เหลือเพียงนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพแค่เกมเดียว ซีซั่นของยูไนเต็ดก็จะจบลงอย่างเป็นทางการ
แน่นอน มันเป็นซีซั่นที่แฟนๆ อยากจะลืม มันน่าผิดหวัง ถ้าถามแฟนๆ หลายคน ก็คงบ่นนักเตะบ้าง บ่นโค้ชบ้าง หรือบางคนก็ให้กำลังใจบ้าง
จู้กหู้กกู้ กราบสวัสดี เกิดคำถามทำไมนักเตะถึงเจ็บกันมากมาย ?
บ้างก็มองว่าเป็นเพราะเอริค เทน ฮาก , บ้างก็เป็นเพราะสตาฟฟ์ของสโมสร (ทีมแพทย์ ทำนักเตะเจ็บเยอะ) , บางคนมองว่าเป็นเพราะนักเตะ
จะเลี่ยง ไม่พูดถึง เอริค เทน ฮากก็คงไม่ได้ …
มันไม่ผิดเลยครับที่จะวิจารณ์เทน ฮาก เขาคือคนทำงาน และในเมื่อเนื้องานของเขามันไม่ได้เพอร์เฟคต์ เราย่อมติหรือตำหนิเขาได้เพื่อให้เขาดีขึ้น
‘โอเค นักเตะเจ็บทำให้คุณเซตเกม ตั้งระบบเกมได้ยาก’
อันนี้ แฟนฝั่งที่ซัพพอร์ตเอริคพูดกันมาเยอะแล้ว
แต่ขณะเดียวกัน ด้วยความเป็นกลาง เอริค และ ทีมโค้ช ก็ต้องรับผิดชอบไป ‘พร้อมๆ’ กับเจ้าหน้าที่ทีมฟิตเนสและทีมแพทย์ด้วย ว่าทำไมนักเตะถึงเจ็บกันมากมายขนาดนี้
อาการบาดเจ็บของนักเตะ ไม่ได้มาจากลมฟ้าอากาศ ไม่ได้มาจากโชคลาง แต่มันมาจากความผิดปกติบางอย่างในกิจวัตรการทำงานของสโมสร
ฟากที่ยืนหยัดไม่เชื่อมือเทน ฮาก หมดความชอบธรรม พอแล้ว เขาต้องออกไป หรือฟากที่ขอซัพพอร์ตเขาต่อ ขอให้เวลาเขาต่อ คงไม่ต้องพูดเรื่องเหตุผลของแต่ละฝั่ง มันชัดเจนอยู่แล้ว
หากเขาทำได้ดี ก็ต้องชื่นชมเขาได้เหมือนกัน มันคือความแฟร์ที่จะต้องมีต่อทุกคนบนโลก
มันเป็นซีซั่นที่อยากจะลืมของเทน ฮาก
แต่ใครจะไปรู้ว่าต่อจากนี้ เขาจะทำอะไรให้กับทีมๆ นี้ได้บ้าง?
สำหรับผม อย่าเพิ่งไปฟันธงเลยว่า มันแพ้แน่ มันจบแน่
เยอร์เก้น คล็อปป์ อาจเป็นกุนซือทีมอริของแฟนยูไนเต็ด แต่เมื่อคืนเขาพูดได้ดีประโยคนึงก็คือ
‘ถึงแม้ในวันที่แย่ แต่ผมเชื่อใจนะ ว่าคุณศรัทธาในทีมเสมอ และคำว่าเปลี่ยนความกังขาเป็นความศรัทธา (Doubters to believers) เนี่ย ผมไม่ได้เป็นคนเปลี่ยนนะ ผมแค่พูด คุณนั่นแหละที่เปลี่ยนมัน’
มันอาจจะเป็น Quote ที่อยู่ในหมู่แฟนบอลลิเวอร์พูล แต่วลีนี้ Doubters to believers ผมว่า มันก็ควรใช้ได้กับทุกทีมนะครับ
เสาร์นี้ เรามาชมดาร์บี้แมตช์ศึกแห่งศักดิ์ศรีเมืองแมนเชสเตอร์กันครับ