“เอ็นโกโล่ ก็องเต้”สุดยอดกองกลาง

จู้กหูกกู้กราบ หลังจากเชลซีชนะแมนซิตี้ ดาวเด่นของปีนี้ต้องยกให้เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แบบไม่ต้องคิดนาน

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมพาเชลซีคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาครองได้สำเร็จ

ในนัดชิงชนะเลิศเขาคว้าแมนออฟเดอะแมตช์ ด้วยสถิติการเล่นอันสุดยอด

– เข้าปะทะชนะ 100 เปอร์เซ็นต์
– เสียฟาวล์ 0 ครั้ง
– คู่แข่งเลี้ยงบอลผ่าน 0 ครั้ง
– ดวลตัวต่อตัวชนะ 11 ครั้ง (มากที่สุด)
– ดวลลูกกลางอากาศชนะ 4 ครั้ง (มากที่สุด)

นอกจากนี้ นับตั้งแต่ ก็องเต้ ย้ายมาร่วมทีมเชลซีเมื่อปี 2016 มีค่าเฉลี่ยการตัดบอลคู่แข่งอยู่ที่ทุก 5.8 นาที รวมทุกรายการ

– แย่งบอลกลับมาครองได้ 1,350 ครั้ง
– เข้าสกัดบอลได้สำเร็จ 493 ครั้ง
– ตัดบอลจากคู่แข่ง 360 ครั้ง

เอ็นโกโล่ ก็องเต้
ปี 2012 เล่นในลีกสมัครเล่นกับ บูโลญจน์
ปี 2013 เล่นในลีกเดอซ์กับ ก็อง
ปี 2014 เลื่อนชั้นขึ้นลีกเอิงกับ ก็อง
ปี 2015 เซ็นสัญญากับ เลสเตอร์ ซิตี้
ปี 2016 คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ เลสเตอร์ ซิตี้

ปี 2017 คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 2 กับ เชลซี
ปี 2018 คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกกับทีมชาติฝรั่งเศส
ปี 2019 คว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก กับ เชลซี
ปี 2020 คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ เชลซี

แชมป์บนโลกใบนี้เอ็นโกโล่ ก็องเต้กวาดมาหมด

เมื่อทุกอย่างผ่านไปก็คืออดีต มองไปข้างหน้าต่อคืออนาคต

สิ่งต่อไปที่ต้องพูดถึงก็คือเรื่องของซีซั่นหน้า พูดถึงเรื่องการจับฉลากรอบแบ่งกลุ่ม UCL

ต้องบอกว่าเป็นปีที่ลุ้นกันมันส์แน่ๆ เพราะบรรดาทีมยักษ์ใหญ่หล่นมาอยู่โถ 2 กันเพียบ!!

จู้กหู้กกู้จะแยกให้เห็นก่อนว่าแต่ละโถมีทีมไหนบ้าง

โถที่ 1 ซึ่งจะเป็นทีมวาง ประกอบไปด้วย
แมนซิตี้, เชลซี, แอตมาดริด, บาเยิร์น มิวนิค, อินเตอร์ มิลาน, ลีลล์, สปอร์ติ้ง ลิสบอน, บียาร์รีล

โถที่ 2 จะประกอบไปด้วย
ลิเวอร์พูล, แมน ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, ยูเวนตุส, เปแอสเช, เซบีญ่า, ดอร์ทมุนด์

โถที่ 3 จะประกอบไปด้วย
อาแจ็กซ์, ไลป์ซิก, อตาลันต้า, ปอร์โต้, เซนิต (และทีมที่มาจากรอบคัดเลือก)

และโถที่ 4 จะประกอบไปด้วย
เอซี มิลาน, โวล์ฟสบวร์ก, คลับ บรูกก์ (และทีมที่มาจากรอบคัดเลือก)

แต่เรื่องเศร้าที่แฟนฟุตบอลเซ็งกันถ้วนหน้าไม่มีสื่อเจ้าไหนซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลยุโรปมาถ่ายสด !!!

วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2564
02.00 น. กลุ่ม เอ : ตุรกี – อิตาลี
หาดูกันเอาเองล่ะกันนะโยม ฮา

เป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจ เมื่อทางยูฟ่าได้มีการหารือเกี่ยวกับเรื่องการยกเลิกกฎ ‘อเวย์โกล’ หรือกฎประตูทีมเยือน

ในตอนนี้เหลือเพียงการตัดสินใจครั้งสุดท้าย ว่าจะยกเลิกกฎอเวย์โกลที่ใช้มากว่า 56 ปีนี้หรือไม่

โดยในช่วงหลัง กฎอเวย์โกลมักถูกวิจารณ์ว่าล้าสมัย และมองว่ามันไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่าทีมที่ดีกว่าจะได้เข้ารอบ

ยิ่งในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่หลายครั้งเป็นการแข่งสนามกลาง แฟนฟุตบอลจึงมองว่า กฎอเวย์โกลไม่จำเป็น ทำให้ยูฟ่ากลับมาทบทวนเรื่องนี้

ปิดซีซั่นสาระมาเต็ม อิอิ

บายบ้าย