหนะเดินทางแบบนี้ หรือพาหนะประเภทไหนเลยเท่านั้น

    15/2/2568

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments